นายจอมทรัพย์ โลจายะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซุปเปอร์ เอนเนอร์ยี คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SUPER เปิดเผยว่า บริษัทประสบความสำเร็จการเสนอขายหุ้นกู้ครั้งที่ 2/2564 ซึ่งเป็นการเสนอขายหุ้นกู้ มูลค่ารวม 1,500 ล้านบาท ซึ่งเป็นการแบ่งจำนวนเสนอขาย 1,000 ล้านบาทและหุ้นกู้สำรองเพื่อเสนอขายเพิ่มเติม 500 ล้านบาท โดยหุ้นกู้มีอายุ 3 ปี ครบกำหนดไถ่ถอนปี 2567 อัตราดอกเบี้ยคงที่ 4.90 % ต่อปี กำหนดชำระดอกเบี้ยทุก 3 เดือนตลอดอายุหุ้นกู้
ทั้งนี้หุ้นกู้ที่ออกและเสนอขายครั้งนี้ได้รับความสนใจจากผู้ลงทุนสถาบัน และผู้ลงทุนรายใหญ่ที่ให้ความสนใจเป็นอย่างดี หลังเปิดให้จองซื้อระหว่างวันที่ 18 - 20 ตุลาคม 2564 ที่ผ่านมา ได้รับความสนใจจองซื้อเกินเป้าหมาย แม้จะต้องเผชิญกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 แต่กระแสตอบรับยังดีเกินคาด ซึ่งสะท้อนความเชื่อมั่นที่นักลงทุนมีต่อธุรกิจที่มีการเติบโตอย่างสม่ำเสมอ
รวมทั้งผลตอบแทนของอัตราดอกเบี้ยของหุ้นกู้ยังมีความน่าสนใจอยู่ในระดับที่ดี เหมาะสมกับการเลือกลงทุนอีกด้วย โดยบริษัทได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือจากบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ที่ระดับ "BBB" อันดับเครดิต "คงที่"
สำหรับการออกหุ้นกู้ในครั้งนี้ บริษัทฯจะนำเงินชำระคืนหุ้นกู้ จำนวน 600 ล้านบาท และลงทุน ในโครงการโรงไฟฟ้าฟ้า SPP Hybrid ในจังหวัดสระแก้ว ประมาณ 600 ล้านบาท เงินส่วนที่เหลือจะใช้เป็นเงินทุน หมุนเวียนในการขยายธุรกิจของบริษัทฯ
" ต้องขอขอบคุณผู้ลงทุนที่ให้ความไว้วางใจ และตอบรับอย่างดีต่อการเสนอขายหุ้นกู้ในครั้งนี้ สะท้อนถึงความเชื่อมั่นที่นักลงทุนมีต่อความสามารถในการทำกำไรที่ดี และคุณภาพสินทรัพย์ที่ค่อนข้างมีเสถียรภาพ ตลอดจนแหล่งเงินทุนที่หลากหลาย และสถานะสภาพคล่องที่เพียงพอของบริษัทฯสามารถขยายธุรกิจได้อย่างคล่องตัว อีกทั้งเป็นการรักษาการอัตราเติบโตได้อย่างยั่งยืน "นายจอมทรัพย์ กล่าว
ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกล่าวว่า ภาพรวมการดำเนินธุรกิจ บริษัทฯมั่นใจว่า จะยังรักษาการเติบโตได้ต่อเนื่องท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ จะเติบโตได้ดีกว่าครึ่งแรกตามกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นซึ่งผลประกอบการในครึ่งแรกที่ผ่านมาสะท้อนการเติบโตอย่างแข็งแกร่งทั้งรายได้ และกำไร โดยในครึ่งปีแรกปี 2564 มีรายได้รวม 4,421.0 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 34.9% จากงวดเดียวกันปีก่อนมีรายได้รวมเท่ากับ 3,276.5 ล้านบาท ขณะที่มีกำไรสุทธิ 1,913.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 92.4%
นอกจากนี้ SUPER ยังคงเดินหน้าในการขยายการลงทุนโรงไฟฟ้าในประเทศ และต่างประเทศต่อเนื่องได้ตามแผนที่วางไว้ ซึ่งมีกำลังการผลิตรวมอยู่ที่ 1,563.32 เมกะวัตต์ ตั้งเป้าหมายที่จะเพิ่มกำลังการผลิตรวมให้ไปแตะระดับ 1,900 - 2,000 เมกะวัตต์ภายในปี 2565 และมีรายได้เติบโตอย่างก้าวกระโดด รวมทั้งยังหาโอกาสในการเข้าไปลงทุนในโครงการอื่นๆเพิ่มเติม เพื่อตอกย้ำความเชื่อมั่นต่อการสร้างผลตอบแทนในโครงการต่างๆ ที่มีในพอร์ต และโครงการในอนาคต รวมทั้งการก้าวสู่การเป็นผู้ผลิตไฟฟ้ารายใหญ่ในประเทศเวียดนามในปี2565 ด้วยเช่นกัน
ที่มา: ซุปเปอร์ เอนเนอร์ยี คอร์เปอเรชั่น