"อินทิเกรเต็ดฯ มีทีมประชาสัมพันธ์ที่มีจุดแข็งทางด้านออฟไลน์เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ขณะเดียวกันก็มีกลยุทธ์ที่แตกต่างในการสร้างแบรนด์ สื่อสารการตลาด และการจัดการวิกฤติ (Crisis Management) ที่จะช่วยให้องค์กรของลูกค้าเติบโตอย่างต่อเนื่อง การปรับองค์กรใหม่ในครั้งนี้จะทำให้บริษัทฯ มีความแข็งแกร่งทางด้านดิจิทัลมากยิ่งขึ้น สามารถก้าวเป็นบริษัทประชาสัมพันธ์ในยุค Metaverse ที่มีความสามารถรอบด้านทั้งออฟไลน์และออนไลน์ ซึ่งจะส่งผลให้การประชาสัมพันธ์สินค้าและบริการของลูกค้าประสบความสำเร็จมากกว่าเดิม และได้ผลลัพธ์ที่คุ้มค่ามากที่สุด" นางสาววราภรณ์ กล่าว
โดยปีนี้ บริษัทฯ ได้ตั้งเป้าบิลลิ่งเติบโต 10% พร้อมเดินหน้าขยายงานเพิ่มทั้งในส่วนของลูกค้าปัจจุบัน ลูกค้าเก่า ลูกค้าใหม่ นำเสนอบริการและเครื่องมือใหม่ ๆ รวมทั้งเสนอแผนที่มีทางเลือกให้กับลูกค้า โดยใช้ กลยุทธ์ 3P ได้แก่ Power คือการนำดิจิทัลเข้ามาเสริมพลังครบวงจร, Partner คือการร่วมมือกับบริษัทด้านเทคโนโลยี การฝึกอบรม และการสร้างแบรนด์ เพื่อเสริมความคมลึกในการทำงาน และ Performance คือการทำงานที่สามารถวัดผลได้
นางสาววราภรณ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สถานการณ์โควิด-19 ตลอด 2 ปีที่ผ่านมาได้ Disrupt รูปแบบการทำงานด้านสื่อสารการตลาดและประชาสัมพันธ์ให้เปลี่ยนไปจากเดิม ซึ่งบริษัทฯ ก็สามารถปรับตัวได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ บริษัทฯ ก็ได้มีโอกาสทำกิจกรรมเพื่อสังคมด้วยการทำประชาสัมพันธ์ให้กับองค์กรที่มีกิจกรรมช่วยเหลือสังคมในสถานการณ์โควิดโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย
สำหรับลูกค้าที่ให้ความวางไว้ใช้บริการกับอินทิเกรเต็ด คอมมูนิเคชั่น ในปัจจุบันประกอบด้วยบริษัทชั้นนำทั้งภาคเอกชนและภาครัฐกว่า 30 บริษัท อาทิ สหพัฒนพิบูล, ไลอ้อน (ประเทศไทย), ไทยเพรซิเดนท์ฟูดส์, พฤกษา เรียลเอสเตท, แลคตาซอย, ศรีนานาพร มาร์เก็ตติ้ง, บ้านปู เน็กซ์, เอ็นเอส บลูสโคป (ประเทศไทย), โรงพยาบาลนวเวช, ศูนย์การค้าเดอะสตรีท รัชดา, มูลนิธิเอสซีจี, กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ, กรมการพัฒนาชุมชน และสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ เป็นต้น
ที่มา: อินทิเกรเต็ด คอมมูนิเคชั่น