ทั้งนี้ ในรอบระยะเวลาบัญชีตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม - 31 มีนาคม 2565 (ไตรมาสที่ 4 ปี 2564/2565) กองทุน BTSGIF มีขาดทุนสะสมอยู่ที่ 15,950.9 ล้านบาท จึงยังไม่สามารถจ่ายเงินปันผลให้ผู้ถือหน่วยลงทุนในงวดนี้ได้ ตามหลักเกณฑ์และนโยบายการจ่ายเงินปันผลที่ระบุในหนังสือชี้ชวนของกองทุน
อย่างไรก็ดี จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่มีความรุนแรงน้อยลง กิจกรรมทางเศรษฐกิจต่างๆ เริ่มกลับมาเป็นปกติ และประเทศไทยมีการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2565 โดยได้ปรับมาตรการการเดินทางเข้าประเทศให้ผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศไม่ต้องทำ Test & Go คาดว่าจะเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้จำนวนผู้โดยสารรถไฟฟ้า BTS มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในระยะถัดไปได้ ซึ่งก็จะส่งผลให้กองทุน BTSGIF มีโอกาสกลับมาจ่ายเงินให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนได้เพิ่มขึ้นในอนาคต
สำหรับภาพรวมผลการดำเนินงานในช่วงเดือนมกราคม - มีนาคม 2565 (ไตรมาสที่ 4 ปี 2564/2565) กองทุน BTSGIF มีรายได้จากการลงทุนสุทธิ 356.2 ล้านบาท ลดลง 12.5% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน และลดลง 5.7% จากไตรมาสก่อนหน้า ส่วนรายได้จากการลงทุนสุทธิ ทั้งปี 2564/2565 อยู่ที่ 875.0 ล้านบาท ลดลง 57.1% จากปีก่อน ซึ่งเป็นการลดลงตามรายได้จากเงินลงทุนในสัญญาซื้อและโอนสิทธิรายได้สุทธิจากการดำเนินงานระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนกรุงเทพสายหลักตามสัญญาสัมปทานที่ลดลง จากผลกระทบของโควิด-19
ที่มา: บลจ.บัวหลวง