แมลงเศรษฐกิจ ผึ้งโพรงบ้านไสใหญ่ กับความสำเร็จแปลงใหญ่ สร้างมูลค่ากว่าปีละ 3.5 ล้านบาท

พฤหัส ๑๔ มกราคม ๒๐๒๑ ๐๙:๒๐
นางอัญชนา ตราโช รองเลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เปิดเผยถึงการติดตามโครงการระบบส่งเสริมการเกษตรแบบแปลงใหญ่แมลงเศรษฐกิจของกลุ่มวิสาหกิจชุมชนกลุ่มเลี้ยงผึ้งโพรงบ้านไสใหญ่ หมู่ที่ 7 ต.อ่าวตง อ.วังวิเศษ จ.ตรัง ซึ่งประสบผลสำเร็จอย่างมาก สามารถสร้างรายได้ให้แก่กลุ่มเกษตรกร และเกิดการต่อยอดและแปรรูปผลผลิตอย่างหลากหลาย โดยกลุ่มมีการดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2560 ปัจจุบันมีสมาชิกเกษตรกร 45 ราย และจากการสอบถามกลุ่มเกษตรกร พบว่า เกษตรกรมีการเลี้ยงผึ้งโพรงรวม 1,530 รัง หรือเฉลี่ยรายละ 34 รัง ในบริเวณพื้นที่สวนปลูกปาล์มน้ำมัน สวนยางพารา
แมลงเศรษฐกิจ ผึ้งโพรงบ้านไสใหญ่ กับความสำเร็จแปลงใหญ่ สร้างมูลค่ากว่าปีละ 3.5 ล้านบาท

ด้านการลงทุนนั้น เกษตรกรจะทำการลงทุนเพียงครั้งเดียวในปีแรกเฉลี่ย 1,724 บาท/รัง ซึ่งในระยะเวลา 1 ปี สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ปีละ 1 - 2 ครั้ง ให้ผลผลิตน้ำผึ้งเฉลี่ย 5 ขวด/รัง/ปี (ปริมาณน้ำผึ้ง 1 ขวด =750 มิลลิลิตร) โดยเกษตรกรสามารถจำหน่ายในราคาเฉลี่ยขวดละ 464 บาท ส่งผลให้เกษตรกรมีรายได้ต่อครัวเรือน 78,880 บาท/ปี คิดเป็นมูลค่าทั้งกลุ่ม 3,549,600 บาท/ปี สำหรับผลผลิตที่เกษตรกรขายนอกจากจะเป็นน้ำผึ้งแล้ว ยังมีการแปรรูปและการจัดจำหน่ายภายใต้ชื่อแบรนด์ฅนผึ้งป่าอีกด้วย เช่น สบู่น้ำผึ้งขมิ้น แชมพูน้ำผึ้งอัญชัน ยาหม่อง เป็นต้น ส่วนใหญ่จัดจำหน่ายผ่านรูปแบบออนไลน์เพื่อขยายช่องทางการตลาดและตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคแบบวิถีใหม่ยุค New Normal

"ผลสำเร็จของกลุ่มเลี้ยงผึ้งโพรงบ้านไสใหญ่ นับเป็นการรวมกลุ่มของวิสาหกิจชุมชนแบบแปลงใหญ่ ที่มีการร่วมกันผลิต ร่วมกันการแปรรูป และร่วมกันจำหน่าย ช่วยให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น อีกทั้งเกษตรกรยังได้มีการพบปะแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ภายในกลุ่ม และมีการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมเพื่อให้เกิดความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติมากยิ่งขึ้นอีกด้วย ซึ่งนโยบายการส่งเสริมการเกษตรแบบแปลงใหญ่ นับเป็นนโยบายที่เป็นเกราะคุ้มกัน สอดคล้องกับนโยบายตลาดนำการผลิต สามารถสร้างรายได้ให้เกษตกรอย่างมั่นคง สำหรับท่านที่สนใจสินค้าของกลุ่มวิสาหกิจชุมชนกลุ่มเลี้ยงผึ้งโพรงบ้านไสใหญ่ สามารถเลือกชมสินค้าได้ทาง Facebook บ้านไสใหญ่ ชุมชน : คนผึ้งป่า หรือสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ 081 538 8653" รองเลขาธิการ สศก. กล่าว

นอกจากนี้ สศก. ยังมีการติดตามการดำเนินงานแปลงใหญ่ในพื้นที่ภาคใต้ เพิ่มเติม คือ นครศรีธรรมราช และสุราษฎร์ธานี โดยติดตามดำเนินการแปลงใหญ่ 6 สินค้า ประกอบด้วย ปาล์มน้ำมัน ยางพารา ทุเรียน มังคุด ปลานิล และแมลงเศรษฐกิจ ซึ่งภาพรวมการดำเนินโครงการฯ เกษตรกรมีความพึงพอใจต่อโครงการอยู่ในระดับมาก เพราะมีสมาชิกสามารถแลกเปลี่ยนความรู้ด้านการพัฒนาคุณภาพสินค้าอย่างสม่ำเสมอ และนำไปปรับใช้เพื่อสร้างรายได้แก่สมาชิกกลุ่มอย่างยั่งยืน โดยเฉพาะภายใต้ภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน และการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ที่ยังมีการแพร่ระบาดต่อเนื่อง จึงนับเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันที่ดีให้แก่เกษตรกร

ทั้งนี้ โครงการระบบส่งเสริมการเกษตรแบบแปลงใหญ่ นับเป็นหนึ่งในโครงการสำคัญตามนโยบายของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้มีการดำเนินการต่อเนื่อง ตั้งแต่ปี 2559 เพื่อสนับสนุนให้เกษตรกรมีการรวมกลุ่มและบริหารจัดการร่วมกันได้ในด้านการผลิตและการตลาด และให้เกษตรกรสามารถลดต้นทุนการผลิต มีผลต่อหน่วยเพิ่มขึ้น ผลผลิตมีคุณภาพ ได้มาตรฐาน ภายใต้การบูรณาการของหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน ซึ่งปัจจุบันมีแปลงใหญ่จำนวน 11 กลุ่ม รวม 91 สินค้า 77 จังหวัดทั่วประเทศ

ที่มา: สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๕๔ กทม. เตรียมปรับปรุงพัฒนาระบบการให้บริการงานทะเบียนสำนักงานเขต
๑๗:๑๗ สมาคมเพื่อนชุมชน ส่งเสริมองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ถ่ายทอดองค์ความรู้ แนวทางลดก๊าซเรือนกระจก
๑๗:๔๑ กทม. เร่งติดตั้งเสา-ตะแกรงรั้วกั้นเกาะกลางถนนวิสุทธิกษัตริย์ที่ถูกรถชนเสียหาย
๑๗:๐๔ คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ขอเชิญชวนนักศึกษา และบุคคลทั่วไป เข้าร่วมงาน M-Sci JOB FAIR 2024 หางานที่ใช่ สร้างงาน สร้างโอกาส วันที่ 2 พฤษภาคม 2567 เวลา 13.00-16.00 น. ณ หอประชุม รักตะกนิษฐ
๑๗:๒๘ ชไนเดอร์ อิเล็คทริค นำเสนอโซลูชั่นดิจิทัลลุยตลาดอาคารอัจฉริยะเพื่อความยั่งยืน
๑๖:๒๙ จิม ทอมป์สัน เผยทิศทางการพา แบรนด์ผ้าเมืองไทย ผงาดเวทีโลก ส่องกลยุทธ์การครีเอตผลงานคุณภาพให้สอดรับเทรนด์สิ่งทอระดับสากล
๑๖:๓๘ อาดิดาสจับมือนักฟุตบอลระดับตำนาน ส่งแคมเปญ 2006 JOSE 10 สร้างแรงบันดาลใจและความเป็นไปได้อันไร้ขีดจำกัดให้กับเหล่านักฟุตบอลเยาวชนหญิง
๑๖:๑๐ Maison Berger Paris พาชมเครื่องหอมบ้าน 2 คอลเลคชั่นใหม่ MOLECULE และ JOY จัดเต็มเซ็ตของขวัญ ครบทุกรูปแบบความหอม สร้างบรรยากาศหรูหราพร้อมกลิ่นหอมบริสุทธิ์
๑๖:๕๗ กทม. เตรียมระบบเฝ้าระวัง-ควบคุมการแพร่ระบาดโรคโควิด 19 หลังเทศกาลสงกรานต์
๑๕:๑๕ NCC. ผนึก ททท. ขยายตลาดท่องเที่ยวมูลค่าสูง ชี้ตลาดท่องเที่ยวเฉพาะทาง (Niche Market) โต ลุยจัดงาน Thailand Golf Dive Expo plus OUTDOOR Fest