บลจ.ไทยพาณิชย์ โชว์บริหารกองอสังหาฯ - โครงสร้างพื้นฐาน Q4 ปี 63 จ่ายปันผลและลดทุนกว่า 3,000 ล้านบาท พร้อมแจง COVID-19 ไม่กระทบ

จันทร์ ๐๑ มีนาคม ๒๐๒๑ ๑๓:๕๖
นายณรงค์ศักดิ์ ปลอดมีชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ไทยพาณิชย์ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯ เตรียมจ่ายเงินปันผล กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์และกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานภายใต้การบริหารงานสำหรับไตรมาสที่ 4/2563 จากงวดผลการดำเนินงานระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม - 31 ธันวาคม 2563 และ/หรือกำไรสะสม จำนวน 5 กองทุน และจ่ายลดทุนจำนวน 1 กองทุน รวมมูลค่าทั้งสิ้นกว่า 3,000 ล้านบาท

ทั้งนี้ การจ่ายปันผลประกอบด้วย กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ประเภทอาคารสำนักงานให้เช่าจำนวน 3 กองทุน ได้แก่ กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์แสนสิริ ไพร์มออฟฟิศ (SIRIP) ลงทุนในกรรมสิทธิ์ในโครงการอาคารสิริภิญโญ จ่ายเงินปันผลในอัตรา 0.0800 บาทต่อหน่วย นับเป็นครั้งที่ 26 รวมจ่ายเงินปันผล 3.6531 บาทต่อหน่วย (นับตั้งแต่วันที่จ่ายปันผลครั้งแรกเมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2557) กองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ไพร์มออฟฟิศ (POPF) ลงทุนในอาคารสมัชชาวานิช 2 อาคารเพลินจิต เซ็นเตอร์ และอาคารบางนา ทาวเวอร์ ได้กำหนดจ่ายเงินปันผลในอัตรา 0.3100 บาทต่อหน่วย นับเป็นครั้งที่ 39 รวมจ่ายเงินปันผล 9.9788 บาทต่อหน่วย (นับตั้งแต่วันที่จ่ายปันผลครั้งแรกเมื่อวันที่ 7 ก.ย. 2554) และกองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ CPN คอมเมอร์เชียล โกรท (CPNCG) ที่ลงทุนในสิทธิการเช่าของอาคารสำนักงานให้เช่าบริเวณเขตปทุมวัน จ่ายปันผลในอัตรา 0.2650 บาทต่อหน่วย ซึ่งเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า ส่งผลให้ในปี 2563 ทางกองทุนจ่ายเงินปันผลรวมทั้งสิ้น 1.0195 บาทต่อหน่วยนับว่าเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าประมาณ 1% นับเป็นการจ่ายปันผลครั้งที่ 33 รวมจ่ายเงินปันผล 7.5411 บาทต่อหน่วย (นับตั้งแต่วันที่จ่ายปันผลครั้งแรกเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2556)

นอกจากนี้ ยังมีกองทุนอสังหาฯ ประเภทโรงงานและคลังสินค้า จำนวน 1 กองทุน ได้แก่ กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ปิ่นทอง อินดัสเตรียล ปาร์ค (PPF) ลงทุนในโรงงานและคลังสินค้าให้เช่าบริเวณเขตพื้นที่ EEC (โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก) โดยในไตรมาส 4 ปี 2563 มีผลประกอบการที่มั่นคงต่อเนื่อง อีกทั้งราคาของหุ้นของกองทุนค่อนข้างมีเสถียรภาพ ไม่ผันผวนมากตามตลาด โดยทางกองทุนพิจารณาการจ่ายปันผล ที่ 0.1908 บาท/หน่วย ส่งผลให้ในปี 2563 ทางกองทุนจ่ายเงินปันผลรวมทั้งสิ้น 0.7158 บาท/หน่วย ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าประมาณ 2% นับเป็นการจ่ายปันผลครั้งที่ 26 รวมจ่ายเงินปันผล 4.9095 บาทต่อหน่วย (นับตั้งแต่วันที่จ่ายปันผลครั้งแรกเมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2557) โดยทั้ง 4 กองทุน มีกำหนดจ่ายปันผลในวันที่ 5 มีนาคม 2564 นี้

กองทุนโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคม 1 กองทุน ได้แก่ กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคม ดิจิทัล (DIF) ลงทุนในทรัพย์สินด้านโทรคมนาคม โดยตลอดปี 2563 กองทุนไม่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โรคระบาด Covid-19 ซึ่งเห็นได้จาก กองทุนได้รับค่าเช่าจากผู้เช่า คือ กลุ่มบริษัททรู คอร์ปอเรชั่น (TRUE) และผู้เช่ารายอื่นครบถ้วนและต่อเนื่อง ส่งผลให้ในปี 2563 กองทุน DIF มีกำไรจากการดำเนินงานที่ดีสม่ำเสมอต่อเนื่องและเป็นไปตามที่กองทุนคาดการณ์ไว้ เนื่องจากรายได้หลักของกองทุนมาจากสัญญาให้เช่าทรัพย์สินเสาโทรคมนาคม และสาย Fiber Optic Cable ระยะยาว กับกลุ่มบริษัททรู โดยทรัพย์สินดังกล่าวเป็นทรัพย์สินที่สำคัญที่กลุ่มบริษัททรูใช้ให้บริการในธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ และอินเตอร์เน็ต บรอดแบนด์ ที่ทรูเป็นหนึ่งในผู้ให้บริการรายใหญ่ของประเทศ และสอดคล้องกับทิศทางการเติบโตแบบก้าวกระโดด ของความต้องการใช้งานอินเตอร์เน็ตทั่วโลก ทั้งในด้านการประกอบอุตสาหกรรมการผลิต การแพทย์ การสื่อสาร และด้านความบันเทิง ส่งผลให้กองทุนพิจารณาจ่ายปันผลในอัตรา 0.2610 บาทต่อหน่วยติดต่อเป็นไตรมาสที่ 5 สำหรับการจ่ายปันผลครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 28 รวมจ่ายปันผล 6.9084 บาทต่อหน่วย (นับตั้งแต่วันที่จ่ายปันผลครั้งแรกเมื่อวันที่ 22 พ.ค. 2557) โดยกำหนดจ่ายปันผลในวันที่ 12 มีนาคม 2564 นี้

พร้อมกันนี้ได้จ่ายเงินลดทุนจำนวน 1 กองทุน เป็นกองทุนอสังหาฯ ประเภทโรงแรม ได้แก่ กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์เอราวัณ โฮเทล โกรท (ERWPF) ที่ลงทุนในโรงแรมไอบิส ป่าตอง และโรงแรมไอบิส พัทยา เป็นการจ่ายเงินลดทุนในอัตรา 0.0994 บาทต่อหน่วย เพื่อเป็นการจ่ายคืนสภาพคล่องส่วนเกินจากกรณีที่กองทุนมีการรับรู้รายการการขาดทุนที่ยังไม่เกิดขึ้นจริงเนื่องจากการลดลงของราคาการสอบทานค่าทรัพย์สิน ซึ่งเป็นรายการทางบัญชีที่ไม่ได้มีกระแสเงินสดจ่ายออกไปจริง โดยกำหนดจ่ายปันผลในวันที่ 5 มีนาคม 2564 นี้

ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันผลการดำเนินงานในอนาคต ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมและรับหนังสือชี้ชวนได้ทุกวันทำการ ได้ที่ SCBAM Call Center โทร.02-777-7777 กด 0 กด 6 หรือผู้สนับสนุนการขายทุกราย

ที่มา: บลจ.ไทยพาณิชย์

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๙ เม.ย. บิทูเมน มารีน บริษัทลูก TASCO ลงนามสัญญาต่อเรือขนส่งยางมะตอย เสริมศักยภาพกองเรือ
๑๙ เม.ย. รมว.เกษตรฯ ลุยร้อยเอ็ด ผลักดันโครงการพัฒนาแหล่งน้ำ 3 แห่ง
๑๙ เม.ย. กูรูหุ้นเชียร์ซื้อ PSP เคาะเป้าราคาสูงสุด 8 บ./หุ้น ยอดขายพุ่ง-หนี้ลด ดันกำไรปี 67 ออลไทม์ไฮ ดีล MA สร้าง New S-Curve
๑๙ เม.ย. ข้าวกล้อง-จักรีภัทร พร้อมเต็มร้อย! ประเดิม จูเนียร์จีพี สนามแรก ประเทศอิตาลี
๑๙ เม.ย. กรมประมงขอเชิญร่วมแข่งขันตกปลาชะโด
๑๙ เม.ย. เชลล์ดอน การ์ตูนดังร่วมสาดความสนุกในเทศกาลสงกรานต์
๑๙ เม.ย. สปสช. ติดปีกเทคโนโลยีไอทีด้วยคลาวด์กลางภาครัฐ GDCC ยกระดับบริการบัตรทองรวดเร็วทันสมัย ดูแลสุขภาพคนไทยยุคดิจิทัล
๑๙ เม.ย. GSK ร่วมงาน Re-imagining UK Aging Care Event ของสถานทูตอังกฤษ มุ่งสร้างเสริมภูมิคุ้มกันผู้สูงอายุ
๑๙ เม.ย. เอส เอฟ จับมือ กปน. มอบสิทธิ์ดูฟรีรวม 1,000 ที่นั่ง เพียงใช้ MWA Point ที่ เอส เอฟ!!
๑๙ เม.ย. เตรียมพร้อมนับถอยหลัง 12 ชั่วโมงสุดท้าย! ก่อนเริ่มประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ Bitcoin Halving ครั้งที่ 4