CRC ผนึกกำลังธุรกิจในเครือ ประกาศ 4 ภารกิจหลัก กู้วิกฤตโควิด-19

พฤหัส ๒๙ เมษายน ๒๐๒๑ ๑๘:๐๗
สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ระลอก 3 นี้ ได้สร้างความเสียหายอย่างมากทั้งในด้านเศรษฐกิจ และสุขภาพของประชาชนทั้งประเทศ บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) พร้อมสนับสนุนความช่วยเหลือให้รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่อง ภายใต้โครงการ "CRC รวมพลัง กู้วิกฤตโควิด-19" ผ่าน 4 ภารกิจที่ต่อยอดจากจุดแข็งขององค์กร ได้แก่ เครือข่ายธุรกิจที่กว้างขวาง, ศักยภาพของบุคลากร, ตำแหน่งพื้นที่สาขาที่กระจายทั่วประเทศ และระบบการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ

นายญนน์ โภคทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า "ด้วยความมุ่งมั่นของเซ็นทรัล รีเทล ในการเป็น "ศูนย์กลางชีวิตของผู้คน" (Central to Life) เราพร้อมที่จะใช้ทุกสรรพกำลังขององค์กร ทั้งเรื่องเครือข่ายธุรกิจ บุคลากร และระบบการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ เพื่อให้ความช่วยเหลือ และร่วมมือกับทุกภาคส่วนในการฝ่าวิกฤตครั้งนี้ไปด้วยกัน พร้อมผนึกกำลัง และจุดแข็งของธุรกิจในเครือ ภายใต้โครงการ 'CRC รวมพลัง กู้วิกฤตโควิด-19' เพื่อขับเคลื่อนภารกิจใน 4 มิติหลัก คือ

  1. สร้างต้นแบบระบบการฉีดวัคซีนที่มีประสิทธิภาพ และครบวงจร พร้อมต่อยอดไปทั่วประเทศ
    การเร่งฉีดวัคซีนให้กับประชาชนจะเป็นกุญแจสำคัญที่ช่วยฟื้นเศรษฐกิจไทยให้กลับมาเป็นปกติโดยเร็วที่สุด เซ็นทรัล รีเทล จึงร่วมกับสภาหอการค้าไทย นำเสนอต้นแบบระบบการฉีดวัคซีนที่มีประสิทธิภาพ และครบวงจร (Total solution) พร้อมทั้งพื้นที่ธุรกิจในเครือฯ ได้แก่ พื้นที่ภายในห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน ศูนย์การค้าโรบินสันไลฟ์สไตล์ ไทวัสดุ และท็อปส์ พลาซ่า ทั้งหมด 109 แห่งทั่วประเทศไทย เพื่อเป็นทางเลือกให้กับภาครัฐในการกระจายวัคซีนเข้าไปหาคนไทยอย่างทั่วถึง และเป็นต้นแบบสำหรับต่อยอดไปทั่วประเทศ พร้อมจัดหาบุคลากร จิตอาสา และอุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่าง ๆ ไว้อย่างครบครัน อาทิ คอมพิวเตอร์, อุปกรณ์สำนักงาน รวมถึงอาหารและเครื่องดื่ม สำหรับบุคลากรทางการแพทย์ และทีมจิตอาสาที่ทำงานอย่างหนักทุกคน โดยคาดว่าในแต่ละพื้นที่ จะสามารถให้บริการฉีดวัคซีนได้ประมาณ 1,500 - 2,000 คนต่อวัน
  2. สร้างต้นแบบโมเดล เพื่อเป็นแต้มต่อให้กับ SME ในการเข้าถึง Soft Loan
    เซ็นทรัล รีเทล ร่วมกับธนาคารพาณิชย์ จัดทำโครงการต้นแบบ Sand Box ในเฟสแรก เพื่อเสริมสภาพคล่อง SME ขนาดเล็ก ที่มียอดวงเงินกู้ต่ำกว่า 5 ล้านบาท โดยล่าสุดเซ็นทรัล รีเทล ได้ร่วมนำเสนอรายชื่อ และข้อมูลให้ธนาคารอนุมัติกว่า 6,000 ราย โดยคาดว่า 1,000 รายแรก จะได้รับการอนุมัติ Soft Loan ภายในอาทิตย์หน้า โดยมากกว่า 70% ของทั้ง 6,000 ราย ยังไม่เคยเข้าถึง Soft Loan มาก่อน และเราจะทำเฟสต่อไปสำหรับ SME ที่มียอดวงเงินกู้มากกว่า 5 ล้านบาท พร้อมขยายผลความสำเร็จจากโครงการต้นแบบนี้ไปยังอุตสาหกรรมอื่นๆ ผ่านทางสมาคมค้าปลีกไทย สมาคมหอการค้าไทย สมาคมศูนย์การค้า และสมาคมโรงแรม เป็นต้น เพื่อให้ SME ได้รับอนุมัติสินเชื่อ Soft Loan มากกว่า 100,000 ราย เพื่อเสริมสภาพคล่อง และเป็นแต้มต่อในการทำธุรกิจต่อไป
  3. ยกระดับมาตรฐานด้านสุขภาพ และสาธารณสุข เซ็นทรัล รีเทล เล็งเห็นถึงความสำคัญในการร่วมแรงร่วมใจกับหน่วยงานทุกภาคส่วน เพื่อแบ่งเบาภาระการดำเนินงาน และส่งเสริมให้บุคลากรทางการแพทย์สามารถทำงานได้อย่างราบรื่นที่สุด พร้อมช่วยเหลือผู้ป่วยโควิด-19 ทุกคน อาทิเช่น - เซ็นทรัล รีเทล บริจาคกล่องกระดาษลูกฟูก เพื่อนำไปรีไซเคิลเป็นเตียงสนาม 6,000 เตียง และเปิดโอกาสให้คนไทยทุกคนร่วมกันบริจาคอีก 1,000 เตียง เพื่อรวบรวมให้ได้ครบ 7,000 เตียงภายในเดือนพฤษภาคมนี้ โดยลูกค้าสามารถร่วมบริจาคได้ที่จุดรับบริจาค ณ ห้างร้านและศูนย์การค้าในเครือฯ กว่า 124 จุดในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ได้แก่ ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล, ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน, ศูนย์การค้าโรบินสันไลฟ์สไตล์, ซูเปอร์สปอร์ต, เซ็นทรัล มาร์เก็ตติ้ง กรุ๊ป, ท็อปส์ และ เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์, เพาเวอร์บาย, บีทูเอส, ออฟฟิศเมท, ไทวัสดุ และศูนย์กระจายสินค้า เซ็นทรัล รีเทล สมุทรปราการ ตั้งแต่วันที่ 1-31 พฤษภาคม 2564 โดยร่วมกับ บริษัทเอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ เอสซีจีพี สามารถเช็คสาขาที่เข้าร่วมโครงการฯ ได้ที่ เฟซบุ๊ค Central Retail - บริจาคอาหาร และสิ่งของจำเป็นให้แก่โรงพยาบาลสนาม และจุดฉีดวัคซีนอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล จำกัด ได้ส่งมอบอาหาร สิ่งของจำเป็น และอุปกรณ์เวชภัณฑ์ ให้กับโรงพยาบาลสนามธรรมศาสตร์รังสิต และจุดฉีดวัคซีน พร้อมเชิญชวนให้ประชาชนบริจาคอาหารและสิ่งของจำเป็นให้บุคลากรทางการแพทย์ และผู้ป่วยในโรงพยาบาลสนามจำนวน 56 แห่งใน 42 จังหวัดทั่วประเทศ ประเทศ โดยสามารถบริจาคได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ณ จุดรับบริจาคที่ท็อปส์ มาร์เก็ต, ท็อปส์ ซูเปอร์สโตร์, เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์ ทุกสาขา และแฟมิลี่มาร์ท สาขาที่ร่วมโครงการ ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.tops.co.th เฟซบุ๊ค Tops Thailand และ FamilyMart Thailand - บริจาคเจลแอลกอฮอล์ บริษัท ซีอาร์ซี ไทวัสดุ จำกัด มอบเจลแอลกอฮอล์จำนวน 3 ล้านมิลลิลิตรในล็อตแรก ให้แก่กระทรวงสาธารณสุขและหน่วยงานภายใต้สังกัดซึ่งเป็นพื้นที่ควบคุมและเฝ้าระวังสูงในกว่า 20 จังหวัด และจะมีแผนขยายความช่วยเหลือด้านเจลแอลกอฮอล์ไปยังส่วนภาคส่วนอื่นๆ อย่างต่อเนื่อง - บริจาคเงินให้แพทยสมาคมเพื่อการทำวิจัยโควิด-19 โดยร่วมกับกลุ่มเซ็นทรัล จัดทำโครงการ "ทำด้วยใจ ไฟท์โควิด-19" (Help Thai Fight COVID-19) มอบเงินบริจาคผ่านทางแพทยสมาคมแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ เพื่อนำไปทำการวิจัยเกี่ยวกับการควบคุมโรคโควิด-19 ให้ได้ผลอย่างรวดเร็วในวงกว้าง - ร่วมรับผิดชอบต่อสังคม ด้วยมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดขั้นสูงสุด โดยห้างร้านและศูนย์การค้าโรบินสัน ไลฟ์สไตล์ ทั้งหมดในเครือเซ็นทรัล รีเทล คำนึงถึงความปลอดภัยของลูกค้าและพนักงานทุกคนมากที่สุด โดยตลอดระยะเวลาที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 จนถึงปัจจุบัน ทาง เซ็นทรัล รีเทล ได้ยกระดับมาตรการความสะอาดขั้นสูงสุด ทั้งในส่วนของหน้าร้านที่นำเทคโนโลยีทันสมัยมาช่วยในการทำความสะอาด เช่น หุ่นยนต์ฆ่าเชื้อด้วยรังสียูวี-ซี ไปจนถึงช่องทางออมนิแชเนลต่าง ๆ เพื่อให้ลูกค้าที่สั่งสินค้าออนไลน์มั่นใจได้ว่าสินค้าที่ส่งถึงบ้านได้ผ่านการฆ่าเชื้อ และสะอาดปลอดภัย ในส่วนของพนักงาน เซ็นทรัล รีเทล ได้สนับสนุนประกันสุขภาพโควิด-19 ให้พนักงานกว่า 60,000 คน พร้อมทั้งออกนโยบายการ Work from Home เพื่อลดความเสี่ยงในการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ให้ได้มากที่สุด
  4. รวมพลังคนไทย ช่วยเหลือคนไทยด้วยกัน เซ็นทรัล รีเทล พร้อมผลักดันให้เกิดพลังสังคม โดยร่วมกับภาคเอกชน และประชาชน รวมพลังกัน เพื่อช่วยส่งเสริมและสนับสนุนการใช้สินค้าไทยและธุรกิจของคนไทย กระตุ้นให้เกิดการใช้จ่ายภายในประเทศ และอุดหนุนการกิน เที่ยว ใช้ของไทย เพื่อทำให้เศรษฐกิจไทยสามารถฟื้นตัวได้อย่างเร็ว และยั่งยืน พร้อมเพิ่มโอกาสในการจ้างงานให้กับคนไทยทั้งประเทศ

"ในฐานะบริษัทไทยที่อยู่คู่คนไทยมากว่า 70 ปี เป็นฟันเฟืองในการเดินหน้าเศรษฐกิจ และช่วยคลายทุกวิกฤตที่ประเทศต้องประสบ เซ็นทรัล รีเทล พร้อมเคียงข้างและสนับสนุนความช่วยเหลือให้กับทุกภาคส่วน ทั้งบุคลากรทางการแพทย์ ผู้ป่วยโควิด-19 และประชาชนชาวไทย โดยทุกสิ่งที่เราทำ เราทำอย่างจริงจัง จริงใจ และทำอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ทุกคนก้าวผ่านวิกฤตนี้ไปด้วยกัน เราเชื่อว่าหากทุกฝ่ายร่วมมือกัน จะทำให้เกิดพลังสังคม ที่ทำให้ประเทศไทยสามารถกลับสู่สภาวะปกติได้ในที่สุด" นายญนน์ กล่าวปิดท้าย

ที่มา: เฟลชแมน ฮิลลาร์ด

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๐๔ พ.ค. Siriraj Education Expo 2024 ก้าวสู่ยุคใหม่ไปกับศิริราช พร้อมยกระดับทางการแพทย์ให้ดีขึ้น เพื่อสุขภาวะที่ดีของคนไทยทุกคน
๐๓ พ.ค. ครั้งแรก! งานเทศกาลคอนเทนต์ LGBTQ ฉลองความเท่าเทียมทางเพศ THAILAND INTERNATIONAL LGBTQ FILM TV FESTIVAL 2024 ปักหมุดเตรียมพบกัน กันยายนนี้
๐๓ พ.ค. โน วัน เอลส์ ส่ง 3 เพลงรัก 3 สไตล์! ผ่านมิวสิกซี่รีย์ ที่จะทำให้คุณเข้าใจความรักมากขึ้น
๐๓ พ.ค. ทีซีเอ็มซีมอบรางวัลประกวดการออกแบบผลงานด้านผลิตภัณฑ์อคูสติกส์
๐๓ พ.ค. GT Auto ฉลองแชมป์ยอดขาย Volvo จัดงาน มหกรรม GT Auto Show ลดสูงสุด 1,000,000 บาท พร้อมชูบริการ GT Auto Exclusive Service
๐๓ พ.ค. กทม. เตรียมพร้อมให้บริการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ในกลุ่มเสี่ยงและนักเรียนในสังกัด
๐๓ พ.ค. กรมส่งเสริมการเกษตร ประชุมคณะทำงานความร่วมมือด้านการรับรองแหล่งผลิตพืชฯ (GAP พืช) ครั้งที่ 1/2567
๐๓ พ.ค. First Sale! realme 12 5G และ realme 12X 5G สัมผัสประสบการณ์ Portrait Master กับกล้องซูม 3X in sensor
๐๓ พ.ค. CRYSTALLIZING ใหม่! โดย SHISEIDO PROFESSIONAL อัปเกรดกลุ่มผลิตภัณฑ์ยืด-ดัดผม ชูเทคโนโลยีสุดล้ำ DUAL PERFORMANCE SYSTEM
๐๓ พ.ค. บัลเลต์ รีทรีต บนเกาะมัลดีฟส์ กลับมาอีกครั้ง ที่ อวานี พลัส แฟเรส โดย คาร์ริส สการ์เลต นักเต้นบัลเลต์ชื่อดัง