ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โฉมใหม่ มีพื้นที่อาคารที่ใหญ่กว่าเดิมถึง 5 เท่า โดยโถงกลางของอาคารมีดีไซน์ทันสมัยไร้เสากลาง ซึ่งไม่เพียงชูความสวยงามให้โดดเด่น แต่ยังสามารถปรับใช้พื้นที่ให้รองรับการจัดงานได้หลากหลายรูปแบบ ดังนั้น โครงสร้างหลังคาจึงมีบทบาทสำคัญ ไม่เพียงแต่มีความแข็งแกร่งทนทาน แต่ต้องออกแบบพิเศษให้มีขนาดที่เหมาะสม เพื่อให้ความสูงของอาคารเป็นไปตามข้อกำหนดทางกฎหมาย ซึ่งเป็นโจทย์ใหญ่ที่ทำให้เจ้าของโครงการ ผู้รับเหมาก่อสร้าง และ บริษัท เหล็กสยามยามาโตะ จำกัด หรือ SYS ผู้ผลิตเหล็กโครงสร้าง ต้องร่วมกันหาโซลูชันที่ดีที่สุดสำหรับการก่อสร้างให้สำเร็จได้ตามโจทย์ และโครงการแล้วเสร็จในระยะเวลาที่กำหนด
นายวิทวัส คุตตะเทพ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส สายโครงการเชิงพาณิชยกรรม บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ คอมเมอร์เชียล (ประเทศไทย) จำกัด ในฐานะเจ้าของโครงการ กล่าวว่า "โจทย์ของการปรับโฉมศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์คือ การเพิ่มศักยภาพของศูนย์ฯ ให้สามารถรองรับการจัดงานประชุมและอีเว้นท์ระดับเวิลด์คลาสได้ทุกรูปแบบ ด้วยพื้นที่เกือบ 300,000 ตร.ม. มีขนาดใหญ่กว่าเดิมถึง 5 เท่า ซึ่งเราต้องการให้โครงการนี้เป็นต้นแบบในการยกระดับคุณภาพและมาตรฐานของศูนย์การประชุมในประเทศไทยต่อไป อีกทั้งยังให้ความสำคัญด้านคุณภาพและความปลอดภัยในการพัฒนาโครงการ รวมถึงการเลือกใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อมุ่งสู่การรองรับการเป็นอาคารสีเขียว"
จากโจทย์ที่กำหนดมา ทำให้ผู้ออกแบบอย่าง บริษัท เบคา (ไทยแลนด์) จำกัด ต้องทำงานอย่างหนัก เพราะนอกจากขนาดของตัวอาคารแล้ว ยังต้องคำนึงถึงข้อกำหนดทางกฎหมายด้วย "โจทย์ที่ได้รับมา ค่อนข้าง Challenge มาก ด้วยตัวอาคารที่จะเป็น landmark ในอนาคต แม้จะไม่ใช่อาคารสูง แต่เป็นอาคารที่มีขนาดกว้าง โล่ง และต้องออกแบบโถงกลางให้ปราศจากเสา เพื่อให้สามารถปรับเปลี่ยนการใช้พื้นที่ในตัวอาคารได้หลากหลายรูปแบบ ผนวกกับข้อกำหนดทางกฎหมายที่ห้ามอาคารสูงเกิน 27 เมตรแล้ว ทำให้เราต้องออกแบบให้โครงหลังคาเหล็กนี้มีขนาดที่ไม่ใหญ่มาก แต่สามารถทำช่วงเสาได้กว้างถึง 110 เมตร ด้วยการใช้เหล็กกำลังสูงอย่างเหล็ก SM520" นายวานิช นพนิราพาธ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เบคา (ไทยแลนด์) จำกัด กล่าว
ด้านนายวิวัฒน์ ลิมานนท์ดำรงค์ ผู้จัดการโครงการศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ บริษัท นันทวัน จำกัด หรือ Thai Obayashi กล่าวว่า "หลังจากบริษัทรับแบบการก่อสร้างโครงการมาแล้ว ได้ทำการศึกษาและพบว่าการก่อสร้างด้วยวิธีการแบบปกติจะใช้เวลานานประมาณ 36 เดือน หรือ 3 ปี แต่เจ้าของโครงการต้องการให้เสร็จสมบูรณ์ก่อนเวลาดังกล่าว เนื่องจากมีแผนที่จะเปิดให้บริการทันรองรับการประชุม APEC ในเดือนพฤศจิกายน 2565 นี้ ทำให้ทีมก่อสร้างต้องหาวิธีที่จะทำให้งานเสร็จสมบูรณ์เร็วกว่าการก่อสร้างตามปกติ จึงเลือกใช้การก่อสร้างแบบ Top down ซึ่งเป็นการทำงานฐานราก ควบคู่ไปกับงานโครงสร้างหลังคาด้านบน โดยใช้เทคนิคการสไลด์ Super Truss ซึ่งโครงเหล็ก Super Truss นี้ เราได้ทาง ST Frame ประกอบชิ้นส่วนมาจากโรงงาน และทำ Mock up ความยาว 110 เมตร ความสูง 7 เมตร ความกว้าง 9 เมตร ลักษณะเหมือนสะพานข้ามแม่น้ำแคว 1 ตัว แต่ทั้งหมดที่ใช้ในงานศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ จะเท่ากับมีถึง 22 ตัว ซึ่งค่อนข้างเป็นงานที่ท้าทายในการก่อสร้างโครงหลังคาที่ใหญ่ขนาดนี้"
"สิ่งสำคัญที่ทำให้งานนี้ประสบความสำเร็จด้วยดี คือทีมเวิร์คที่ดีของทุกภาคส่วน โดยเฉพาะกับ SYS ที่สามารถผลิตเหล็กเอชบีมที่มีคุณภาพได้ตามขนาด และความยาวที่ต้องการใช้สำหรับโครงการนี้โดยเฉพาะ "
ด้านนายพงษ์ศักดิ์ แห่ล้อม ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท เหล็กสยามยามาโตะ จำกัด หรือ SYS ผู้ผลิตเหล็กเอชบีม ไวด์แฟลงก์ มานานกว่า 25 ปี กล่าวว่า "ความท้าทายของโครงการก่อสร้างอาคารใหม่ของศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์นี้ คือการพัฒนาเหล็กเอชบีมขนาดใหญ่พิเศษ และเป็นเหล็กกำลังสูง หรือ เกรด SM520 เพื่อใช้เป็นเหล็กโครงสร้างหลังคาของโครงการนี้โดยเฉพาะ อีกทั้ง SYS ยังผลิตเหล็กความยาวพิเศษ หรือเหล็กที่มีความยาวตามที่ลูกค้าต้องการ ซึ่งจะมีทั้งความยาวที่มากกว่าหรือน้อยกว่าความยาวปกติ หากเป็นเหล็กที่สั้นกว่าความยาวของเหล็กปกติทั่วไป ก็จะทำให้ไม่ต้องเสียเศษ เป็นการประหยัดต้นทุนได้มากขึ้น
SYS เป็นบริษัทผู้ผลิตเหล็กในประเทศไทย ดังนั้นการส่งเหล็กเข้าไปยังไซต์งานก่อสร้าง จึงสามารถทำได้ตามตารางเวลา ไม่เกิดความล่าช้า อีกทั้งยังได้ประสานงานอย่างใกล้ชิดตั้งแต่ขั้นตอนการออกแบบ จนถึงการก่อสร้าง จึงทำให้โครงการระดับชาติแห่งนี้ สามารถดำเนินงานได้อย่างราบรื่น และสำเร็จภายในเวลาที่กำหนด
ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ถือเป็นหน้าเป็นตาของประเทศไทย การได้เป็นส่วนหนึ่งของงานระดับชาติครั้งนี้ SYS มีความภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งเหล็กของ SYS นอกจากจะตอบโจทย์เรื่องของขนาดและความยาวพิเศษ รวมถึงความรวดเร็วในการก่อสร้างแล้ว ยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพราะ SYS ใช้เศษเหล็กเป็นวัตถุดิบหลักในการผลิต และเหล็กเอชบีมของ SYS ก็สามารถนำมาใช้ซ้ำ หรือ Recycle ได้อีกด้วย ซึ่งสอดคล้องกับความต้องการของ เฟรเซอร์ส พร็อพเพอรตี้ ที่ต้องการให้อาคารศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์แห่งนี้เป็นอาคารที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม"
สำหรับศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ได้เปิดใช้งานแล้วเมื่อวันที่ 12 กันยายน 2565 ที่ผ่านมา เพื่อรองรับงานประชุมและงานแสดงสินค้าต่างๆ ของประเทศไทย และในเดือนพฤศจิกายน 2565 ศูนย์ประชุมระดับชาติแห่งนี้จะถูกใช้เป็นพื้นที่จัดงานใหญ่ระดับโลกอย่างการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค (APEC 2022) ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพอีกด้วย
รับชม สกู๊ปข่าว "SYS" พระเอกงานโครงสร้างหลังคา "ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์" โฉมใหม่ ในรูปแบบ Video คลิก: https://youtu.be/lU7saQEOtio
ที่มา: อินทิเกรเต็ด คอมมูนิเคชั่น