นางสาวเนตรนรินทร์ จันทร์จรัสสุข ผู้อำนวยการอาวุโส กลุ่มผลิตภัณฑ์คอนซูมเมอร์อิมเมจจิ้งอินฟอร์เมชั่น บริษัท แคนนอน มาร์เก็ตติ้ง (ไทยแลนด์) จำกัด กล่าวว่า "หลังผ่านพ้นวิกฤติโควิด-19 เราพบว่าหลายประเทศในเอเชีย รวมถึงไทยเริ่มมีการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจขึ้นอย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นการกลับมาของโครงการก่อสร้าง อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว การจัดแสดงสินค้า หรือแม้แต่ธุรกิจค้าปลีกต่าง ๆ ส่งผลให้ตลาดพรินเตอร์มีการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นกัน โดยเฉพาะในกลุ่มเครื่องพิมพ์หน้ากว้างที่ต้องรองรับงานพิมพ์บนสื่อขนาดใหญ่แบบ CAD, Graphic Art ไปจนถึงเอกสาร แผนที่ โปสเตอร์โฆษณา หรือแบนเนอร์ขนาดใหญ่ โดยงานในกลุ่มนี้มีแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่องทั้งงานในระดับ Office Use และ Home Use ซึ่งเห็นได้จากยอดขายเครื่องพิมพ์ในกลุ่ม Entry Level ที่มีสัดส่วนเพิ่มสูงขึ้นในทุกประเทศ โดยตลาดเมืองไทยในปัจจุบัน พบว่ามีสัดส่วนสูงถึง 36% ของเครื่องที่จำหน่ายในตลาด"
แคนนอน ตอบรับดีมานด์งานพิมพ์ขนาดใหญ่และเปิดตัวเครื่องพิมพ์หน้ากว้างรุ่น imagePROGRAF TC-20 และ TC-20M ในช่วงต้นปีที่ผ่านมาเพื่อรองรับงานพิมพ์ขนาด A1 Plus ซึ่งก็ได้กระแสตอบรับจากกลุ่มลูกค้าทั้งรายย่อยและลูกค้าองค์กรในเอเชียอย่างล้นหลาม และช่วยดันยอดขายกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องพิมพ์หน้ากว้างของแคนนอนได้อย่างมีนัยสำคัญจนสามารถครองส่วนแบ่งตลาดรวมเครื่องพิมพ์หน้ากว้าง (Large Format Printer) ทั้งกลุ่ม Graphic Art , CAD และ Poster ในไทยได้ถึง 38.11% ซึ่งสูงเป็นอันดับ 1 ในตลาดในช่วงครึ่งแรกของปี 2566 อ้างอิงข้อมูลจาก International Data Corporation (IDC) บริษัทวิจัยตลาดระดับโลกซึ่งสำนักงานใหญ่ในสหรัฐอเมริกา โดยทาง IDC ได้ประกาศการจัดอันดับนี้เมื่อวันที่ 15 สิงหาคมที่ผ่านมา
imagePROGRAF TC-20 Series เป็นเดสก์ท็อปพรินเตอร์ 4 สีหน้ากว้างจากแคนนอน รองรับงานพิมพ์ขนาดใหญ่สุดถึงขนาด A1 Plus เป็นเครื่องพิมพ์แบบป้อนด้านหน้า ทำให้สามารถทำงานกับสื่อได้อย่างสะดวกสบาย ทั้งการโหลดกระดาษ การเติมหมึก และการเปลี่ยนชุดฟองน้ำซับหมึก ก็สามารถทำได้อย่างสะดวกรวดเร็ว พร้อมจุดเด่นคือขนาดที่กระทัดรัด สามารถจัดวางได้อย่างลงตัวแม้ในบ้านพักอาศัยหรือบริษัทขนาดเล็ก ตอบโจทย์งานธุรกิจทุกระดับได้อย่างมีประสิทธิภาพและคุ้มค่าสูงสุด นอกจากนี้ยังมีรุ่น TC-20M รองรับการทำงานได้หลากหลายแบบ All-in-One ที่สามารถถ่ายสำเนาเอกสาร สแกน และพิมพ์ขยายงานได้ในตัว
"จากการวิเคราะห์ตลาดที่แม่นยำและการกำหนดกลยุทธ์ผลิตภัณฑ์ของแคนนอน ที่หันมารุกตลาดพรินเตอร์ในกลุ่ม Entry Level มากขึ้นในช่วงต้นปีที่ผ่านมา ทำให้แคนนอนสามารถครองส่วนแบ่งตลาดสูงกว่าแบรนด์คู่แข่ง ซึ่งนอกจากจะสูงเป็นอันดับ 1 ในเมืองไทย แล้วยังประสบความสำเร็จทั้งในฟิลิปปินส์และสิงคโปร์ด้วยเช่นกัน จากนี้ แคนนอนจะยังคงมุ่งมั่นพัฒนาและนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานทุกกลุ่มและครอบคลุมงานพิมพ์สื่อทุกประเภทต่อไป" เนตรนรินทร์ กล่าวปิดท้าย
ผู้ที่สนใจสามารถศึกษารายละเอียดเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์เพิ่มเติมได้ที่
https://th.canon/th/consumer
http://life.th.canon/imageprograf
หรือสอบถามผ่าน Canon Call Center 0-2344-9988
ที่มา: วิวาลดี้ อินทิเกรเต็ด พับลิค รีเลชั่นส์