เสริมสร้างความรู้ เพื่อส่งเสริมการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างยั่งยืน

พุธ ๐๗ ธันวาคม ๒๐๒๒ ๑๑:๐๕
การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่เป็นก้าวแรกที่สำคัญในเส้นทางของเด็กที่จะนำไปสู่อนาคตที่แข็งแรง เพราะเป็นรากฐานต่อสุขภาพและสุขภาวะ (well-being) ของเด็กในอนาคต การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่จึงถือว่าเป็นองค์ประกอบที่สำคัญในการสร้างสุขภาพที่ดี มั่งคั่ง และยั่งยืนของโลกใบนี้
เสริมสร้างความรู้ เพื่อส่งเสริมการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างยั่งยืน

"การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่เป็นการลงทุนในสุขภาพ ไม่ใช่เป็นการตัดสินใจตามไลฟ์สไตล์"

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.พรนภา ตั้งสุขสันต์  ประธานศูนย์ส่งเสริมการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่และสุขภาพเด็กปฐมวัย ประธานหลักสูตรการพยาบาลเฉพาะทาง สาขาการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ อาจารย์ประจำวิชาการพยาบาลสูติศาสตร์-นรีเวชวิทยา คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวถึงประโยชน์ของนมแม่  

นมแม่มีประโยชน์ต่อสุขภาพของลูกในหลาย ๆ ด้าน ได้แก่ ช่วยลดอัตราเสี่ยงของการเกิดโรคติดเชื้อของระบบทางเดินหายใจ โรคติดเชื้อของระบบทางเดินอาหาร โรคหอบหืด โรคอ้วน โรคเบาหวานชนิดที่ 1 โรคไหลตาย (Sudden Infant Death Syndrome) โรคลำไส้เน่าในทารกคลอดก่อนกำหนด และกระตุ้นพัฒนาการด้านสติปัญญาหรือไอคิว นอกจากนั้น การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ยังส่งผลประโยชน์ต่อสุขภาพของมารดาควบคู่กันด้วย คือ ช่วยลดอัตราเสี่ยงของการมีความดันโลหิตสูง เบาหวานชนิดของที่ 2 มะเร็งรังไข่ มะเร็งเต้านม เป็นต้น

จากการสำรวจสถานการณ์ของเด็กและสตรีในประเทศไทยปี 2558-2559 โดยองค์การยูนิเซฟประเทศไทยและสำนักงานสถิติแห่งชาติพบว่า อัตราการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ในประเทศไทยทุกตัวชี้วัดมีค่าต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง อัตราการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียวในช่วงอายุ 6 เดือนแรกของทารก ที่มีอัตราเพียงร้อยละ 14 ซึ่งเป็นอัตราที่ลดลงจากการสำรวจในปี 2559 ที่ร้อยละ 23 นอกจากนี้ประเทศไทยยังมีทารกที่ได้ดูดนมแม่ภายในหนึ่งชั่วโมงแรกหลังคลอด เพียงร้อยละ 34 และมีอัตราการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่เมื่ออายุ 2 ปี เพียงร้อยละ 15 ทั้งนี้ เมื่อเทียบกับอัตราเฉลี่ยของโลกพบว่า อัตราการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียวในช่วงอายุ 6 เดือนแรก อัตราที่ทารกดูดนมแม่ภายในหนึ่งชั่วโมงแรกหลังคลอด และอัตราการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่เมื่ออายุ 2 ปี จะมีอยู่ที่ ร้อยละ 44, 48 และ 65 ตามลำดับ

เราพบว่าปัญหาของการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ของคนไทยส่วนใหญ่ อาจเกิดจากหลายปัจจัยด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นปัญหาจากตัวมารดาเอง เช่น มารดามีความรู้ไม่เพียงพอ มารดาต้องออกไปทำงานนอกบ้าน มีปริมาณน้ำนมไม่เพียงพอกับความต้องการของลูก มารดาขาดความมั่นใจในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่หรือมีปัญหาเกี่ยวกับหัวนม ทารกมีภาวะลิ้นติด เป็นต้น ปัญหาจากสภาพเศรษฐกิจ สังคม ด้านนโยบายของประเทศ ก็ส่งผลกระทบต่อการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ของคนไทยเช่นกัน การขาดการพัฒนานโยบาย ยุทธศาสตร์ และโครงการที่ครอบคลุมเพื่อนำไปสู่การดำเนินนโยบายที่สอดคล้องกันของหน่วยงานภาครัฐต่าง ๆ ทั้งนี้ การสนับสนุนการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ต้องการทรัพยากรที่เพียงพอ เพื่อสนับสนุนการดำเนินการหลายภาคส่วนสำหรับการรณรงค์ด้านสุขภาพและสื่อ ในขณะที่บริษัทที่เกี่ยวข้องกับอาหารทดแทนนมแม่นั้นมีค่าใช้จ่ายในการทำการตลาดผลิตภัณฑ์ที่สูงมาก อีกทั้ง การไม่มีมาตรการทางกฎหมายส่งผลให้ไม่ประสบความสำเร็จในการควบคุมการโฆษณาอาหารทดแทนนมแม่ ซึ่งมีผลต่อการสร้างทัศนคติที่ดีต่อนมผสมของมารดาได้ นอกจากนี้ การดำเนินนโยบายโรงพยาบาลสายสัมพันธ์แม่ลูก ที่ให้ความสำคัญกับงานด้านอื่นมากกว่า ล้วนส่งผลต่อการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ของคนไทยทั้งสิ้น

การให้ความรู้ที่ถูกต้องในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ จึงเป็นรากฐานสำคัญในการเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจ ในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่และต่อยอดให้เกิดการพัฒนาที่ยั่งยืนได้ โดยการผลักดันนโยบายควบคู่ไปกับการส่งเสริมการให้ความรู้เรื่องนมแม่ ให้ทารกได้รับน้ำนมแม่เป็นอาหารอย่างเดียวในช่วง 6 เดือนแรกของชีวิต และได้รับน้ำนมแม่เป็นอาหารควบคู่กับอาหารตามวัยต่อเนื่องไปจนถึงอายุ 2 ปี หรือนานกว่านั้น การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ก็จะเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ประเทศไทยบรรลุเป้าหมายของการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals : SDGs) ได้ตามเป้า ดังนี้

เป้าหมาย 1, 8 และ 10 การยุติความยากจน การส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจ และการลดความเหลื่อมล้ำ การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่นั้นเกี่ยวข้องกับการช่วยลดค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลมารดาและทารกมากกว่า 3 พันล้านเหรียญสหรัฐต่อปี เป็นการช่วยเพิ่มรายได้ให้กับเศรษฐกิจโลกทุกปีโดยมีค่าเกือบร้อยละ 0.5 ของรายได้ประชาชาติของโลก

เป้าหมายที่ 2 และ 3 ความหิวโหย สุขภาพ และสุขภาวะ การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่คือ แหล่งโภชนาการที่สำคัญที่สามารถช่วยชีวิตเด็ก ๆ และมีส่วนช่วยในการพัฒนาผลลัพธ์ด้านสุขภาพสำหรับเด็กและมารดา

เป้าหมายที่ 4 การศึกษา มีความสัมพันธ์ระหว่างการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่กับไอคิวที่สูงขึ้นและความสำเร็จทางการศึกษาสามารถนำไปสู่การบรรลุเป้าหมายการเรียนรู้ในระดับโลก

เป้าหมายที่ 5 ความเท่าเทียมกันทางเพศ การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่เกี่ยวข้องกับประเด็นที่สำคัญของความเท่าเทียมกัน ได้แก่ การเว้นช่วงการมีบุตร และสิทธิในที่ทำงาน

เป้าหมายที่ 12 จัดการกับการบริโภคที่ยั่งยืน น้ำนมแม่ไม่ต้องการอุตสาหกรรมเพื่อผลิต จึงสร้างผลกระทบต่อระบบนิเวศวิทยาน้อยที่สุด

ดังนั้น ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องต้องร่วมมือกันในการผลักดัน เสริมสร้างความรู้และฝึกทักษะการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่แก่มารดาและครอบครัวตั้งแต่ในระยะตั้งครรภ์ เพื่อเตรียมพร้อมต่อการจัดการความท้าทายในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ที่อาจเกิดขึ้นในระยะหลังคลอด คอยติดตามและให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่แก่มารดาและครอบครัวอย่างสม่ำเสมอตลอดระยะเวลาให้นมบุตร โดยเฉพาะมารดาทำงานที่ต้องให้นมลูกต่อเนื่องหลังกลับมาทำงาน การให้การสนับสนุนช่วยเหลือให้ได้ตามความคาดหวังที่เป็นจริงของมารดา หรือแม้แต่การสนับสนุนในด้านสังคม เช่น นโยบายสนับสนุนการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ในที่ทำงาน การสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยให้เลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียวได้สำเร็จ เพื่อให้เกิดเป็นรูปธรรมและเกิดการพัฒนาที่ยั่งยืนต่อไป

ที่มา: คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล

เสริมสร้างความรู้ เพื่อส่งเสริมการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างยั่งยืน

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๓๐ เม.ย. COM7 เดินหน้าเต็มสปีด EV7 ส่งมอบแท็กซี่ไฟฟ้าล็อตแรก ดันเมกะเทรนด์ EV สู่หัวใจเมือง
๓๐ เม.ย. GCAP ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ไฟเขียวผ่านฉลุยทุกวาระ พร้อมเดินหน้าแผนธุรกิจขยายสู่กลยุทธ์ Non Lending
๓๐ เม.ย. PYLON จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผู้ถือหุ้นไฟเขียวจ่ายปันผล 0.04 บาท/หุ้น
๓๐ เม.ย. LDC จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2568 มุ่งเป็นคลินิกทันตกรรมพรีเมียม ในราคาที่เข้าถึงง่าย
๓๐ เม.ย. ผู้ถือหุ้น TATG ไฟเขียวจ่ายปันผล 0.07 บาท/หุ้น ลงทุนเครื่องจักรใหม่เสริมแกร่งสายการผลิต พิชิตเป้ารายได้ 3,000
๓๐ เม.ย. ADVICE จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นรูปแบบ Hybrid ประจำปี 2568 ผถห.ไฟเขียวทุกวาระ เคาะแจกปันผล 0.175 บ./หุ้น
๓๐ เม.ย. LE ร่วมงานสถาปนิก'68 โชว์นวัตกรรมแสงสว่างอัจฉริยะ เสริมภาพผู้นำ Lighting Solutions Provider
๓๐ เม.ย. SELIC จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ปี 2568 ผู้ถือหุ้นเห็นชอบทุกวาระ อนุมัติจ่ายปันผล 0.038 บาท/หุ้น เดินหน้า 3 ธุรกิจ
๓๐ เม.ย. STA เปิดบ้านต้อนรับภาครัฐ โชว์มาตรฐานรับซื้อยางโปร่งใส เป็นธรรม หนุนรัฐต้านยางเถื่อน
๓๐ เม.ย. กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน จับมือเอกชน ปั้นช่างเชื่อมโกอินเตอร์ รายได้ทะลุ 70,000 บาทต่อเดือน