กรุงศรีเผยผลกำไรไตรมาสแรก 6,505 ล้านบาท ตอกย้ำการปรับตัวอย่างแข็งแกร่งพร้อมดูแลลูกค้า-หนุนเศรษฐกิจฟื้น

พุธ ๒๑ เมษายน ๒๐๒๑ ๐๘:๔๙
กรุงศรี (ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) และบริษัทในเครือ) เผยผลประกอบการไตรมาสแรก โดยมีกำไรสุทธิจำนวน 6,505 ล้านบาท จากการเติบโตของสินเชื่อเพื่อธุรกิจ ซึ่งรวมสินเชื่อเพื่อธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมและสินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่ ที่ 1.63% ท่ามกลางสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่ท้าทาย คุณภาพสินทรัพย์ของธนาคารยังคงแข็งแกร่งภายใต้การบริหารความเสี่ยงด้วยความรอบคอบระมัดระวัง โดยธนาคารมีอัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพ (NPL Ratio) เพียง 1.99% และอัตราส่วนเงินสำรองต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพ (Coverage Ratio) ในระดับสูงที่ 175.0%

สรุปผลประกอบการและฐานะการเงินที่สำคัญสำหรับไตรมาสแรก

  • กำไรสุทธิ: จำนวน 6,505 ล้านบาท เพิ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญที่ 92.2% หรือจำนวน 3,120 ล้านบาทจากไตรมาสก่อนหน้า โดยมีปัจจัยหลักจากการตั้งสำรองเพิ่มขึ้นเพื่อรองรับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (Management Overlay) ในไตรมาสก่อนหน้า เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิลดลง 7.5% หรือจำนวน 528 ล้านบาท โดยมีปัจจัยหลักมาจากการลดลงของรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ
  • เงินให้สินเชื่อรวม: เพิ่มขึ้น 0.3% หรือจำนวน 6,365 ล้านบาท จากไตรมาสก่อนหน้า โดยสินเชื่อเพื่อธุรกิจ ซึ่งรวมสินเชื่อเพื่อธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมและสินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่เติบโต 1.63% ขณะที่สินเชื่อเพื่อรายย่อยลดลง 1.0% จากการชำระคืนสินเชื่อของลูกค้าตามปัจจัยด้านฤดูกาลและความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ปรับลดลงอย่างต่อเนื่อง
  • เงินรับฝาก: เพิ่มขึ้น 2.9% หรือจำนวน 53,959 ล้านบาท จากไตรมาสก่อนหน้า โดยส่วนใหญ่เป็นผลมาจากการเพิ่มขึ้นของเงินรับฝากออมทรัพย์
  • ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิ (NIM): อยู่ที่ 3.07% เทียบกับ 3.14% ในไตรมาสก่อนหน้า
  • รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย: ลดลงจำนวน 256 ล้านบาท หรือ 2.9% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า โดยมีปัจจัยหลักมาจากการลดลงของรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิจากกิจกรรมทางธุรกิจของลูกค้ารายย่อยที่สูงขึ้นตามฤดูกาลในไตรมาสก่อนหน้า
  • อัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้: ด้วยนโยบายการบริหารจัดการค่าใช้จ่ายที่มีประสิทธิภาพ อัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้ของกรุงศรี ปรับตัวดีขึ้นมาอยู่ที่ 43.8% เทียบกับ 46.5% ในไตรมาสก่อนหน้า
  • อัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพ (NPL Ratio): ปรับตัวดีขึ้นมาอยู่ที่ 1.99% เทียบกับ 2.00% ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2563
  • อัตราส่วนเงินสำรองต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพ: อยู่ในระดับสูงที่ 175.0% เทียบกับ 175.1% ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2563
  • อัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงของธนาคาร: อยู่ที่ 17.85% เทียบกับ 17.92% ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2563

นายเซอิจิโระ อาคิตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า "ภายใต้นโยบายการดำเนินธุรกิจด้วยความรอบคอบระมัดระวังของกรุงศรี ในท่ามกลางสภาวะการณ์ที่ท้าทาย พอร์ตสินเชื่อเพื่อธุรกิจของธนาคารยังคงเติบโตที่ 1.63% ในไตรมาสแรกของปี 2564 ซึ่งเกิดจากการสนับสนุนในด้านสภาพคล่องและสินเชื่อให้แก่ลูกค้าธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมและธุรกิจขนาดใหญ่ ตลอดจนการสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโดยรวม"

"เศรษฐกิจไทยในไตรมาสแรก มีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง โดยมีแรงสนับสนุนจากการขยายตัวของการส่งออก สะท้อนให้เห็นถึงอุปสงค์จากประเทศคู่ค้าหลักที่เพิ่มขึ้น รวมถึงมาตรการทางเศรษฐกิจที่ออกมาเพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายภายในประเทศ ทั้งนี้ การกลับมาแพร่ระบาดระลอกใหม่ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในช่วงต้นเดือนเมษายน 2564 เป็นปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญต่อการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว และการขยายตัวของเศรษฐกิจในประเทศ กรุงศรีจึงปรับประมาณการการเติบโตของเศรษฐกิจไทยในปี 2564 มาอยู่ที่ 2.2.% จาก 2.5%"

"ท่ามกลางความไม่แน่นอนและสภาพแวดล้อมที่ท้าทายสำหรับภาคการธนาคารและเศรษฐกิจไทย กรุงศรีจะยังคงเดินหน้าดำเนินธุรกิจในบทบาทสำคัญของผู้ให้บริการทางการเงินที่มีความรับผิดชอบ โดยมุ่งให้ความสำคัญในการสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ การช่วยเหลือลูกค้าทั้งในส่วนของลูกค้าธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมและธุรกิจขนาดใหญ่ และฟื้นฟูสังคมไทยโดยรวม ทั้งนี้ ธนาคารจะดำเนินการปรับเปลี่ยนองค์กรให้เป็นดิจิทัล เพื่อเสริมสร้างประสิทธิภาพและผลิตภาพให้แข็งแกร่ง พร้อมสร้างประสบการณ์ลูกค้าที่น่าประทับใจต่อไป"

ณ วันที่ 31 มีนาคม 2564 กรุงศรี ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจการเงินที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับห้าในระบบเศรษฐกิจไทยจากมูลค่าสินทรัพย์ สินเชื่อและเงินฝาก และเป็นหนึ่งในห้าสถาบันการเงินที่มีความสำคัญเชิงระบบ (D-SIB) มีสินเชื่อรวม 1.84 ล้านล้านบาท เงินรับฝาก 1.89 ล้านล้านบาท และสินทรัพย์รวม 2.7 ล้านล้านบาท ขณะที่เงินกองทุนของธนาคารอยู่ในระดับแข็งแกร่งที่ 276 พันล้านบาท หรือเทียบเท่า 17.85% ของสินทรัพย์เสี่ยง โดยเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 1 ที่เป็นของเจ้าของคิดเป็น 12.80%

ที่มา: ธนาคารกรุงศรีอยุธยา

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๙ เม.ย. บิทูเมน มารีน บริษัทลูก TASCO ลงนามสัญญาต่อเรือขนส่งยางมะตอย เสริมศักยภาพกองเรือ
๑๙ เม.ย. รมว.เกษตรฯ ลุยร้อยเอ็ด ผลักดันโครงการพัฒนาแหล่งน้ำ 3 แห่ง
๑๙ เม.ย. กูรูหุ้นเชียร์ซื้อ PSP เคาะเป้าราคาสูงสุด 8 บ./หุ้น ยอดขายพุ่ง-หนี้ลด ดันกำไรปี 67 ออลไทม์ไฮ ดีล MA สร้าง New S-Curve
๑๙ เม.ย. ข้าวกล้อง-จักรีภัทร พร้อมเต็มร้อย! ประเดิม จูเนียร์จีพี สนามแรก ประเทศอิตาลี
๑๙ เม.ย. กรมประมงขอเชิญร่วมแข่งขันตกปลาชะโด
๑๙ เม.ย. เชลล์ดอน การ์ตูนดังร่วมสาดความสนุกในเทศกาลสงกรานต์
๑๙ เม.ย. สปสช. ติดปีกเทคโนโลยีไอทีด้วยคลาวด์กลางภาครัฐ GDCC ยกระดับบริการบัตรทองรวดเร็วทันสมัย ดูแลสุขภาพคนไทยยุคดิจิทัล
๑๙ เม.ย. GSK ร่วมงาน Re-imagining UK Aging Care Event ของสถานทูตอังกฤษ มุ่งสร้างเสริมภูมิคุ้มกันผู้สูงอายุ
๑๙ เม.ย. เอส เอฟ จับมือ กปน. มอบสิทธิ์ดูฟรีรวม 1,000 ที่นั่ง เพียงใช้ MWA Point ที่ เอส เอฟ!!
๑๙ เม.ย. เตรียมพร้อมนับถอยหลัง 12 ชั่วโมงสุดท้าย! ก่อนเริ่มประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ Bitcoin Halving ครั้งที่ 4