จุดหมายท่องเที่ยวยอดฮิตของไทยยังคงเป็น ภูเก็ต พัทยา และกรุงเทพฯ
แหล่งท่องเที่ยวหลักของไทยดึงดูดความสนใจจากนักท่องเที่ยวได้อย่างต่อเนื่อง ภูเก็ตยังคงครองอันดับหนึ่งจุดหมายปลายทางที่ถูกค้นหามากที่สุดของไทย แม้ยอดค้นหาสูงขึ้นเพียง 8% เมื่อเทียบเป็นรายปี ขณะที่พัทยาเป็นเมืองที่กลุ่มนักท่องเที่ยวทั่วโลกสนใจเป็นอันดับสอง โดยมียอดค้นหาเพิ่มขึ้น 17% และกรุงเทพฯ เป็นอันดับที่สาม โดยมียอดค้นหาเพิ่มขึ้น 32% เมื่อเทียบกับปีก่อน จากการเดินทางเพื่อธุรกิจ ไลฟ์สไตล์คนเมือง รวมถึงงานอีเวนต์ต่าง ๆ ที่จัดขึ้นในกรุงเทพฯ
นอกจากนี้หัวหินยังพบการค้นหาเพิ่มขึ้นถึง 15% และเกาะช้างมียอดค้นหาเพิ่มขึ้นถึง 8% ถือเป็นเมืองท่องเที่ยวใหม่ที่กำลังได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวที่ใช้ภาษารัสเซีย ในขณะเดียวกันความต้องการท่องเที่ยวระยะไกลยังคงได้รับความนิยมอย่างมาก โดยเฉพาะจากกลุ่มนักท่องเที่ยวที่ใช้ภาษารัสเซีย ซึ่งให้ความสนใจการเดินทางมายังกรุงเทพฯ เพิ่มขึ้นสูงถึง 49% เมื่อเทียบเป็นรายปี
เทรนด์การจองใกล้วันเดินทาง "ฉับไว-ตัดสินใจเร็ว"
พฤติกรรมการเดินทางแบบ "ฉับไว-ตัดสินใจเร็ว" (Last-Minute Bookings) ยังคงเป็นจุดเด่น โดยจากรายงานการท่องเที่ยวล่าสุดของ Yango Ads ระบุว่า 81% ของการค้นหาทัวร์ท่องเที่ยวในประเทศไทยจากนักท่องเที่ยวทั่วโลก มองหาการจองใกล้วันเดินทางแบบกระชั้นชิด โดยการค้นหาจากนักท่องเที่ยวผู้ใช้ภาษารัสเซียสูงถึง 95% สะท้อนแนวโน้มการจองทัวร์การท่องเที่ยวในปัจจุบันที่เน้นความคล่องตัว การตัดสินใจที่รวดเร็ว และการปรับเปลี่ยนราคาตามความต้องการของตลาด (Dynamic Pricing)
การเปลี่ยนแปลงของกลุ่มนักท่องเที่ยวในตลาดสำคัญ
นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่มีความสนใจมาท่องเที่ยวในประเทศไทยมีอายุระหว่าง 25-34 ปี และอยู่ในกลุ่มที่มีรายได้ปานกลางถึงรายได้สูง นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวยังสนใจในทริปเดินทางแบบหลายประเทศในเอเชีย อาทิ ทริปงานแต่งงาน การท่องเที่ยวเชิง Wellness รวมถึงการท่องเที่ยวแบบพักผ่อนระยะยาว สะท้อนให้เห็นถึงประเทศไทยกำลังขยายฐานนักท่องเที่ยวพรีเมียมและมีไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายมากขึ้น
ดีมานด์ที่พักขยับตามพฤติกรรมใหม่ Business Hotel มาแรง รับเทรนด์ Bleisure
ความสนใจค้นหาที่พักในแต่ละหมวดหมู่ยังคงเปลี่ยนแปลงตามพฤติกรรมนักเดินทางยุคใหม่ โดยโรงแรมสำหรับนักธุรกิจมีอัตราการค้นหาเพิ่มขึ้นอย่างโดดเด่นสูงถึง 40% เมื่อเทียบรายปี ซึ่งได้รับแรงหนุนจากเทรนด์การเดินทางแบบผสมผสานธุรกิจและพักผ่อน (Bleisure) รวมถึงการทำงานระยะไกล (Remote Work)
ขณะเดียวกันรีสอร์ตยังคงได้รับความนิยมอย่างมาก ส่วนโรงแรมสำหรับครอบครัว สปา และบูทีคมีการค้นหาที่หลากหลายมากขึ้น ซึ่งได้รับอิทธิพลจากพฤติกรรมการจองแบบนาทีสุดท้ายใกล้วันเดินทาง ซึ่งนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้จะให้ความสำคัญกับความสะดวกและห้องว่างเป็นหลัก
ธุรกิจท่องเที่ยวเร่งเพิ่มงบการตลาดดิจิทัลรับความต้องการที่สูงขึ้น
อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวได้เพิ่มงบโฆษณาออนไลน์ให้สูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เพื่อรองรับความต้องการที่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยโฆษณาเชิงประสิทธิภาพที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวไทยจากกลุ่มประเทศที่ใช้ภาษารัสเซียเติบโตขึ้น 44% เมื่อเทียบรายปีในไตรมาส 3 ปี 2568 ขณะที่โรงแรม สายการบิน ตัวแทนการท่องเที่ยวออนไลน์ (OTAs) และหน่วยงานการท่องเที่ยวต่างแข่งกันแย่งชิงความสนใจนักท่องเที่ยวในช่วงไฮซีซันนี้
อย่างไรก็ตามการเข้าถึงกลุ่มนักท่องเที่ยวที่ใช้ภาษารัสเซียที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็วนับว่าเป็นความท้าทายสำคัญ เนื่องจากนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ใช้แพลตฟอร์มดิจิทัลและเสิร์ชเอนจินที่นักการตลาดในไทยอาจจะยังไม่คุ้นชิน อีกทั้งยังคาดหวังเนื้อหาที่เข้าใจถึงวัฒนธรรมและบริบทท้องถิ่น ไม่ใช่เพียงแค่การแปลข้อความโดยตรง
เครื่องมือครีเอทีฟ AI เพิ่มความแม่นยำให้การสื่อสารท่องเที่ยวไทยสู่ตลาดต่างชาติ
เพื่อลดช่องว่างด้านการสื่อสารกับนักท่องเที่ยวต่างชาติกลุ่มใหม่ ๆ ธุรกิจท่องเที่ยวไทยเริ่มหันมาใช้เครื่องมือครีเอทีฟที่ขับเคลื่อนด้วย AI ซึ่งสามารถ "วิเคราะห์ความต่างทางวัฒนธรรม" ได้อย่างแม่นยำ ไม่ใช่เพียงแปลข้อความแบบคำต่อคำ แต่สร้างเนื้อหาที่สอดคล้องกับบริบท ภาษา ความรู้สึก และพฤติกรรมผู้ใช้ที่พูดภาษารัสเซียได้อย่างลึกซึ้ง
แนวทางนี้ช่วยประหยัดเวลาในการทำงาน เพิ่มประสิทธิภาพการสื่อสาร และยกระดับการมีส่วนร่วมของผู้ชม ทำให้โรงแรม รีสอร์ต สถานที่ท่องเที่ยว และองค์กรด้านการท่องเที่ยวของไทยสามารถเข้าถึงนักท่องเที่ยวคุณภาพสูงได้มากขึ้น พร้อมต่อยอดโอกาสจากความต้องการท่องเที่ยวไทยที่ยังเติบโตแข็งแกร่งตามรายงานการท่องเที่ยวฉบับพิเศษไตรมาส 3 ปี 2568 จาก Yango Ads
นางสาวเนฮะ ดาวาร์ ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ Yango Ads ประเทศไทย กล่าวว่า "AI จะเข้ามามีบทบาทสำคัญในทุกอุตสาหกรรมในประเทศไทย และเราเชื่อมั่นว่าเทคโนโลยี AdTech ของ Yango Ads จะสามารถตอบโจทย์ให้ธุรกิจไทยทุกขนาด ตั้งแต่ผู้ประกอบการรายย่อยไปจนถึงองค์กรขนาดใหญ่ สามารถเข้าถึงเทคโนโลยีขั้นสูง ข้อมูลเชิงลึกด้านวัฒนธรรม และโอกาสเชื่อมต่อกับตลาดระดับโลกได้ ด้วยการนำข้อมูลมาวิเคราะห์และต่อยอดให้สอดคล้องกับบริบททางวัฒนธรรมอย่างแท้จริง"
