กลุ่มทิสโก้แจ้งผลงานไตรมาส 1/2564 กำไรสุทธิ 1,764 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18.7%

จันทร์ ๑๙ เมษายน ๒๐๒๑ ๑๓:๔๑
กลุ่มทิสโก้เผยผลประกอบการงวดไตรมาส 1/2564 กำไรสุทธิ 1,764 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 18.7% โดยมีฐานเงินสำรองสูงถึง 222% ขณะที่หนี้ด้อยคุณภาพอยู่ในระดับที่ควบคุมได้ สะท้อนความสามารถในการบริหารธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพ ภายใต้ความท้าทายของภาวะเศรษฐกิจ

นายศักดิ์ชัย พีชะพัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มทิสโก้ (Mr. Sakchai Peechapat, Chief Executive Officer, TISCO Financial Group) เปิดเผยว่า ภายใต้โจทย์ในการดำเนินธุรกิจที่มีปัจจัยท้าทายรอบด้าน กลุ่มทิสโก้ยังคงเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง โดยมีกำไรสุทธิงวดไตรมาส 1/2564 จำนวน 1,764 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18.7% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า สาเหตุหลักมาจากการเติบโตของรายได้ค่าธรรมเนียมธุรกิจตลาดทุน ที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงจากการนำเสนอขายกองทุนรวมที่ลงทุนในต่างประเทศ ปริมาณการซื้อขายหลักทรัพย์ที่เพิ่มขึ้น และดีลการจัดจำหน่ายหลักทรัพย์ครั้งแรก (IPO) รวมถึงทิสโก้มีกำไรพิเศษจากมูลค่าเงินลงทุนที่เพิ่มขึ้นด้วย

นอกจากนี้  ในไตรมาสที่ผ่านมา การตั้งสำรองผลขาดทุนด้านเครดิตของทิสโก้ปรับตัวลดลง ตามคุณภาพสินทรัพย์ที่สามารถควบคุมได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยระดับ NPL ที่ทรงตัวที่ 2.5% รวมทั้งบริษัทได้กันสำรองครอบคลุมความเสี่ยงด้านเครดิตไว้ล่วงหน้าแล้ว ทำให้ระดับเงินสำรองต่อหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (Coverage Ratio) อยู่ในระดับสูง และแม้ว่าการปล่อยสินเชื่อจะยังไม่กลับสู่การเติบโต แต่ถือเป็นไปตามนโยบายการปล่อยสินเชื่ออย่างระมัดระวังของบริษัท 

"ธุรกิจเสาหลักของทิสโก้ประกอบด้วย 3 กลุ่ม ได้แก่ ธุรกิจ Wealth Management ธุรกิจ Retail Banking และธุรกิจ Corporate Banking โดยทุกกลุ่มอยู่ภายใต้การสนับสนุนของบริษัทแม่ และแต่ละกลุ่มมีส่วนส่งเสริมซึ่งกันและกัน ขณะที่ความเสี่ยงกระจายตัวแยกกันชัดเจน จึงช่วยรักษาสมดุลด้านรายได้และทำให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างต่อเนื่องขณะที่กลยุทธ์การทำงานภายใต้ภาวะเศรษฐกิจที่เปราะบาง กลุ่มทิสโก้จะให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการและควบคุมความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพ เลือกทำในสิ่งที่ชำนาญ รวมถึงแสวงหาโอกาสใหม่ๆ จากความชำนาญนี้ ที่จะเป็นประโยชน์ต่อลูกค้า พร้อมปรับกระบวนการในการดำเนินการ โดยนำเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาเป็นตัวช่วยในการต่อยอดผลิตภัณฑ์และบริการที่จะเป็นประโยชน์ต่อลูกค้า และเพื่อให้ธุรกิจผ่านพ้นวิกฤตและเติบโตได้อย่างยั่งยืน"

สรุปผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2564 

ผลการดำเนินงานของกลุ่มทิสโก้สำหรับไตรมาส 1 ปี 2564 บริษัทมีกำไรสุทธิจำนวน 1,764 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18.7% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1 ปี 2563 จากรายได้จากธุรกิจหลักที่ปรับตัวดีขึ้น โดยเฉพาะรายได้ค่าธรรมเนียมจากธุรกิจตลาดทุน และการรับรู้รายได้พิเศษจากเงินลงทุน ประกอบกับการตั้งสำรองค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิตที่ลดลง โดยรายได้รวมเพิ่มขึ้น 3.9% สาเหตุหลักมาจากรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย ทั้งรายได้ค่าธรรมเนียมจากธุรกิจจัดการกองทุนที่เติบโต 47.0% จากการออกขายกองทุนรวมที่ลงทุนในต่างประเทศ ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน ประกอบกับรายได้จากธุรกิจหลักทรัพย์และวาณิชธนกิจที่ขยายตัว 48.1% จากปริมาณการซื้อขายหลักทรัพย์ที่เพิ่มขึ้น และการเป็นหนึ่งในผู้นำในการจัดจำหน่ายและการรับประกันการจำหน่วยหุ้นเป็นครั้งแรก (IPO) ของบริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR นอกจากนี้ยังมีการรับรู้กำไรพิเศษจากมูลค่าเงินลงทุน รวมถึงยังมีการรับรู้กำไรพิเศษจากมูลค่าเงินลงทุนที่เพิ่มขึ้นเป็นจำนวน 313 ล้านบาท 

อย่างไรก็ตาม รายได้ค่าธรรมเนียมจากธุรกิจธนาคารพาณิชย์ยังคงอ่อนตัว สอดคล้องกับกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัวเมื่อเทียบกับเมื่อไตรมาส 1 ของปีก่อน สำหรับรายได้ดอกเบี้ยสุทธิปรับลดลง 10.1% จากพอร์ตสินเชื่อที่ชะลอตัว ค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้น 3.5% ตามทิศทางการฟื้นตัวของรายได้ ส่วนผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น (Expected Credit Loss - ECL) อยู่ที่ 1.5% ของสินเชื่อ ลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ตามคุณภาพสินทรัพย์ที่ปรับตัวดีขึ้นจากมาตรการควบคุมคุณภาพสินทรัพย์ที่มีประสิทธิภาพ ในขณะที่บริษัทยังคงดำเนินนโยบายการตั้งสำรองอย่างระมัดระวังเพื่อรองรับความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นจากสถานการณ์การระบาดระลอกใหม่ตั้งแต่ต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา ทั้งนี้ อัตราผลตอบแทนต่อผู้ถือหุ้นเฉลี่ย (ROAE) ยังคงอยู่ในระดับสูงที่ 17.5%    

สำหรับเงินให้สินเชื่อรวมของกลุ่มทิสโก้ ณ วันที่ 31 มีนาคม 2564 มีจำนวน 220,757 ล้านบาท ลดลง 1.8% จากสิ้นปีก่อนหน้า จากการชะลอตัวของสินเชื่อรายย่อย ตามการปล่อยสินเชื่ออย่างระมัดระวังในภาวะความเสี่ยงที่สูงขึ้น ในขณะที่สินเชื่อธุรกิจยังคงเติบโตได้ดี ท่ามกลางภาวะที่การระดมทุนผ่านตลาดตราสารหนี้ไม่เอื้ออำนวย ในส่วนของหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ทรงตัวอยู่ที่ 2.5% จากมาตรการควบคุมคุณภาพสินทรัพย์ที่มีประสิทธิภาพ ส่งผลให้บริษัทมีระดับเงินสำรองหนี้สูญต่อหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (Coverage Ratio) อยู่ที่ 222% ณ สิ้นไตรมาส 1 ปี 2564

ธนาคารทิสโก้ยังคงรักษาระดับฐานะเงินกองทุนที่แข็งแกร่ง โดยมีประมาณการอัตราเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (BIS Ratio) อยู่ที่ 23.0% สูงกว่าอัตราเงินกองทุนขั้นต่ำ 11.0% ที่กำหนดโดยธนาคารแห่งประเทศไทย และมีอัตราเงินกองทุนชั้นที่ 1 และชั้นที่ 2 ต่อสินทรัพย์เสี่ยงอยู่ที่ 18.3% และ 4.7% ตามลำดับ

ที่มา: ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๖:๐๑ ALLY ผนึก Mural ลงทุนซื้อหุ้นสมาคมมวยปล้ำสเปน หวังผลักดันมวยปล้ำสเปนขึ้นแท่นลีกหลักในยุโรปและลาตินอเมริกา
๑๖:๓๙ โอกาสจองซื้อหุ้นกู้บริษัทชั้นนำ ช.การช่าง เสนอขายช่วงวันที่ 25 - 29 เมษายน 2567 ชูผลตอบแทน 3.40 - 4.10% ต่อปี อันดับความน่าเชื่อถือ A- ติดต่อผ่าน ธ.กรุงเทพ และ ธ.กรุงไทย
๑๖:๕๔ บางจากฯ สนับสนุนการเรียนรู้และพัฒนาเยาวชนในทักษะแห่งอนาคต ผ่านโครงการ SI Sphere: Sustainable Intelligence-based Society Sphere โดย UN Global Compact Network
๒๔ เม.ย. เปิดไลน์อัพ 10 ศิลปินหน้าใหม่มาแรงแห่งปีจาก Spotify RADAR Thailand 2024
๒๔ เม.ย. อาร์เอส กรุ๊ป เดินหน้ากลยุทธ์ Star Commerce ยกทัพศิลปิน-ดารา เป็นเจ้าของแบรนด์ และดันยอดขายด้วย Affiliate Marketing ประเดิมส่งศิลปินตัวแม่ ใบเตย อาร์สยาม
๒๔ เม.ย. กสิกรไทยผนึกกำลังเจพีมอร์แกน เปิดตัวโปรเจกต์คารินา ดึงศักยภาพบล็อกเชน ลดระยะเวลาธุรกรรมการเงินระหว่างประเทศ
๒๔ เม.ย. สเก็ตเชอร์ส จัดกิจกรรม SKECHERS PICKLEBALL WORKSHOP ส่งเสริมสุขภาพและขยายคอมมูนิตี้กีฬา Pickleball ในไทย
๒๔ เม.ย. SHIELD จับมือแอสเซนด์ มันนี่ และ Money20/20 Asia จัดกิจกรรมระดมเงินบริจาคแก่มูลนิธิรามาธิบดี
๒๔ เม.ย. 'ASW' เตรียมโอนกรรมสิทธิ์ 4 คอนโดฯ ใหม่ ไตรมาส 2 ครอบคลุมทั้งกรุงเทพฯ และภูเก็ตมูลค่ารวมกว่า 6,600 ล้านบาท
๒๔ เม.ย. โก โฮลเซลล์ สนับสนุนเกษตรกรไทย ปูพรมจำหน่ายผลไม้ฤดูกาล สดจากสวนส่งตรงถึงมือคุณ