ทั้งยังมาพร้อมกับฟังก์ชันสำคัญ SOS ปุ่มฉุกเฉินที่จะแจ้งเตือน ขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ได้ ถือเป็นการนำเทคโนโลยี AIS IoT มาช่วยงานด้านสาธารณสุข ลดการสัมผัส ลดความเสี่ยงของเจ้าหน้าที่และบุคลากรทางการแพทย์ เสริมประสิทธิภาพการบริหารจัดการสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ได้อย่างมีประสิทธิภา
สำหรับ Devices ที่นำมาใช้ในโครงการ Digital Yacht Quarantine มี 2 รุ่นคือ Activ 10+ และSmartwatch Active 30+
เกี่ยวกับ AIS NB-IoT
เอไอเอสเป็นรายแรกที่เปิดให้บริการเครือข่าย NB-IoT และ EMTC ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2560 โดยมีคุณสมบัติที่เหมาะกับการเชื่อมต่ออุปกรณ์ Internet Of Things ที่จะเสริมศักยภาพของอุตสาหกรรมต่างๆ อาทิ ครอบคลุมพื้นที่ใช้งานระยะไกล, เหมาะกับการเชื่อมต่ออุปกรณ์ IoT ที่ไม่มีการเคลื่อนที่มากนัก,ใช้ Bandwidth น้อยในการส่งข้อมูลจากอุปกรณ์ IoT , ใช้พลังงานในการเชื่อมต่อน้อย ทำใหัอุปกรณ์ IoT ที่มีการใช้พลังงานจาก Battery หรือ Solar Cell สามารถทำงานได้อย่างยาวนาน ดังนั้นจึงเหมาะที่จะนำไปใช้ในการเชื่อมต่อเครือข่ายสำหรับผลิตภัณฑ์หรือโซลูชันกลุ่ม Smart Things ที่เน้นการอ่านค่าจากข้อมูล Sensor และรับคำสั่งกลับไปจาก Server หรือ Cloud ส่วนกลางเป็นหลัก ตอบโจทย์ Smart City โดย สมาคม GSMA - Global System for Mobile Communications Association ได้ประกาศรับรองให้ เอไอเอส เป็นผู้ให้บริการรายแรกและรายเดียวในไทย ที่มีทั้งโครงข่าย NB-IoT และ eMTC (enhanced Machine-Type Communication) ครอบคลุมทั่วประเทศ ตั้งแต่ปี 2561 ซึ่ง AIS NB-IoT รองรับการใช้งานและการเชื่อมต่ออุปกรณ์ครอบคลุมทั้งบนพื้นดิน สามารถกระจายสัญญาณได้มากกว่า 10 กม. ในทะเล
จุดเด่นเครือข่าย Narrow Band IoT ประกอบด้วย
1.สนับสนุนการใช้พลังงานไฟฟ้าต่ำ จึงช่วยทำให้อายุการใช้งานแบตเตอรี่ของอุปกรณ์ IoT อยู่ได้นานถึง 10 ปี
2.สามารถรองรับปริมาณอุปกรณ์ IoT ได้สูงสุดในระดับแสนตัวต่อสถานีฐาน
3.รัศมีครอบคลุมของเครือข่ายต่อสถานีฐาน กระจายได้มากกว่า 10 ก.ม. รวมถึงในตัวอาคารก็ยังรับสัญญาณได้อย่างมีประสิทธิภาพ และ
4.สามารถพัฒนาเครือข่ายให้เปิดบริการ IoT ได้อย่างรวดเร็ว เพราะออกแบบอุปกรณ์ให้ใช้ร่วมกับ โครงข่าย 4G ในปัจจุบันได้ เหมาะแก่การนำไปใช้ ในทุกกลุ่ม Solutions อาทิ Smart City, Smart Industrial, Smart Logistics และ Smart Home
ทั้งนี้ ในปี 2018 เอไอเอส ยังได้รับการยอมรับจาก Frost & Sullivan องค์กรให้คำปรึกษาและวิจัยระดับโลก ที่ประกาศให้เอไอเอสเป็น Thailand IoT Solutions Provider of the Year 2018 หรือ องค์กรที่มีความเป็นเลิศทางด้านบริการ IoT ตอกย้ำเครือข่ายที่ดีที่สุด
กระบวนการ Digital Yacht Quarantine จ.ภูเก็ต
Process Flow by FLOWLOW
Step1: เมื่อมีนักท่องเที่ยว, เจ้าของเรือ หรือ ลูกเรือ ต้องการจะเข้ามาในราชอาณาจักรไทยในช่วงสถานการณ์ COVID-19 ผู้ที่จะเข้าโครงการ Yacht Quarantine จะประสานมากับทาง Agency ในพื้นที่เพื่อดำเนินการด้านเอกสารและแจ้งรายระเอียดต่างๆ ตามขั้นตอน (SOP) ที่ได้มีการกำหนดไว้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ศรชล ด่านควบคุมโรง โรงพยาบาล ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง FLOWLOW และท่าเทียบเรืออ่าวปอ ซึ่งเป็นบริเวณจุดจอดเรือสำหรับการทำการ Quarantine ระยะเวลา 14 วัน ซึ่งทางผู้เข้าโครงการกักตัวจะต้องแจ้งรายระเอียของเรือ ลูกเรือ ท่าเรือต้นทาง ท่าเรือปลายทาง Passport รูปภาพผู้ทำการ Quarantine ทุกคน เป็นต้น
Step2: หลังจาก Agency ได้รับข้อมูลครบถ้วนและประสานไปยังหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเรียบร้อยแล้ว จะทำการคอนเฟิร์มวันที่เรือลำดังกล่าวจะเข้าจุดจอดเรือที่ 1 หรือ 2 ตามที่หน่วยงาน ศรชล ได้กำหนดไว้ สำหรับ Day0 ทาง FLOWLOW ก็จะทำการลงทะเบียนนักท่องเที่ยวและข้อมูลที่เกี่ยวข้องทุกอย่างลงในฐานข้อมูลและลิงก์เข้ากับ Smart Wristband ของ FLOWLOW เพื่อเตรียมการต่างๆตามมาตรการของ FLOWLOW
Step3: FLOWLOW ก็จะเตรียมทำความสะอาดตัว Smart Wristband แพ็คในถุงซีลเพื่อความสะอาด ชาร์จอุปกรณ์ มีเอกสารแนะนำการใช้ รวมอยู่ใน Package และนำไปส่งมอบให้คุณหมอผู้ที่จะลงเรือเพื่อไปทำการตรวจโรคใน Day1 บนเรือของผู้ที่เข้าโครงการ Yacht Quarantine ที่จอดลอยลำอยู่ ณ จุดที่กำหนด
Step4: สำหรับ Smart Wristband ผู้ที่ทำการกักตัวจะต้องสวมใส่อุปกรณ์ตลอดเวลาที่ทำการ Quarantine บนเรือ และจะมีเวลาเพื่อถอดอุปกรณ์ออกมาชาร์จแบตเตอรี่ ในช่วงเวลา บ่าย 2 - 4 โมงเย็นของทุกวัน เพราะเป็นช่วงเวลาที่มีเจ้าหน้าที่ ศรชล ที่สามารถควมคุมดูแลได้อย่างสะดวก
Step5: ในระหว่างที่ทำการ Quarantine 14 วันนั้น ทาง FLOWLOW จะมีทีมในการ Monitor ข้อมูลต่างๆของผู้ทำการกักตัวจากระบบหลังบ้าน เพื่อความเรียบร้อยและเฝ้าระวังในกรณีฉุกเฉิน โดยในระบบหลังบ้านเรามีการ Monitor ข้อมูล GPS และ Health Information ของผู้ทำการกักตัวอย่างละเอียด โดยจะมีกราฟแสดงข้อมูลในแต่ละวันอย่างชัดเจน ว่ามีความผิดปกติตรงไหน อุณหภูมิร่างกายผิดปกติไหม การเต้นของหัวใจเป็นยังไง เป็นต้น
ข้อมูลผู้ทำการกักตัวทุกคนจะถูกเก็บไว้ในระบบอย่างปลอดภัยตามกฏหมายป้องกันความปลอดภัยของประเทศไทย (PDPA) อย่างเคร่งครัด
Step6: หลังจากเสร็จสิ้นการกักตัว Agency จะนำ Smart Wristband มาคืน ณ ท่าเรืออ่าวปอ หลังจากนั้น FLOWLOW ก็จะนำอุปกรณ์มาทำความสะอาดตามมาตรการความปลอดภัยอย่างเคร่งครัดและเตรียมสำหรับการใช้งานในครั้งต่อไป
ที่มา: เอไอเอส