นายวิชัย อัศรัสกร รองประธานองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) ได้กล่าวขอบคุณผู้เข้าร่วมแสดงความคิดเห็นจากทั้ง 14 องค์กร และจะนำไปขยายผลในเวทีระดมความร่วมมือแผนปฏิบัติการธรรมาภิบาลเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน (Main Forum) ในวันที่ 20 พฤศจิกายน 2564 ซึ่งจะมีประเด็นการสร้างการมีส่วนร่วมของภาคประชาชน ในโครงการข้อตกลงคุณธรรม และโครงการความโปร่งใสในการก่อสร้างภาครัฐ CoST เป็นการเปิดโอกาสให้ประชาชนได้มีส่วนร่วมที่เป็นรูปธรรมมากที่สุด เท่าที่เคยมีการกำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญฯ รวมถึงคณะกรรมการ ค.ป.ท. ที่เป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนการทำงาน นอกจากการป้องกันการทุจริตแล้วยังเป็นการเสริมประสิทธิภาพการทำงานของภาครัฐ ที่เป็นการมุ่งเน้นความคุ้มค่า ความมีคุณภาพ และความสำเร็จ ขนาดนี้ต้องขอชื่นชมภาครัฐและภาคประชาชน ขอบคุณกรมบัญชีกลางที่เป็นหัวใจสำคัญ ที่เกิดความสำเร็จในการทำงานร่วมกันระหว่างภาคประชาชน และภาครัฐ ที่มีกฎหมายเข้ามาเกี่ยวข้อง
สำหรับข้อเสนอที่น่าสนใจในการประชุม ประกอบด้วย
- การเปิดเผยข้อมูล เพื่อการมีส่วนร่วมของภาคประชาชน ทำอย่างไรจะสามารถเปิดเผยข้อมูลให้กับประชาชนรับรู้ได้โดยตรง กลไกการเพิ่มความโปร่งใสโดยให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมมากขึ้น การสร้างมาตรฐานว่าข้อมูลใดควรเปิดเผย และถ้าจะเปิดควรเปิดอย่างไร ซึ่งภาครัฐต้องเปิดเผยให้ประชาชนเข้าถึง เพราะหัวใจหลักของข้อตกลงคุณธรรม คือ การสร้างความโปร่งใส และการมีส่วนร่วมของประชาชน และทุกภาคส่วน
- การนำข้อตกลงคุณธรรมไปขยายขอบเขตนอกเหนือ พ.ร.บ. การจัดซื้อจัดจ้างตามมติ ครม. ซึ่งครอบคลุมไปถึงกฎหมายอื่น เช่น พ.ร.บ. การร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชนฯ พ.ร.บ. รักษาความสะอาดฯ พ.ร.บ. เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกฯ ต้องดำเนินการให้มีรูปแบบและทำเป็นมาตราฐานเดียวกันกับข้อตกลงคุณธรรมที่อยู่ภายใต้ พ.ร.บ. จัดซื้อจัดจ้าง
ล่าสุดมีมติจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 29 มิถุนายน 2564 ให้นำข้อตกลงคุณธรรมไปใช้ในโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) โครงการความร่วมมือภาครัฐและภาคเอกชน (PPP) ไปใช้โดยอนุโลม และ ACT ได้รับคัดเลือกจากคณะกรรมการความร่วมมือการป้องกันการทุจริต (คณะกรรมการ ค.ป.ท.) ให้เป็นองค์กรที่ได้รับมอบหมายทำหน้าที่อีก 3 ปี ซึ่งกลไกนี้เป็นสมบัติของชาติ เป็นสิ่งที่เราสร้างด้วยกันและเป็นสิ่งที่เราสร้างขึ้นมา และจะพัฒนาให้เป็นสิ่งที่ยั่งยืนต่อไป
ที่มา: องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน