"โฮมโปร" โชว์ผลประกอบการ Q1/2566 รายได้รวม 18,251.87 ล้าน โกยกำไรสุทธิ 1,611.12 ล้าน จากปัจจัยท่องเที่ยวฟื้นและช้อปดีมีคืน

ศุกร์ ๒๘ เมษายน ๒๕๖๖ ๑๐:๔๔
บมจ. โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ หรือ HMPRO ประกาศผลประกอบการไตรมาส 1 ปี 2566 มีรายได้รวม 18,251.87 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.47% และกำไรสุทธิ 1,611.12 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.63% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน จากปัจจัยบวกของการฟื้นตัวภาคการท่องเที่ยว และมาตรการกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอย ช้อปดีมีคืน พร้อมเสริมแรงส่งจากการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายต่อเนื่อง ทั้งงาน HomePro Expo 2023 กิจกรรม Double Day และกิจกรรมอื่น ๆ ผ่านสาขาและออนไลน์
โฮมโปร โชว์ผลประกอบการ Q1/2566 รายได้รวม 18,251.87 ล้าน โกยกำไรสุทธิ 1,611.12 ล้าน จากปัจจัยท่องเที่ยวฟื้นและช้อปดีมีคืน

นายวีรพันธ์ อังสุมาลี กรรมการผู้จัดการบริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ HMPRO เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานงวด 3 เดือนของบริษัทฯ และบริษัทย่อย ประจำปี 2566 ว่าบริษัทฯ มีผลกำไรสุทธิสำหรับไตรมาสที่ 1 เท่ากับ 1,611.12 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 100.18 ล้านบาท หรือ 6.63% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน และมีรายได้รวมจำนวน 18,251.87 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,579.35 ล้านบาท หรือ 9.47% โดยมีปัจจัยหลักมาจากรายได้จากการทำสัญญากับลูกค้า ซึ่งประกอบด้วยรายได้จากการขายสินค้าและรายได้จากการบริการลูกค้า (Home Service) รวมจำนวน 17,223.47 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,462.53 ล้านบาท หรือ 9.28% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน

ซึ่งการเพิ่มขึ้นดังกล่าวในไตรมาสที่ 1 เป็นผลจากภาพรวมของเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัว โดยปัจจัยหลักมาจากการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว ส่งผลให้การบริโภคสินค้ากลุ่มปรับปรุงซ่อมแซมในภูมิภาคที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจท่องเที่ยวมีอัตราการเติบโตสูงกว่าภูมิภาคอื่นเป็นอย่างมาก ประกอบกับภาครัฐมีการออกมาตรการกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยของประชาชน ได้แก่ มาตรการช้อปดีมีคืน ทำให้การบริโภคในประเทศของภาคเอกชนมีการปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยบวกที่ส่งผลให้ภาพรวมยอดขายของบริษัทฯ เติบโตสูงขึ้นทั้งในส่วนของสาขาและออนไลน์

โดยในส่วนของกำไรขั้นต้นจากการขายสินค้าและการบริการลูกค้า (Home Service) รวมมีจำนวน 4,492.46 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 395.81 ล้านบาท หรือ 9.66% เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยอัตรากำไรขั้นต้นต่อยอดขาย เพิ่มขึ้นจาก 25.99% ในปีก่อน มาอยู่ที่ 26.08% ซึ่งเป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงส่วนผสมของกลุ่มสินค้าที่มีอัตรากำไรสูง

อย่างไรก็ตามในช่วงไตรมาส 1 ที่ผ่านมานี้ บริษัทฯ ได้มีการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายอย่างต่อเนื่อง โดยมีการจัดงาน HomePro Expo 2023 และกิจกรรม Double Day รวมถึงกิจกรรมส่งเสริมการขายอื่น ๆ ผ่านทางสาขาและช่องทางออนไลน์ จึงมีการให้ส่วนลดแก่ลูกค้าเพิ่มขึ้น รวมถึงบริษัทฯ ยังมีรายได้จากการบริการเพิ่มขึ้น ซึ่งมีอัตรากำไรขั้นต้นที่ต่ำกว่ารายได้จากการขายสินค้า จึงทำให้อัตรากำไรขั้นต้นโดยรวมเติบโตขึ้นเล็กน้อยที่ระดับ 0.09%

ทั้งนี้ บริษัทฯ ยังมีรายได้จากค่าเช่า จำนวน 476.99 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 66.08 ล้านบาท หรือ 16.08% จากปีก่อน เป็นผลมาจากการจัดเก็บรายได้ค่าเช่าพื้นที่เช่าในสาขาของโฮมโปรและศูนย์การค้ามาร์เก็ตวิลเลจได้มากขึ้น โดยเฉพาะในพื้นที่ท่องเที่ยว ได้แก่ พื้นที่ภาคใต้ เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน อีกทั้งสำหรับการขยายสาขาในไตรมาสที่ 1 ยังคงดำเนินการตามแผนที่กำหนดไว้ โดยได้มีการเปิดสาขาเมกาโฮมใหม่จำนวน 3 สาขา ได้แก่ รัตนาธิเบศร์ บางพลี และติวานนท์ ทำให้ ณ สิ้นไตรมาสที่ 1 ของปี 2566 บริษัทฯ มีโฮมโปร 87 สาขา โฮมโปรเอส 5 สาขา เมกาโฮม 21 สาขา และโฮมโปรที่ประเทศมาเลเซีย 7 สาขา

"อย่างไรก็ตามในช่วงไตรมาส 1 ปี 2566 นี้ บริษัทฯ ยังคงเผชิญแรงกดดันเรื่องค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่เพิ่มสูงขึ้น อาทิ ค่าไฟฟ้าและสาธารณูปโภค ค่าใช้จ่ายในการเปิดสาขาใหม่ ค่าซ่อมแซม ค่าใช้จ่ายทางการตลาดและการส่งเสริมการขาย และความผันผวนของตลาดการเงิน ซึ่งส่งผลต่ออัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มสูงขึ้นเช่นเดียวกัน แต่ปัจจัยเหล่านี้ก็ได้ผลักดันให้บริษัทฯ มีการควบคุมดูแล วางแผนธุรกิจและกลยุทธ์ที่รัดกุมในด้านต่าง ๆ เพื่อลดค่าใช้จ่ายที่ปรับตัวสูงขึ้น อาทิ มีการติดตั้งหลังคา Solar Rooftop ที่สาขาเพิ่มเติม เป็นต้น" นายวีรพันธ์ กล่าวเสริมทิ้งท้าย

ที่มา: โฟร์ฮันเดรท

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๒ ก.ย. หงษ์ลี่ ออโต้ พาร์ท (ไทยแลนด์) ลงนามสัญญาซื้อขายที่ดินในนิคมฯ ดับบลิวเอชเอ อีสเทิร์นซีบอร์ด 1
๒๒ ก.ย. ผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมการเงินเตรียมร่วมงานฟินเทค ฟอร์เวิร์ด ประจำปี 2566 ที่บาห์เรน
๒๒ ก.ย. หัวเว่ยเร่งการปฏิรูปอุตสาหกรรมสู่ระบบอัจฉริยะด้วยเครือข่ายซิงเหอ
๒๒ ก.ย. ไทวัสดุเพิ่มแผนขนส่งสินค้าด้วยรถอีวีทรัค กระจายสู่ 60 สโตร์ปี 66 เจ้าแรกในไทยที่ใช้ระบบพ่วงแม่ลูก พร้อมเดินหน้าสู่เน็ตซีโร่ -
๒๒ ก.ย. 'โอสถสภา' ประกาศภารกิจมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน รวมพลังรักษ์โลกจากทุกภาคส่วน เปิดเวทีเสวนาต่อยอดความร่วมมือ
๒๒ ก.ย. DBSV จัดสัมมนา ปรับกลยุทธ์ จับเทรนด์ลงทุน หุ้นไทย-เทศ พร้อมเปิดตัว DBSV mTrading Thailand
๒๒ ก.ย. วิศวะมหิดล ผนึกความร่วมมือกับ โรงเรียนอัสสัมชัญธนบุรี พัฒนาเยาวชน การศึกษา และการวิจัย
๒๒ ก.ย. คณะ ITD มจพ. นำนักศึกษาไทยและต่างชาติศึกษาดูงาน ณ รัฐสภา
๒๒ ก.ย. แอสเซทไวส์ ผนึก บุญถาวรไลฟ์สไตล์เฟอร์นิเจอร์ มอบสิทธิพิเศษเหนือระดับให้กับลูกบ้าน AssetWise Club เติมเต็มความสุขในการอยู่อาศัย
๒๒ ก.ย. รมว.พิพัฒน์ มอบกรมพัฒน์ จัดทีมช่างช่วยเหลือประชาชน จ.เพชรบูรณ์ ซ่อมพาหนะบรรเทาทุกข์หลังน้ำป่าไหลหลาก