กรมที่ดินชี้แจงกรณีโครงการรถไฟทางคู่สายอีสานและสายเหนือ ยืนยันได้ส่งมอบรูปแผนที่ (ร.ว.๙) แล้ว

ตามที่สื่อมวลชนได้นำเสนอข่าวกรณีการก่อสร้างรถไฟทางคู่สายอีสานและสายเหนือประสบปัญหาความล่าช้า อันเนื่องมาจากกระบวนการเวนคืนที่ดินนั้น กรมที่ดินได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงในประเด็นดังกล่าวแล้ว ขอชี้แจงว่า ข้อมูลที่ปรากฏในข่าวบางส่วนอาจก่อให้เกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อน

Thursday 25 December 2025 16:19
กรมที่ดินชี้แจงกรณีโครงการรถไฟทางคู่สายอีสานและสายเหนือ ยืนยันได้ส่งมอบรูปแผนที่ (ร.ว.๙) แล้ว

กรมที่ดินขอเรียนว่า โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่สายใหม่ ซึ่งมีการกล่าวอ้างถึงการดำเนินงานของทีมรังวัดจากสำนักมาตรฐานและส่งเสริมการรังวัดนั้น ปัจจุบันงานรังวัดในหลายพื้นที่มีความคืบหน้าอย่างชัดเจน โดยเฉพาะในโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่สายบ้านไผ่-มหาสารคาม-ร้อยเอ็ด-มุกดาหาร-นครพนม ซึ่งมีจำนวนแปลงที่ดินที่มีเอกสารสิทธิทั้งสิ้น 7,280 แปลง สำนักงานที่ดินได้ดำเนินการส่งรูปแผนที่ (ร.ว.๙) ให้การรถไฟแห่งประเทศไทยแล้วจำนวน 7,190 แปลง คงเหลือเพียง 90 แปลง ที่ยังไม่สามารถส่งมอบได้ แบ่งเป็น ในพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ด 8 แปลง และจังหวัดมุกดาหาร 25 แปลง เนื่องจากเป็นการยื่นคำขอภายหลังพระราชกฤษฎีกาเวนคืนที่ดินโครงการรถไฟทางคู่สายอีสานที่สิ้นสุดอายุเมื่อวันที่ 16 กันยายน 2568 และจังหวัดนครพนม 57 แปลง เนื่องจากอยู่ระหว่างการตรวจเรื่องรังวัด นอกจากนี้ ยังมีงานค้างจดทะเบียนอยู่ที่สำนักงานที่ดิน จำนวน 1,008 แปลง ส่วนโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่สายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ มีจำนวนแปลงที่ดินที่มีเอกสารสิทธิทั้งสิ้น 7,413 แปลง สำนักงานที่ดินได้ส่งมอบรูปแผนที่ (ร.ว.๙) ให้การรถไฟแห่งประเทศไทยครบถ้วนแล้วทั้ง 7,413 แปลง และมีงานค้างจดทะเบียนอยู่ที่สำนักงานที่ดินจำนวน 485 แปลง สำหรับงานค้างจดทะเบียนของทั้งสองโครงการนั้น อยู่ระหว่างรอการรถไฟแห่งประเทศไทยดำเนินการจดทะเบียน โดยสำนักงานที่ดินได้แจ้งให้การรถไฟแห่งประเทศไทยเร่งดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องแล้ว

ทั้งนี้ ตามมาตรา 25 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยการเวนคืนและการได้มาซึ่งอสังหาริมทรัพย์ พ.ศ. 2562 ได้บัญญัติไว้ว่า "หากเจ้าของตกลงซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ ให้พนักงานเจ้าหน้าที่จัดทำสัญญาซื้อขายกับเจ้าของโดยเร็วตามแบบที่เจ้าหน้าที่กำหนด และให้พนักงานเจ้าหน้าที่จ่ายเงินค่าทดแทนให้แก่เจ้าของภายในหนึ่งร้อยยี่สิบวันนับแต่วันทำสัญญาซื้อขาย ทั้งนี้ ถือว่าได้มีการโอนกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์ดังกล่าวนับแต่วันชำระเงิน"

ดังนั้น การจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมจึงเป็นเพียงกระบวนการเปลี่ยนแปลงชื่อผู้ถือกรรมสิทธิ์ในทางทะเบียนเท่านั้น ไม่เป็นอุปสรรคต่อการดำเนินการก่อสร้างแต่อย่างใด และไม่เกี่ยวข้องกับการจัดทำหรือส่งมอบรูปแผนที่ (ร.ว.๙) ตามที่มีการกล่าวอ้างในข่าว กรมที่ดินขอยืนยันว่า ได้ปฏิบัติหน้าที่ตามอำนาจหน้าที่อย่างครบถ้วน ถูกต้อง และต่อเนื่อง เพื่อสนับสนุนการดำเนินโครงการพัฒนาระบบรางของประเทศให้เป็นไปตามแผนงานและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง