นายกิตติ พัวถาวรสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ็นซีแอล อินเตอร์เนชั่นแนล โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) (NCL) เปิดเผยถึงแนวโน้มผลการดำเนินงานครึ่งปีหลังของบริษัทฯ คาดว่ารายได้และกำไรมีแนวโน้มเติบโตอย่างโดดเด่นและต่อเนื่องยาวถึงปี 2565 โดยได้รับอานิสงส์จากการปรับตัวขึ้นของค่าบริการขนส่งระหว่างประเทศที่พุ่งสูงขึ้น รวมถึงธุรกิจขนส่งโลจิสติกส์ขยายตัวตามการค้าโลก
ประกอบกับปัจจัยการขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์ในการขนส่งยังไม่คลี่คลาย ทำให้ปริมาณลูกค้าเข้ามาใช้บริการของ NCL เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องถึงปลายปี โดยปัจจุบัน NCL มีตู้คอนเทนเนอร์ให้บริการ 2,000 ตู้ แบ่งเป็นเจ้าของตู้คอนเทนเนอร์เอง โดยผ่านบริษัท แอลจี คอนเทนเนอร์ ไลน์ พีทีอี แอลทีดี (LG) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยและเป็นตัวแทนแต่งตั้งจากต่างประเทศในการนำเข้าและส่งออกสินค้า จำนวน 500 ตู้ และได้เช่าตู้คอนเทนเนอร์เพิ่มอีกประมาณ 1,500 ตู้ เป็นสัญญาเช่าระยะยาว
นอกจากนี้ในส่วนของธุรกิจผลิตและจำหน่ายน้ำยาฟอกเลือดผู้ป่วยโรคไตด้วยเครื่องไตเทียมยังเป็นตัวช่วยเสริมรายได้และกำไรให้เติบโต โดยได้ขยายฐานลูกค้าศูนย์ฟอกไตเพิ่มขึ้นเป็น 100 แห่ง และมีกำลังการผลิตน้ำยาล้างไตได้ 1.2 แสนแกลลอนต่อเดือน คาดว่าจะสร้างรายได้เฉลี่ย 100 ล้านบาทต่อปี
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร NCL กล่าวอีกว่า ตามเป้าหมายที่ต้องการเพิ่มฐานรายได้ และกระจายความเสี่ยงทางธุรกิจ บริษัทฯ จึงได้พยายามมองหาธุรกิจใหม่ๆ ที่มีศักยภาพในอนาคต เพื่อมาต่อยอดธุรกิจขนส่งโลจิสติกส์ให้เติบโตมากยิ่งขึ้น ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการในหลายๆ โปรเจค ทั้งโปรเจคกัญชง-กัญชาที่ร่วมกับมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ รวมถึง ธุรกิจ Digital Content โดยเชื่อมั่นว่าจะหนุนภาพธุรกิจในอนาคตของ NCL ให้เติบโตอย่างมีนัยสำคัญ
"จากปัจจัยบวกที่กล่าวมาข้างต้นส่งผลทำให้แนวโน้มรายได้และกำไรครึ่งปีหลังของบริษัทฯ เติบโตอย่างโดดเด่น และยังเติบโตยาวถึงปีหน้า ส่วนผลประกอบการในปีนี้เชื่อว่าจะทำระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่เข้าจดทะเบียนในตลาดฯ "นายกิตติกล่าวในที่สุด
ที่มา: เอ็นซีแอล อินเตอร์เนชั่นแนล โลจิสติกส์