กลุ่ม Maybank Kim Eng จัดสัมมนา Invest ASEAN 2021 ในหัวข้อ โอกาสทางการลงทุนในภูมิภาคอาเซียน

ศุกร์ ๒๕ มิถุนายน ๒๐๒๑ ๑๔:๒๕
กลุ่ม Maybank Kim Eng จัดงานสัมมนา Invest ASEAN 2021 ในหัวข้อ โอกาสทางการลงทุนในภูมิภาคอาเซียน (The ASEAN Investor : Where are the next opportunities) โดย ซีอีโอ ของตลาดหลักทรัพย์ในอาเซียน ได้แก่ ดร.ภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย, Datuk Muhamad Umar Swift, CEO, Bursa Malaysia Berhad, Ramon S. Monzon, President and Chief Executive Officer, The Philippine Stock Exchange, Inc., Michael Syn, Senior MD and Head of Equities, Singapore Exchange และดำเนินรายการโดย Datin Ami Moris, CEO, Maybank Kim Eng Group ด้วยการนำเสนอผ่านสื่ออิเล็กทรอนิคส์

ทีมวิจัย บมจ.หลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ได้สรุปสาระสำคัญของงานสัมมนา Invest ASEAN 2021 ในหัวข้อ โอกาสทางการลงทุนในภูมิภาคอาเซียน (The ASEAN Investor : Where are the next opportunities) ไว้ดังนี้ สำหรับการมองตลาดอาเซียนยังมีความเชื่องช้าอยู่ โดยผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปี (YTD) ในตลาด MSCI World Index, Emerging Index และ Asia ex japan Index ต่างปรับตัวขึ้นกว่า 12%, 4% และ 4% ตามลำดับ ขณะที่ MSCI ASEAN ยัง Flat YTD อยู่จากเหตุผล 1) เป็นกลุ่มประเทศที่ได้รับผลกระทบโควิด-19 หนักกว่าภูมิภาคอื่นๆ จากโครงสร้างเศรษฐกิจพึ่งพิงการส่งออกและท่องเที่ยวเป็นหลัก 2) โดนปรับลดน้ำหนักจาก MSCI ต่อเนื่อง ด้วยถูกกินส่วนแบ่งหลักๆ จากประเทศจีนที่เป็น New economy มีบริษัทขนาดใหญ่เกิดขึ้นในอัตราที่เร็วมากกว่า ทั้งนี้ ผู้นำตลาดหลักทรัพย์จากประเทศต่างๆ ทั้ง 4 ท่านยังเห็นตรงกันว่าตลาดอาเซียนยังไม่ได้หมดความน่าสนใจ และยังมี Value ที่รอการปลดล็อกรออยู่ในอนาคต เช่น การทำการค้าแบบบูรณาการ (Trade Integration) ที่กำลังเกิดมากขึ้นภายในกลุ่ม มาผสานรวมกับจุดเด่นเดิมด้านการเป็น Supply chain ต้นน้ำที่สำคัญ และอยู่ในทำเลการค้าที่ได้เปรียบ จะช่วยสร้างอำนาจต่อรองกับคู่ค้าในภูมิภาคอื่นได้มากขึ้นในอนาคต

อนาคตของตลาดหลักทรัพย์ยุคใหม่ 1) การมาของ Block chain และ Digital asset ต่างๆ ไม่ได้มองว่าตลาดไร้ตัวกลางหรือ Decentralized Exchange (DEX) ซึ่งมีค่าธรรมเนียมที่ถูก จะมา Disrupt ตลาดหลักทรัพย์แบบดั้งเดิมหรือ Centralized Exchange(CEX) ได้แบบ 100% แต่ทั้งสองจะสามารถอยู่ร่วมกันได้ในอนาคต โดย CEX เองมีจุดเด่นด้าน ความน่าเชื่อถือ และ สภาพคล่องที่สูงกว่า ทำให้สามารถเป็นศูนย์กลางการดูแล Wallet ของนักลงทุน, เป็น Custodian รับฝากโทเคน หรือ เป็นศูนย์กลางการออก Token issue ได้น่าเชื่อถือกว่า DEX   นอกจากนี้ 2) ESG คือ ธีมใหญ่ของโลกที่กำลังมา ตอนนี้ทุกประเทศต่างให้ความสนใจกับธีม ESG มากขึ้น โดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเอง (SET) เริ่มที่จะกำหนดแบบฟอร์มบังคับสำหรับบริษัทจดทะเบียนในการเปิดเผยข้อมูล ESG แต่ละด้านให้ครบถ้วน ซึ่งจะกำหนดใช้ในปีหน้า และหากในอนาคตเทคโนโลยีของตลาดหลักทรัพย์แต่ละที่สามารถประยุกต์ใช้กับ Digital asset ได้ มีโอกาสที่จะเห็น ESG Token และ Carbon Token เพื่อสนับสนุนการลงทุน และเพิ่ม Incentive ในการลงทุนกับบริษัทดังกล่าวอีกด้วย

ที่มา: บมจ.หลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย)

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๐๒ บิทูเมน มารีน บริษัทลูก TASCO ลงนามสัญญาต่อเรือขนส่งยางมะตอย เสริมศักยภาพกองเรือ
๑๗:๓๓ รมว.เกษตรฯ ลุยร้อยเอ็ด ผลักดันโครงการพัฒนาแหล่งน้ำ 3 แห่ง
๑๗:๔๔ กูรูหุ้นเชียร์ซื้อ PSP เคาะเป้าราคาสูงสุด 8 บ./หุ้น ยอดขายพุ่ง-หนี้ลด ดันกำไรปี 67 ออลไทม์ไฮ ดีล MA สร้าง New S-Curve
๑๗:๔๒ ข้าวกล้อง-จักรีภัทร พร้อมเต็มร้อย! ประเดิม จูเนียร์จีพี สนามแรก ประเทศอิตาลี
๑๗:๑๕ กรมประมงขอเชิญร่วมแข่งขันตกปลาชะโด
๑๗:๑๕ เชลล์ดอน การ์ตูนดังร่วมสาดความสนุกในเทศกาลสงกรานต์
๑๗:๒๙ สปสช. ติดปีกเทคโนโลยีไอทีด้วยคลาวด์กลางภาครัฐ GDCC ยกระดับบริการบัตรทองรวดเร็วทันสมัย ดูแลสุขภาพคนไทยยุคดิจิทัล
๑๗:๑๐ GSK ร่วมงาน Re-imagining UK Aging Care Event ของสถานทูตอังกฤษ มุ่งสร้างเสริมภูมิคุ้มกันผู้สูงอายุ
๑๗:๔๓ เอส เอฟ จับมือ กปน. มอบสิทธิ์ดูฟรีรวม 1,000 ที่นั่ง เพียงใช้ MWA Point ที่ เอส เอฟ!!
๑๖:๓๖ เตรียมพร้อมนับถอยหลัง 12 ชั่วโมงสุดท้าย! ก่อนเริ่มประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ Bitcoin Halving ครั้งที่ 4