ก.แรงงาน จับมือ 12 องค์กร ลงนาม MOU มุ่งมั่นแก้ปัญหาแรงงานเด็กและแรงงานบังคับ

จันทร์ ๒๙ มีนาคม ๒๐๒๑ ๑๗:๐๗
กระทรวงแรงงาน จัดพิธีประกาศเจตนารมณ์   และลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) การป้องกันและแก้ไขปัญหาการใช้แรงงานเด็กและแรงงานบังคับ ในกิจการสินค้าประเภท กุ้ง ปลา อ้อย และเครื่องนุ่งห่ม จำนวน 12 องค์กร เพื่อแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นดูแลคุณภาพชีวิตของแรงงานให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล

นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวในฐานะประธานเปิดพิธีประกาศเจตนารมณ์และลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) การป้องกันและแก้ไขปัญหาการใช้แรงงานเด็ก และแรงงานบังคับในกิจการสินค้าประเภท กุ้ง ปลา อ้อย และเครื่องนุ่งห่ม ว่า รัฐบาลภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และกระทรวงแรงงานภายใต้การกำกับดูแลของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี มีความมุ่งมั่นที่จะแก้ไขปัญหาการใช้แรงงานเด็ก และแรงงานบังคับ ในสินค้าประเภทกุ้ง ปลา อ้อย และเครื่องนุ่งห่มของประเทศไทย โดยสินค้าเหล่านี้ปรากฏอยู่ในบัญชีรายชื่อสินค้าที่มีเหตุเชื่อได้ว่าผลิตโดยการใช้แรงงานเด็ก และแรงงานบังคับ ซึ่งจัดทำโดยกระทรวงแรงงานสหรัฐอเมริกา จึงมีพิธีประกาศเจตนารมณ์และลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกันระหว่างกระทรวงแรงงาน โดยกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กับ  องค์กรในกิจการสินค้าประเภท กุ้ง ปลา อ้อย และเครื่องนุ่งห่ม 12 องค์กร ได้แก่ สมาพันธ์ชาวไร่อ้อยแห่งประเทศไทย สหพันธ์ชาวไร่อ้อยแห่งประเทศไทย  สหสมาคมชาวไร่อ้อยแห่งประเทศไทย ชมรมสถาบันชาวไร่อ้อยภาคอีสาน สมาคมอุตสาหกรรมทูน่าไทย สมาคมอาหารแช่เยือกแข็งไทย สมาคมอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่มไทย สมาคมกุ้งไทย สมาคมผู้เลี้ยงกุ้งทะเลไทย  สมาคมกุ้งตะวันออกไทย สมาพันธ์การเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำไทย และคลัสเตอร์สหกรณ์กุ้งคุณภาพภาคใต้ เพื่อแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของภาครัฐและเอกชนไทยที่จะดูแลคุณภาพชีวิตของแรงงานให้เป็นไปตามมาตรฐานสากลและยังเป็นจุดเริ่มต้นในการร่วมมือกันดำเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหาอย่างเป็นระบบ โดยจะมีการดำเนินการตามแผนการปฏิบัติการร่วมกัน เช่น การสำรวจข้อมูลของแรงงาน การให้ความรู้แก่แรงงาน การสนับสนุนให้มีการนำแนวปฏิบัติการใช้แรงงานที่ดี (Good Labour Practices : GLP) ไปจนถึงการตรวจสอบติดตามอย่างต่อเนื่องต่อไป

ด้าน นายอภิญญา สุจริตตานันท์ อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กล่าวเพิ่มเติมว่า  ปัจจุบันสินค้าของประเทศไทยถูกจัดอยู่ในบัญชีรายชื่อสินค้าที่มีเหตุเชื่อได้ว่าผลิตโดยการใช้แรงงานเด็ก และแรงงานบังคับ ซึ่งส่งผลต่อภาพลักษณ์ของประเทศไทย เกิดผลทางจิตวิทยาต่อผู้ซื้อ ผู้บริโภคในตลาดประเทศสหรัฐอเมริกาและกลุ่มประเทศในทวีปยุโรป โดยถูกใช้เป็นข้ออ้างในการกีดกันสินค้า ส่งผลต่อการพิจารณาให้สิทธิพิเศษทางภาษีของประเทศสหรัฐอเมริกาแก่สินค้าของประเทศไทย ทำให้กระทบต่อธุรกิจการส่งออกอันถือเป็นแหล่งรายได้หลักทางหนึ่งของประเทศ ดังนั้น จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ทุกภาคส่วนจะร่วมกันประกาศเจตนารมณ์และลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาดังกล่าว

ที่มา: กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๙ เม.ย. บิทูเมน มารีน บริษัทลูก TASCO ลงนามสัญญาต่อเรือขนส่งยางมะตอย เสริมศักยภาพกองเรือ
๑๙ เม.ย. รมว.เกษตรฯ ลุยร้อยเอ็ด ผลักดันโครงการพัฒนาแหล่งน้ำ 3 แห่ง
๑๙ เม.ย. กูรูหุ้นเชียร์ซื้อ PSP เคาะเป้าราคาสูงสุด 8 บ./หุ้น ยอดขายพุ่ง-หนี้ลด ดันกำไรปี 67 ออลไทม์ไฮ ดีล MA สร้าง New S-Curve
๑๙ เม.ย. ข้าวกล้อง-จักรีภัทร พร้อมเต็มร้อย! ประเดิม จูเนียร์จีพี สนามแรก ประเทศอิตาลี
๑๙ เม.ย. กรมประมงขอเชิญร่วมแข่งขันตกปลาชะโด
๑๙ เม.ย. เชลล์ดอน การ์ตูนดังร่วมสาดความสนุกในเทศกาลสงกรานต์
๑๙ เม.ย. สปสช. ติดปีกเทคโนโลยีไอทีด้วยคลาวด์กลางภาครัฐ GDCC ยกระดับบริการบัตรทองรวดเร็วทันสมัย ดูแลสุขภาพคนไทยยุคดิจิทัล
๑๙ เม.ย. GSK ร่วมงาน Re-imagining UK Aging Care Event ของสถานทูตอังกฤษ มุ่งสร้างเสริมภูมิคุ้มกันผู้สูงอายุ
๑๙ เม.ย. เอส เอฟ จับมือ กปน. มอบสิทธิ์ดูฟรีรวม 1,000 ที่นั่ง เพียงใช้ MWA Point ที่ เอส เอฟ!!
๑๙ เม.ย. เตรียมพร้อมนับถอยหลัง 12 ชั่วโมงสุดท้าย! ก่อนเริ่มประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ Bitcoin Halving ครั้งที่ 4