บริษัท กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ GUNKUL ผู้นำด้านพลังงานสีเขียว และโครงสร้างพื้นฐาน ตอกย้ำความสำเร็จของวิสัยทัศน์ใหม่ในการในการมุ่งสู่การเป็น "พาร์ตเนอร์ด้านพลังงานสีเขียวและโครงสร้างพื้นฐานที่ได้รับการยอมรับสูงสุดในภูมิภาคเอเชีย" บนเส้นทางความยั่งยืน หลังได้รับการประเมินให้เป็นหุ้นยั่งยืน SET ESG Rating ต่อเนื่องเป็นปีที่ 5 จากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยในปี 2568 บริษัทได้รับการจัดอันดับในระดับสูงสุด AAA ซึ่งสะท้อนถึงผลการดำเนินงานที่ยอดเยี่ยมในทุกมิติทั้งสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล
นางสาวนฤชล ดำรงปิยวุฒิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) ("บริษัทฯ") กล่าวว่า "นับเป็นความสำเร็จของ GUNKUL ที่ได้รับคะแนนในระดับ AAA แสดงถึง ความมุ่งมั่นอย่างเป็นรูปธรรมของ GUNKUL ในการเป็นพาร์ตเนอร์ด้าน Green Transition ควบคู่กับ การพัฒนาและลงทุนในโครงการพลังงานหมุนเวียน ภายใต้กรอบแนวคิด สร้าง (Create) แบ่ง (Contribute) ปัน (Share) เพื่อให้เกิดการดำเนินธุรกิจบนหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี และการบริหารจัดการผลกระทบ ด้านสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นระบบ พร้อมด้วยการขับเคลื่อน 3 กลยุทธ์สู่ความยั่งยืน ได้แก่ 1. Build Business Muscles มุ่งเน้นการเติบโตรายได้ของ 3 กลุ่มธุรกิจหลัก และต่อยอดธุรกิจใหม่ที่ต่อเนื่อง 2. Trim Operational Fat เพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการทำงานโดยลดทอนขั้นตอนหรือต้นทุนที่ไม่จำเป็น 3. Create Stakeholder Impact ขับเคลื่อนธุรกิจสู่ความยั่งยืนในทุกมิติ เพื่อดูแลผู้มีส่วนได้ส่วนเสียตลอด ห่วงโซ่คุณค่า ทั้งนี้ประเทศไทยกำลังเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจดิจิทัลและพลังงานสะอาด ซึ่งบริษัทฯ เชื่อมั่นว่าการเข้าถึงพลังงานสะอาดคือกลไกสำคัญในการยกระดับคุณภาพชีวิตและสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจ องค์กรจึงดำเนินธุรกิจที่ไม่เพียงตอบโจทย์ความมั่นคงด้านพลังงานของประเทศ แต่ให้ความสำคัญกับการพัฒนาทักษะแรงงานไทยที่ตอบโจทย์อุตสาหกรรมอนาคต การขับเคลื่อนนวัตกรรมที่ช่วยเปิดโอกาสในการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วนเพื่อส่งเสริมให้ประชาชนผู้ใช้พลังงานสามารถเติบโตไปกับเศรษฐกิจสีเขียวอย่างมั่นคง"
ผลการประเมินในระดับ AAA ที่ GUNKUL ได้รับในปีนี้ โดยเป็น 1 ใน 102 บริษัทจดทะเบียน ที่ได้ รับการประเมินให้เป็นหุ้นยั่งยืน SET ESG Ratings ระดับ AAA ซึ่งนอกจากเป็นความสำเร็จในมิติด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืนตามกรอบ ESG ยังเป็นการสะท้อนถึงบทบาทในการสนับสนุนเป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และเป้าหมาย Net-Zero ของประเทศไทย ตลอดจนการสร้างความเชื่อมั่น ให้แก่ นักลงทุน คู่ค้า และสังคมในระยะยาว
