นายสมเกียรติ ศิลวัฒนาวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สโตนเฮ้นจ์ อินเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ STI ผู้นำกลุ่มธุรกิจบริหารและควบคุมงานก่อสร้างครบวงจร เปิดเผยความสำเร็จในการย้ายหลักทรัพย์ของ STI เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ในวันที่ 15 มิถุนายน 2565 เป็นวันแรก ยกเครื่ององค์กรชุดใหญ่ เพิ่มโอกาสให้นักลงทุนสถาบันทั้งในและต่างประเทศ เข้ามาเพิ่มสัดส่วนการลงทุน ซึ่งเป็นการขยายฐานนักลงทุนให้กว้างขึ้น ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในก้าวสำคัญของ STI สู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
และถือเป็นอีกความสำเร็จ กว่า 3 ทศวรรษขององค์กร นับตั้งแต่ STI เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ในช่วงปลายปี 2561 ตอกย้ำการบริหารงานด้วยความเชี่ยวชาญของบริษัท และยังรวมไปถึงสร้างโอกาสในการขยายธุรกิจวิศวกรรม ได้รับความไว้วางใจให้ควบคุมงานก่อสร้างโครงการเมกะโปรเจกต์ขนาดใหญ่ระดับประเทศของภาครัฐ และงานโครงการภาคเอกชนมาแล้วเกือบพันโครงการ ตลอดจนมีผลการดำเนินงานที่เติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยในปี 2565 ย้ายเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ยิ่งมั่นใจว่า จะเป็นอีกก้าวที่ยิ่งใหญ่ สนับสนุนศักยภาพทางธุรกิจ และการลงทุน สู่เป้าหมายการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญในอนาคต
ทั้งนี้ ปัจจุบัน STI มีงานในมือ (Backlog) อยู่ที่ราว 4,000 ล้านบาท แบ่งเป็นงานภาครัฐ 70% งานภาคเอกชน 30% ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ในช่วง 3-5 ปีจากนี้ พร้อมทั้ง อยู่ระหว่างเดินหน้าประมูลงานใหม่เข้าพอร์ตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นไปตามภาพรวมการลงทุนของภาคเอกชนมีแนวโน้มเติบโตตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และการขยายเมือง รวมถึงงานโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งอยู่ในแผนการลงทุนของภาครัฐซึ่งเป็นแผนระยะยาว สะท้อน STI อยู่ในอุตสาหกรรมที่เร่งฟื้นตัว และมีมูลค่าการลงทุนสูง โดยมี บริษัท เอเชี่ยน เอ็นจิเนียริ่ง คอนซัลแต้นส์ จำกัด (AEC) บริษัทในกลุ่มที่เข้ามาเสริมความแข็งแกร่ง มั่นใจ เป้าหมายทุบสถิติทำ New High Backlog ส่วนรายได้ทั้งปีนี้ทะลุ 2,000 ล้านบาท
โดย STI ยังพร้อมเดินหน้าพัฒนาธุรกิจสู่ความเป็นเลิศในงานวิศวกรรมควบคุมงานก่อสร้างชั้นนำของประเทศไทย ที่ไม่หยุดนิ่งในการขยายโอกาสใหม่ๆ เติบโตในอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ไทยอย่างมั่นคง สร้างความเชื่อมั่นต่อนักลงทุนอย่างยั่งยืน
ที่มา: ไออาร์ พลัส