รายงานดังกล่าวใช้โมเดลวิเคราะห์ที่คิดค้นขึ้นเอง เพื่อให้คะแนนและจัดอันดับความน่าเชื่อถือ โดยประเมินภาวะด้านการผลิตและการเงินของบริษัทต่าง ๆ ซึ่งฉบับล่าสุดครอบคลุมผู้ผลิตโมดูลแสงอาทิตย์กว่า 50 ราย
ทรินา โซลาร์ จัดส่งโมดูลมากที่สุดเป็นอันดับสองของโลกในปี 2564 โดยจัดส่งรวม 24.8 กิกะวัตต์ และยังคงรั้งอันดับดังกล่าวในไตรมาสแรกของปี 2565 ซึ่งจัดส่งไป 8 กิกะวัตต์ ขณะที่รายงานต่าง ๆ ในอุตสาหกรรมบ่งชี้ว่า ยอดจัดส่งโมดูลตระกูล 210 ทั่วโลกได้เพิ่มขึ้นอย่างมากในปี 2564 แตะหลัก 26 กิกะวัตต์ โดยเป็นของทรินา 16 กิกะวัตต์ ขณะที่ยอดจัดส่งโมดูลตระกูล 210 สะสมจนถึงปลายเดือนมีนาคม 2565 รวมกันเกิน 35 กิกะวัตต์แล้ว
รายงานของพีวีเทคฉบับนี้ยังได้วิเคราะห์เกณฑ์วัดทางเทคโนโลยีด้วย ซึ่งทรินาก็ยังคงมีนวัตกรรมใหม่ ๆ ในส่วนนี้ โดยเป็นหนึ่งในผู้บุกเบิกเทคโนโลยี n-type และสร้างสถิติโลกครั้งที่ 23 ไว้เมื่อเดือนมีนาคม ซึ่งเซลล์ TOPCon ขนาด 210?210 มม. ของบริษัทได้บรรลุประสิทธิภาพสูงสุดไว้ที่ 25.5% นอกจากนี้ ทรินายังได้ยกระดับมาตรฐานด้านประสิทธิภาพของเซลล์ PERC และ HJT ด้วย
โมดูล Vertex มูลค่าสูงของทรินา ไม่ว่าจะตั้งแต่รุ่น Vertex S 410W ไปจนถึงรุ่นกำลังสูงพิเศษอย่าง 600W+ รองรับการใช้งานได้ทั้งในครัวเรือนและแบบติดตั้งบนพื้นขนาดใหญ่ในโรงไฟฟ้า โดยปรากฏให้เห็นความเป็นเลิศทั้งในแง่ของความน่าเชื่อถือ พลังงานที่ผลิตได้ แต่ต้นทุน LCOE ต่ำลง นอกจากนี้ การที่ทรินาทุ่มเทเรื่องคุณภาพของผลิตภัณฑ์มาอย่างยาวนาน ยังทำให้บริษัทได้รับการยอมรับเป็น "Top Performer" (ผู้ทำผลงานดีเด่น) ในการจัดอันดับของพีวีอีแอล (PVEL) เป็นปีที่ 8 ติดต่อกันเมื่อไม่นานมานี้ด้วย
รายงานภาวะการเงินประจำปี 2564 ของบริษัทระบุว่า บริษัทมีรายได้ 6.895 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 51.2% เทียบรายปี โดยมีสินทรัพย์รวมกัน 9.966 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 39.36% เทียบรายปี
เฮเลนา หลี่ (Helena Li) ประธานธุรกิจเซลล์และโมดูลของทรินา กล่าวว่า "ทรินา โซลาร์ เป็นผู้ผลิตโมดูลแสงอาทิตย์ชั้นนำของโลกมาหลายปีแล้ว และเมื่อประเมินจากผลประกอบการทางการเงิน นวัตกรรมเทคโนโลยี และมูลค่าของผลิตภัณฑ์ที่เราคิดค้นขึ้นแล้ว เรามีความภาคภูมิใจที่ติดอันดับ AAA ในรายงานประเมินความน่าเชื่อถือของพีวีเทค โดยทรินา โซลาร์ จะยังก้าวหน้าต่อไปและเพิ่มคุณประโยชน์ให้ลูกค้าทั่วโลก"