ความสำเร็จครั้งล่าสุดนี้เกิดขึ้นหลังจากที่เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ทรินา โซลาร์ ได้ประกาศว่าเซลล์ i-TOPCon ขนาด 210 x 210 มม. ของบริษัท มีค่าประสิทธิภาพสูงสุดที่ระดับ 25.5% นับเป็นการสร้างสถิติโลกครั้งใหม่สำหรับเซลล์ i-TOPCon ชนิด n-type ขนาดใหญ่ระดับอุตสาหกรรม
คณะนักวิจัยจากห้องปฏิบัติการวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเซลล์แสงอาทิตย์ (State Key Laboratory of PV Science and Technology) ของทรินา โซลาร์ ได้พัฒนาเทคโนโลยีมัลติบัสบาร์ การห่อหุ้มเซลล์รูปแบบใหม่ และการตัดด้วยเลเซอร์ที่ไม่สร้างความเสียหาย เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของโมดูล โดยการใช้เซลล์ i-TOPCon ชนิด n-type ขนาดใหญ่ 210 มม. ส่งผลให้โมดูล 600 วัตต์+ ขนาด 2.807 ตารางเมตร มีค่าประสิทธิภาพการรับแสงสูงสุด 24.24%
"เราภูมิใจมากที่ได้ประกาศความสำเร็จล่าสุดจากฝีมือของทีมเทคนิคที่ห้องปฏิบัติการของเรา นี่เป็นครั้งแรกที่เซลล์ i-TOPCon ชนิด n-type ขนาดใหญ่ระดับอุตสาหกรรม มีค่าประสิทธิภาพการรับแสงเกิน 24%" ดร. อี้เฟิง เฉิน หัวหน้าศูนย์วิจัยและพัฒนาโมดูลและเซลล์ประสิทธิภาพสูงของทรินา โซลาร์ กล่าว "ทรินา โซลาร์ ทำลายสถิติเป็นครั้งที่ 25 แล้วในแง่ของประสิทธิภาพของเซลล์และโมดูล เรายังคงมุ่งมั่นพัฒนานวัตกรรมเทคโนโลยีและต่อยอดไปสู่การผลิตผลิตภัณฑ์ประสิทธิภาพสูง เพื่อสร้างมูลค่าให้แก่ลูกค้าของเรา"
ทรินา โซลาร์ พัฒนาผลิตภัณฑ์ n-type อย่างมีชั้นเชิง และยังคงเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยี n-type ประสิทธิภาพสูงรุ่นใหม่ เพื่อสร้างมูลค่ามากขึ้นให้แก่ลูกค้า นับตั้งแต่เป็นผู้นำในการผลิตโมดูล n-type ปริมาณมากในปี 2561 โมดูล n-type ประสิทธิภาพสูงและกำลังสูงของทรินา โซลาร์ ก็ได้รับการตอบรับอย่างดีจากตลาด และมีการใช้งานอย่างแพร่หลายในสถานีไฟฟ้าระดับสาธารณูปโภค รวมถึงโรงไฟฟ้าระดับอุตสาหกรรมและพาณิชย์
เพื่อตอบสนองความต้องการโมดูล n-type ขนาดเกิน 210 มม. ที่กำลังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในปี 2565 ทรินา โซลาร์ ตั้งเป้าผลิตโมดูล n-type ให้ได้ถึง 8 กิกะวัตต์ ซึ่งทั้งหมดใช้เทคโนโลยี 210+ N ของทรินา โซลาร์ ที่รวมเซลล์ n-type ประสิทธิภาพสูงเข้ากับโมดูลเวอร์เท็กซ์ 210 มม.ความน่าเชื่อถือสูง เพื่อมอบเทคโนโลยีสีเขียวระดับพรีเมียมและความงามที่สมบูรณ์แบบให้แก่ลูกค้าภาคครัวเรือน