นับตั้งแต่เปิดตัวเมื่อเดือนเมษายน โมดูลเวอร์เท็กซ์รุ่นอัปเกรดซึ่งมีกำลังการผลิตไฟฟ้าสูงขึ้นแต่ต้นทุนการผลิตไฟฟ้าต่อหน่วยไฟฟ้าปรับเฉลี่ย (LCOE) ลดลง ได้ดึงดูดความสนใจและได้รับเสียงชื่นชมจากลูกค้าทั่วโลก นอกเหนือจากเทคโนโลยีมัลติบัสบาร์ การตัดแบ่งโมดูลโดยไม่สร้างความเสียหาย และการเชื่อมต่อความหนาแน่นสูงแล้ว โมดูลรุ่นใหม่ยังใช้เทคโนโลยีซิลิคอนเวเฟอร์สี่เหลี่ยม 210R ใหม่ล่าสุดและดีไซน์โมดูลที่ทันสมัย ซึ่งช่วยเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าของโมดูลสูงสุด 30 วัตต์ต่อโมดูล ส่งผลให้โมดูลเวอร์เท็กซ์ เอส มีกำลังการผลิตไฟฟ้าเพิ่มขึ้นเป็น 430 วัตต์ และโมดูลเวอร์เท็กซ์ 550 วัตต์ มีกำลังการผลิตไฟฟ้าเพิ่มขึ้นเป็น 580 วัตต์ พร้อมค่าประสิทธิภาพของโมดูลสูงสุด 21.8% นับเป็นความก้าวหน้าอย่างมากเมื่อเทียบกับผลิตภัณฑ์ประเภทเดียวกันในตลาดการผลิตไฟฟ้าแบบกระจายตัวทั่วโลก
ด้วยเทคโนโลยี 210R ที่เพิ่มเข้ามาในโมดูลเวอร์เท็กซ์ตระกูล 210 ส่งผลให้ทรินา โซลาร์ มีความสามารถในการแข่งขันมากขึ้นในตลาดการผลิตไฟฟ้าแบบกระจายตัว และด้วยการพัฒนานวัตกรรมและสร้างสรรค์สิ่งใหม่อย่างต่อเนื่อง โมดูล 210R ของทรินา โซลาร์ จึงช่วยลดต้นทุนการผลิตไฟฟ้าได้อย่างมีนัยสำคัญและมีความน่าเชื่อถือสูง มอบประสิทธิภาพอันยอดเยี่ยมในตลาดการผลิตไฟฟ้าแบบกระจายตัว ซึ่งครอบคลุมระบบผลิตไฟฟ้าแบบติดตั้งบนหลังคาครัวเรือน โรงงานอุตสาหกรรม และอาคารพาณิชย์ทั่วโลก นอกจากนี้ ทรินา โซลาร์ ยังสร้างมูลค่าสูงสุดให้แก่ลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้บริษัทครองความเป็นผู้นำในด้านการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แบบกระจายตัว
เพื่อรับประกันคุณภาพและประสิทธิภาพระดับสูงของโมดูลประสิทธิภาพสูงเป็นพิเศษรุ่นใหม่นี้ ทรินา โซลาร์ จึงทำการอัปเกรดโรงงาน 210 ซูเปอร์ แฟกทอรี ในเมืองอี้อูอย่างครอบคลุมรอบด้าน ด้วยการยกระดับทั้งสายการผลิตและกระบวนการผลิต นอกจากนี้ ทรินา โซลาร์ จะเดินหน้านำเสนอผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงและเชื่อถือได้มากยิ่งขึ้น รวมถึงมอบคุณค่าและสร้างผลตอบแทนให้แก่ลูกค้ามากขึ้น พร้อมทั้งสนับสนุนการพัฒนาที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและปล่อยคาร์บอนต่ำทั่วโลก