THBA ชี้เทรนด์บ้านปีเถาะประหยัดพลังงาน-สุขภาพ มาแรง แนะรับสร้างบ้านพัฒนาผลิตภัณฑ์ตอบโจทย์ให้ตรงจุด

จันทร์ ๑๓ มีนาคม ๒๐๒๓ ๑๑:๒๕
สมาคมไทยรับสร้างบ้าน (THBA) เผยเทรนด์ที่อยู่อาศัย 2023 ผู้บริโภคเปลี่ยนมาตรฐานใหม่ เน้นประหยัดพลังงาน (Energy Saving) สุขภาพ แนะผู้ประกอบการพัฒนาผลิตภัณฑ์ตอบโจทย์ผู้บริโภคในยุคปัจจุบัน

นายนิรัญ โพธิ์ศรี นายกสมาคมไทยรับสร้างบ้าน (Thai Home Builders Association : THBA) เปิดเผยว่า "ธุรกิจรับสร้างบ้านในปี 2566 แม้โดยภาพรวมความต้องการปลูกสร้างบ้านอาจจะลดลง ผู้ประกอบการที่แข่งขันอยู่ในธุรกิจนี้จำเป็นต้องมีการปรับตัวและรู้เท่าทันความต้องการและพฤติกรรมผู้บริโภค สำหรับเทรนด์ที่อยู่อาศัยในปีนี้ สมาคมฯ สำรวจพบว่าผู้บริโภคที่กำลังหาข้อมูลการสร้างบ้านหลังใหม่นั้น มีความสนใจเรื่องการใช้พลังงานภายในบ้านอย่างประหยัดและให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพมากขึ้น โดยเฉพาะเรื่องมลพิษทางอากาศที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพหรือปัญหาฝุ่น PM2.5 ที่เกินค่ามาตรฐานในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ ซึ่งนั่นหมายถึงว่าผู้บริโภคจะให้ความสำคัญเริ่มตั้งแต่การออกแบบบ้านหรือแบบบ้านที่จะปลูกสร้าง การเลือกใช้วัสดุก่อสร้างที่ช่วยประหยัดพลังงานและอุปกรณ์ที่ช่วยดูแลสุขภาพมากขึ้น เช่น โซล่าฮีตเตอร์หรือเครื่องทำน้ำร้อนพลังงานแสงอาทิตย์ ระบบระบายอากาศเสียและเพิ่มอากาศบริสุทธิ์ภายในบ้าน ฯลฯ รวมถึงเรื่องความคุ้มค่าในระยะยาวก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ผู้บริโภคให้ความสำคัญ หลังจากประเทศไทยก้าวเข้าสู่สังคมสูงวัย แบบบ้านและวัสดุอุปกรณ์ที่เลือกใช้ต้องตอบโจทย์ผู้บริโภคได้ทุกช่วงวัยโดยเฉพาะผู้สูงอายุ เพื่อสามารถใช้ชีวิตได้อย่างสะดวกและปลอดภัยยิ่งขึ้น"

อย่างไรก็ตาม นอกจากเทรนด์การสร้างบ้านที่เปลี่ยนไปแล้ว รูปแบบหรือสไตล์บ้านในปี 2566 ก็มีแนวโน้มเปลี่ยนไปด้วยเช่นกันทั้งเรื่องของดีไซน์และฟังก์ชัน โดยข้อมูลสำรวจพบว่าแบบบ้านที่รูปลักษณ์โมเดิร์นทันสมัย ดูหรูหรา และคุ้มค่าจะมาแรงหรือตอบโจทย์ความต้องการของคนยุคใหม่ อย่างเช่น แบบบ้านสไตล์ Downtown สำหรับปลูกสร้างที่ดินในเมืองที่มีข้อจำกัด โดยผู้บริโภคต้องการเน้นให้มีพื้นที่สีเขียวภายในอาคาร เพื่อทำให้รู้สึกใกล้ชิดธรรมชาติมากขึ้น รวมทั้งสามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชันให้เป็นได้ทั้งที่อยู่อาศัยและสำนักงานหรือสตูดิโอ สำหรับอีกหนึ่งสไตล์แบบบ้านที่คนไทยคุ้นเคยกันเป็นอย่างดีหรือแบบบ้านไทยประยุกต์ ซึ่งมีกลุ่มผู้บริโภคที่ต้องการปลูกสร้างบ้านไว้นอกเมือง หรือปลูกสร้างเป็นบ้านหลังที่สองในต่างจังหวัดหรือเมืองท่องเที่ยว อาทิเช่น พื้นที่เขาใหญ่อำเภอปากช่อง หัวหิน พัทยา เชียงใหม่ ภูเก็ต เป็นต้น

ฉะนั้นหากผู้ประกอบการสามารถตอบโจทย์ผู้บริโภคได้ทันกับพฤติกรรมที่เปลี่ยนไป และเทรนด์ที่อยู่อาศัยในปัจจุบันก็เท่ากับเพิ่มโอกาสให้ตัวเองในการที่ผู้บริโภคจะใช้บริการสร้างบ้านด้วยมากขึ้น รวมถึงมีจุดขายที่ชัดเจนโดยไม่จำเป็นต้องแข่งขันในรูปแบบเดิม ๆ ที่เน้นแข่งราคาเท่านั้น นายนิรัญ กล่าวสรุป

ที่มา: พีดี เฮ้าส์ อินเตอร์เนชั่นแนล

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๔ ยันม่าร์ ประกาศอย่างเป็นทางการในการสนับสนุนสมาคมฟุตบอลอาเซียน
๑๗:๑๔ รู้ใจชวนทำความรู้จักเทเลเมติกส์ เทคโนโลยีลดอุบัติเหตุ ขับเคลื่อนท้องถนนปลอดภัย
๑๗:๐๙ The Food School Bangkok ผนึก 2 พันธมิตรยักษ์ใหญ่ มอบทุนกว่า 1.5 ล้านบาท เปิดตัว Future Chef of the World 2025
๑๗:๓๔ โรงพยาบาลหัวเฉียว จัดโครงการธรรมโอสถ บรรยายธรรมะเรื่อง ทำงานอย่างไรให้มีความสุข
๑๗:๑๗ JGAB 2025 เปิดเวที The Next Gem Awards 2025 เฟ้นหาดีไซน์เนอร์เครื่องประดับรุ่นใหม่
๑๖:๐๙ ผถห. LEO ไฟเขียวปันผล 0.14 บาท/หุ้น รับทรัพย์ 14 พ.ค.นี้ เดินหน้ายุทธศาสตร์ LEO Go Green - รุกขยายธุรกิจใหม่ ดันกำไรขั้นต้นโตต่อเนื่อง
๑๖:๕๗ เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ เปิดตัวโซลูชันคลังสินค้าและโลจิสติกส์อัจฉริยะ ยกระดับการผลิตแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์ (PCB)
๑๖:๔๖ กระทรวง อว. โดย สวทช. - กรมควบคุมโรค กระทรวง สธ. ผนึกกำลังใช้ระบบ DDC-Care Platform เทคโนโลยีรับมือโรคระบาดข้ามพรมแดน
๑๖:๕๙ สจล. ร่วมมือมูลนิธิปัญพัฒน์เพื่อคนพิการ ขับเคลื่อนโครงการส่งเสริมอาชีพครอบครัวคนพิการอย่างยั่งยืน
๑๖:๓๕ KOAN ในเครือ CPW บุกตลาด Smart Home เปิดตัวนวัตกรรมบ้านอัจฉริยะในงานสถาปนิก'68 ภายใต้แนวคิด Touch And