กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ กรุงศรีคาดว่า ตลาดจะติดตามความเห็นของประธานเฟดและยอดค้าปลีกเดือนเมษายนของสหรัฐฯ ขณะที่นักลงทุนคาดว่าเฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยอย่างน้อย 50bp ในการประชุมวันที่ 14-15 มิถุนายน ทางด้านเงินเยนอาจฟื้นตัวขึ้นต่อเนื่องหากบอนด์ยิลด์ของสหรัฐฯ ย่อตัวลงหรือแกว่งตัวในลักษณะย่ำฐานและไม่ได้ทำจุดสูงสุดใหม่ของรอบท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับทิศทางเศรษฐกิจจีนและสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างรัสเซียและชาติตะวันตกซึ่งกดดันการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง ส่วนเงินยูโรอาจเผชิญความเสี่ยงด้านต่ำต่อไปแม้ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยในเดือนกรกฎาคมเพื่อควบคุมภาวะเงินเฟ้อ แต่การสู้รบยังคงยืดเยื้อและวิกฤติราคาพลังงานยังไม่มีสัญญาณคลี่คลายลง
สำหรับปัจจัยในประเทศ จีดีพีไตรมาส 1/65 ขยายตัว 2.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนซึ่งสูงกว่าที่ตลาดคาดไว้ โดยสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์) ปรับลดประมาณการการเติบโตของเศรษฐกิจไทยปีนี้เป็น 2.5-3.5% แต่ปรับเพิ่มคาดการณ์มูลค่าส่งออกเป็นขยายตัว 7.3% ทางด้านธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ระบุว่าการอ่อนค่าของเงินบาทมีผลต่อเงินเฟ้อและเศรษฐกิจในภาพรวมค่อนข้างจำกัด และการดำเนินนโยบายของธปท.ยังคงให้น้ำหนักไปที่การฟื้นตัวของเศรษฐกิจเป็นหลัก อนึ่ง กรุงศรีมองว่าแม้กระแสเงินทุนเคลื่อนย้ายเริ่มมีสัญญาณไหลออกต่อเนื่องมากขึ้นในเดือนนี้ แต่หากบอนด์ยิลด์สหรัฐฯ เข้าสู่ช่วงพักตัว การอ่อนค่าของเงินบาทอาจชะลอลงได้บ้างในระยะนี้
ที่มา: ธนาคารกรุงศรีอยุธยา