ดร.ศักดิ์ดา ศิริภัทรโสภณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ท่าฉาง กรีน เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ TGE ผู้นำด้านอุตสาหกรรมพลังงานทดแทนที่เป็นมิตรต่อชุมชนและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยถึงภาพรวมผลการดำเนินงานในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2565 (มกราคม-กันยายน) บริษัทฯ มีรายได้จากการดำเนินงานรวม 696.1 ล้านบาท ปรับเพิ่มขึ้น 23.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้ 562.3 ล้านบาท เป็นผลมาจากรายได้จากการขายไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น หลังโครงการโรงไฟฟ้าชีวมวล TBP จังหวัดสุราษฎร์ธานี สามารถเดินเครื่องผลิตไฟฟ้าได้เต็มกำลังการผลิต รวมถึงได้รับประโยชน์จากการที่ภาครัฐปรับขึ้นค่าไฟฟ้าผันแปร (ค่า FT) ทำให้ราคาขายไฟฟ้าในกลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรมเฉลี่ยเพิ่มสูงขึ้น ขณะเดียวกันบริษัทฯ ยังมีการรับรู้รายได้จากการขายน้ำและไอน้ำของโรงไฟฟ้า TBP ซึ่งปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด
ส่งผลให้บริษัทฯ สามารถทำกำไรสุทธิในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2565 เท่ากับ 156.6 ล้านบาท ปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยคิดเป็นอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 32.6% EBITDA Margin ที่ระดับ 42.3% และมีอัตรากำไรสุทธิที่ระดับ 22.5% ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสามารถของกลุ่มบริษัทฯ ในการรักษาระดับกำไรให้อยู่ในระดับสูงได้อย่างต่อเนื่อง
สำหรับแผนกลยุทธ์การขยายธุรกิจในอนาคต บริษัทฯ ยังคงมุ่งมั่นพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานสะอาดอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดเมื่อเดือนตุลาคม 2565 ที่ผ่านมา กลุ่มบริษัทฯ ได้รับการคัดเลือกให้เป็นผู้ชนะการประมูลโครงการโรงไฟฟ้าขยะชุมชนท่าจีน TES TCN จังหวัดสมุทรสาคร ทำให้ปัจจุบันมีโครงการโรงไฟฟ้าขยะชุมชนที่ได้รับการคัดเลือกจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) เรียบร้อยแล้ว ทั้งหมด 4 โครงการ กำลังการผลิตติดตั้งรวม 31.9 เมกะวัตต์ (MW) ประกอบด้วย โรงไฟฟ้าขยะชุมชน TES SKW จังหวัดสระแก้ว โรงไฟฟ้าขยะชุมชน TES RBR จังหวัดราชบุรี โรงไฟฟ้าขยะชุมชน TES CPN จังหวัดชุมพร ซึ่งเป็นโครงการที่อยู่ระหว่างดำเนินการยื่นคำขอเสนอขายไฟฟ้ากับการไฟฟ้าภูมิภาค (กฟภ.) ก่อนเข้าลงนามในสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) นอกจากนี้ ยังมีโรงไฟฟ้าขยะชุมชน TES TCN จังหวัดสมุทรสาคร ที่อยู่ระหว่างเตรียมทำสัญญาบริหารจัดการโครงการ
ทั้งนี้ TGE ได้เตรียมเข้าประมูลโครงการโรงไฟฟ้าขยะชุมชนกับอปท. เพิ่มเติมอีก 3 โครงการที่อยู่ระหว่างดำเนินการเตรียมยื่นประมูลเร็วๆ นี้ หากได้รับการคัดเลือก คาดว่าจะทำให้กำลังการผลิตไฟฟ้ารวมของกลุ่มบริษัทฯ ในอีก 3 ปีข้างหน้า เติบโตเป็น 90 MW และคาดว่าจะทำให้มีสัดส่วนรายได้จากโรงไฟฟ้าขยะชุมชนเพิ่มเป็น 65% ของรายได้รวม
ที่มา: เอ็มที มัลติมีเดีย