กรุงศรีเผยผลกำไรสุทธิ 9 เดือนแรกปี 2564 จำนวน 27,409 ล้านบาท ดันสินเชื่อพาณิชย์โตต่อเนื่อง หนุนสภาพคล่องลูกค้า ฟื้นธุรกิจ

พฤหัส ๒๑ ตุลาคม ๒๐๒๑ ๐๘:๕๐
กรุงศรี (ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) และบริษัทในเครือ) เผยผลประกอบการ 9 เดือนแรกของปี 2564 กำไรสุทธิจำนวน 27,409 ล้านบาท ดันสินเชื่อเพื่อธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) และสินเชื่อเพื่อธุรกิจขนาดใหญ่เติบโต 4.4% และ 4.2% ตามลำดับ เพื่อช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจาก COVID-19 อย่างต่อเนื่องผ่านหลายมาตรการเชิงรุก ตอกย้ำพันธกิจของธนาคารในการสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย

กรุงศรียังคงให้การสนับสนุนทางการเงินแก่ภาคธุรกิจและภาคครัวเรือนที่มีความเปราะบาง เพื่อช่วยลดความรุนแรงของผลกระทบจากโรคระบาด โดยเฉพาะในช่วงไตรมาสที่สามที่ภาวะเศรษฐกิจอ่อนแรงลงอย่างชัดเจน ส่งผลให้ยอดสินเชื่อภายใต้มาตรการช่วยเหลือเพิ่มขึ้นเป็น 233,617 ล้านบาท นอกจากนี้ ธนาคารได้สนับสนุนโครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำและสินเชื่อเพื่อการฟื้นฟูธุรกิจอย่างต่อเนื่อง โดยมียอดรวม 25,709 ล้านบาท ณ สิ้นเดือนกันยายนปี 2564

สรุปผลประกอบการและฐานะการเงินที่สำคัญสำหรับช่วง 9 เดือนแรกของปี 2564:

  • กำไรสุทธิจากการดำเนินธุรกิจปกติลดลง 2.2% หรือจำนวน 431 ล้านบาท จากช่วงเก้าเดือนแรกของปี 2563 โดยส่วนใหญ่เกิดจากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิที่ลดลง ซึ่งเป็นผลมาจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินให้สินเชื่อหลายครั้งเพื่อบรรเทาภาระหนี้ของลูกค้า และสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ รวมถึงการปรับลดเพดานอัตราดอกเบี้ยของสินเชื่อเพื่อลูกหนี้รายย่อย
  • เมื่อรวมกำไรพิเศษจากเงินลงทุนจากการขายหุ้นใน บริษัท เงินติดล้อ จำกัด (มหาชน) ในไตรมาสที่สองปี 2564 ส่งผลให้ธนาคารมีกำไรสุทธิอยู่ที่จำนวน 27,409 ล้านบาท สำหรับช่วงเก้าเดือนแรกของปี 2564 เป็นการเพิ่มขึ้น 39.5% จากช่วงเก้าเดือนแรกของปี 2563
  • เงินให้สินเชื่อรวม เพิ่มขึ้น 1.2% หรือจำนวน 21,294 ล้านบาทจากสิ้นเดือนธันวาคมปี 2563 ซึ่งเกิดจากการเติบโตอย่างแข็งแกร่งของสินเชื่อ SME และสินเชื่อเพื่อธุรกิจขนาดใหญ่ที่ 4.4% และ 4.2% ตามลำดับ สะท้อนความมุ่งมั่น และทุ่มเทของกรุงศรีในการช่วยเหลือลูกค้าผ่านหลายมาตรการเพื่อบรรเทาผลกระทบ
  • เงินรับฝาก ลดลง 2.8% หรือจำนวน 51,564 ล้านบาทจากสิ้นเดือนธันวาคมปี 2563 โดยส่วนใหญ่เกิดจากการบริหารจัดการสภาพคล่องเชิงรุกอย่างมีประสิทธิภาพ และการเพิ่มสัดส่วนเงินรับฝากออมทรัพย์และจ่ายคืนเมื่อทวงถาม
  • ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิ (NIM) อยู่ที่ 3.23% เทียบกับ 3.63% ในช่วงเก้าเดือนแรกของปี 2563 ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินให้สินเชื่อหลายครั้ง และการปรับลดเพดานอัตราดอกเบี้ยของสินเชื่อเพื่อลูกหนี้รายย่อย
  • รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญจำนวน 12,104 ล้านบาท หรือ 50.5% จากช่วงเก้าเดือนแรกของปี 2563 โดยปัจจัยหลักมาจากการบันทึกกำไรจากเงินลงทุนจากการขายหุ้นเงินติดล้อ
    หากไม่รวมรายการพิเศษจากการขายเงินลงทุนข้างต้น รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยจากการดำเนินธุรกิจปกติเพิ่มขึ้นจำนวน 1,377 ล้านบาท หรือ 5.7% จากช่วงเก้าเดือนแรกของปี 2563
  • อัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้ ปรับตัวดีขึ้นอยู่ที่ 42.1% ในไตรมาสสามปี 2564 จาก 43.0% ในไตรมาสสองปี 2564 โดยเกิดจากการบริหารจัดการค่าใช้จ่ายของธนาคารท่ามกลางปัญหาการแพร่ระบาดของ COVID-19 ที่ยืดเยื้อ และอยู่ที่ 43.0% ในช่วงเก้าเดือนแรกของปี 2564 เมื่อเทียบกับ 41.2% ในช่วงเดียวกันของปี 2563
  • อัตราส่วนสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL Ratio) อยู่ที่ 2.27% ณ สิ้นเดือนกันยายนปี 2564
  • อัตราส่วนเงินสำรองต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพ ธนาคารยังคงรักษาระดับการตั้งเงินสำรองอย่างรอบคอบระมัดระวัง เพื่อรองรับความเสี่ยงที่อาจเพิ่มขึ้นจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 จึงทำให้อัตราส่วนเงินสำรองต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพปรับตัวสูงขึ้นมาอยู่ที่ 177.5% ณ สิ้นเดือนกันยายน ปี 2564
  • อัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (ของธนาคาร) เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 18.46% จาก 17.92%
    ณ สิ้นเดือนธันวาคมปี 2563

นายเซอิจิโระ อาคิตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า "การเติบโตของสินเชื่อเพื่อธุรกิจสะท้อนถึงความมุ่งมั่นและความทุ่มเทของกรุงศรีในการสนับสนุนลูกค้าผ่านหลายมาตรการเพื่อบรรเทาผลกระทบ อาทิ การสนับสนุนเพื่อเพิ่มสภาพคล่อง การให้สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ สินเชื่อเพื่อการฟื้นฟูธุรกิจ และการปรับโครงสร้างหนี้ เพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวของภาคเศรษฐกิจที่ยั่งยืน"

"แม้ว่าภาวะเศรษฐกิจไทยจะเผชิญความเปราะบางที่เพิ่มขึ้น แต่การเร่งฉีดวัคซีนทั่วประเทศที่มีความคืบหน้าอย่างมีนัยสำคัญ และการผ่อนคลายมาตรการควบคุมโรคในช่วงต้นไตรมาสที่สี่ของปีนี้ ซึ่งเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ รวมถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ จะช่วยฟื้นฟูความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและภาคธุรกิจ อีกทั้งยังช่วยกระตุ้นความต้องการสินเชื่อในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2564 กรุงศรีจึงคงเป้าหมายการเติบโตของเงินให้สินเชื่อในปีนี้ ในกรอบล่างของ 3-5%"

ณ วันที่ 30 กันยายน 2564 กรุงศรี ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจการเงินที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับห้าในระบบเศรษฐกิจไทยจากมูลค่าสินทรัพย์ สินเชื่อและเงินรับฝาก และเป็นหนึ่งในสถาบันการเงินที่มีความสำคัญเชิงระบบ (D-SIB) มีสินเชื่อรวม 1.85 ล้านล้านบาท เงินรับฝาก 1.78 ล้านล้านบาท และสินทรัพย์รวม 2.49 ล้านล้านบาท ขณะที่เงินกองทุนของธนาคารอยู่ในระดับแข็งแกร่งที่ 291.72 พันล้านบาท หรือเทียบเท่า 18.46% ของสินทรัพย์เสี่ยง โดยเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 1 ที่เป็นของเจ้าของคิดเป็น 13.50%

ที่มา: ธนาคารกรุงศรีอยุธยา

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๙ เม.ย. บิทูเมน มารีน บริษัทลูก TASCO ลงนามสัญญาต่อเรือขนส่งยางมะตอย เสริมศักยภาพกองเรือ
๑๙ เม.ย. รมว.เกษตรฯ ลุยร้อยเอ็ด ผลักดันโครงการพัฒนาแหล่งน้ำ 3 แห่ง
๑๙ เม.ย. กูรูหุ้นเชียร์ซื้อ PSP เคาะเป้าราคาสูงสุด 8 บ./หุ้น ยอดขายพุ่ง-หนี้ลด ดันกำไรปี 67 ออลไทม์ไฮ ดีล MA สร้าง New S-Curve
๑๙ เม.ย. ข้าวกล้อง-จักรีภัทร พร้อมเต็มร้อย! ประเดิม จูเนียร์จีพี สนามแรก ประเทศอิตาลี
๑๙ เม.ย. กรมประมงขอเชิญร่วมแข่งขันตกปลาชะโด
๑๙ เม.ย. เชลล์ดอน การ์ตูนดังร่วมสาดความสนุกในเทศกาลสงกรานต์
๑๙ เม.ย. สปสช. ติดปีกเทคโนโลยีไอทีด้วยคลาวด์กลางภาครัฐ GDCC ยกระดับบริการบัตรทองรวดเร็วทันสมัย ดูแลสุขภาพคนไทยยุคดิจิทัล
๑๙ เม.ย. GSK ร่วมงาน Re-imagining UK Aging Care Event ของสถานทูตอังกฤษ มุ่งสร้างเสริมภูมิคุ้มกันผู้สูงอายุ
๑๙ เม.ย. เอส เอฟ จับมือ กปน. มอบสิทธิ์ดูฟรีรวม 1,000 ที่นั่ง เพียงใช้ MWA Point ที่ เอส เอฟ!!
๑๙ เม.ย. เตรียมพร้อมนับถอยหลัง 12 ชั่วโมงสุดท้าย! ก่อนเริ่มประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ Bitcoin Halving ครั้งที่ 4