WHAUP ตอกย้ำเดินหน้าสยายปีกลงทุนพลังงานหมุนเวียน หนุนพอร์ตผลิตไฟฟ้าปี67 แตะ 1,000 MW

พฤหัส ๐๗ มีนาคม ๒๕๖๗ ๑๖:๑๕
บมจ.ดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ (WHAUP) เร่งเดินหน้าสยายปีก แผนต่อยอดการลงทุนปี 2567 เล็งนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาสร้างสรรค์ธุรกิจใหม่ๆ สร้างโอกาสการเติบโตอย่างยั่งยืน ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ สร้างโอกาสการเติบโตอย่างยั่งยืน พร้อมขับเคลื่อนการลงทุนในธุรกิจพลังงานหมุนเวียน หนุนพอร์ตการผลิตไฟฟ้าแตะ 1,000 เมกะวัตต์ ประกาศอัดงบลงทุน 5 ปี 21,200 ล้านบาท ตั้งเป้ารายได้และส่วนแบ่งกำไรปกติรวม 5 ปี (2567-2571) ที่ 30,000 ล้านบาท หนุน EBITDA Margin ให้อยู่ในระดับไม่น้อยกว่า 50%
WHAUP ตอกย้ำเดินหน้าสยายปีกลงทุนพลังงานหมุนเวียน หนุนพอร์ตผลิตไฟฟ้าปี67 แตะ 1,000 MW

นายสมเกียรติ เมสันธสุวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ (WHAUP) เปิดเผยถึงแผนกลยุทธ์ธุรกิจในปี 2567 ว่า บริษัทฯ เดินหน้าขับเคลื่อนธุรกิจการลงทุนผ่านนวัตกรรมใหม่ๆ สู่การเติบโตอย่างยั่งยืนจากการต่อยอดธุรกิจทั้งภายในและภายนอกนิคมอุตสาหกรรมของดับบลิวเอชเอ กรุ๊ป ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ รวมทั้งแผนศึกษาความเป็นไปได้ในการลงทุนในธุรกิจ New S-Curve เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต โดย WHAUP ตั้งเป้ารายได้ และส่วนแบ่งกำไรปกติรวม 5 ปี (2567-2571) ที่ 30,000 ล้านบาท พร้อมทั้งตั้งงบลงทุนภายใน 5 ปี ข้างหน้าไว้ที่ 21,200 ล้านบาท และยังคงรักษาอัตรากำไร EBITDA margin ที่ระดับไม่น้อยกว่า 50% ผ่านแผนยุทธศาสตร์ทางธุรกิจ ธุรกิจสาธารณูปโภค (น้ำ) และธุรกิจพลังงานไฟฟ้า

สำหรับแผนการมุ่งเน้นการต่อยอดธุรกิจพลังงานไฟฟ้า บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าขยายการลงทุนด้านพลังงาน โดยเฉพาะพลังงานหมุนเวียน โดยได้ตั้งเป้าในการเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าสะสมที่ลงนามสัญญาแล้วจากโรงไฟฟ้าทุกประเภทเป็น 1,000 เมกะวัตต์ คิดเป็นอัตราการเติบโตกว่า 17% จากปีก่อน ซึ่งจะประกอบไปด้วยโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนจำนวน 453 เมกะวัตต์ โดยเป็นพลังงานแสงอาทิตย์ Private PPA จำนวน 283 เมกะวัตต์

นอกจากนี้ บริษัทฯ วางแผนและทิศทางการดำเนินธุรกิจเพื่อเดินเกมรุกในการพัฒนานวัตกรรม และโซลูชันพลังงาน ภายในและภายนอกนิคมอุตสาหกรรมของดับบลิวเอชเอ ทั้งในประเทศและต่างประเทศอาทิ สถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า แพลตฟอร์มการซื้อขายพลังงานไฟฟ้า (Peer-to-Peer Energy Trading) และการซื้อขายใบรับรองเครดิตการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน (I-REC) รวมทั้งศึกษาความเป็นไปได้ในการลงทุนในธุรกิจ New S-Curve เช่น ระบบกักเก็บพลังงานด้วยแบตเตอรี่ (Battery Energy Storage System: BESS) รวมทั้งการทำดีล M&A ซึ่งคาดว่าจะมีความชัดเจนภายในปีนี้

ธุรกิจสาธารณูปโภค (น้ำ) บริษัทฯ มุ่งเน้นการขยายการให้บริการและเพิ่มผลิตภัณฑ์และโซลูชันมากขึ้น โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์น้ำมูลค่าเพิ่ม โดยตั้งเป้ายอดการจำหน่ายและบริหารจัดการน้ำทั้งหมดที่ จำนวน 178 ล้านลูกบาศก์เมตร แบ่งเป็นยอดการจำหน่ายและบริหารจัดการน้ำภายในประเทศจำนวน 142 ล้านลูกบาศก์เมตร และในประเทศเวียดนามจำนวน 36 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นอัตราการเติบโตกว่า 14%

พร้อมทั้งยังเดินหน้าพัฒนา Smart Water Platform ด้วยการนำ Artificial Intelligence (AI) เข้ามาประยุกต์ใช้ และมองหาโอกาสขยายธุรกิจใหม่ๆ อาทิเช่น โซลูชันด้านสิ่งแวดล้อมต่างๆ เป็นต้นนอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีโครงการโรงผลิตน้ำและโรงบำบัดน้ำเสียต่างๆ ที่จะเริ่มทยอยเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ (COD) เพิ่มเติมในปีนี้ อาทิ โครงการในนิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ อินดัสเตรียล เอสเตท ระยอง (WHA IER) ซึ่งคาดว่าจะมีกำหนดการเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ (COD) ในช่วงไตรมาส 2/2567 และโครงการส่วนขยายในนิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ ระยอง 36 (WHA Rayong 36) ซึ่งคาดว่าจะสามารถเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ (COD) ได้ในช่วงไตรมาส 4/2567 โดยโครงการดังกล่าวมีกำลังการผลิตรวมกว่า 8.8 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังคงมองหาแหล่งน้ำดิบทดแทน เพื่อเพิ่มความมั่นคงด้านการจัดหาน้ำ และรองรับการใช้น้ำที่เพิ่มขึ้นตามปริมาณความต้องการใช้น้ำของลูกค้าในนิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ

อย่างไรก็ตาม สำหรับผลการดำเนินงานงวดปี 2566 WHAUP รับรู้รายได้และส่วนแบ่งกำไรปกติ จำนวน 4,228 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 52% และมีกำไรปกติ (Normalized Net Profit) จำนวน 1,587 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 254% ขณะที่กำไรสุทธิซึ่งรวมผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยน จำนวน 1,631 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 259% เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยการเพิ่มขึ้นของกำไรปกติมีปัจจัยหลักมาจากส่วนแบ่งกำไรปกติจากธุรกิจไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น ทั้งจากในส่วนของธุรกิจไฟฟ้า SPP ที่ค่า Ft ได้ปรับขึ้นเพื่อสะท้อนต้นทุนก๊าซธรรมชาติ และโรงไฟฟ้าถ่านหิน Gheco-One ที่รับรู้ค่าความพร้อมจ่ายเพิ่มขึ้น

นอกจากนี้ คณะกรรมการบริษัทฯ มีมติให้เสนอที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้น เพื่ออนุมัติจ่ายเงินปันผลประจำปี 2566 ในอัตรารวม 0.2525 บาทต่อหุ้น ซึ่งเมื่อหักการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลในอัตรา 0.060 บาทต่อหุ้นที่บริษัทฯ ได้จ่ายไปแล้ว คงเหลือเป็นเงินปันผลที่จะจ่ายเพิ่มเติมอีกในอัตรา 0.1925 บาทต่อหุ้น โดยจะขึ้นเครื่องหมาย XD ในวันที่ 25 เมษายน 2567 และกำหนดการจ่ายเงินปันผล ในวันที่ 15 พฤษภาคม 2567 ตามลำดับ ซึ่งเป็นการสะท้อนศักยภาพความแข็งแกร่งของฐานะทางการเงินที่มั่นคงและการมีกระแสเงินสดจากการดำเนินงานที่สม่ำเสมอของบริษัทฯ

ที่มา: มีเดีย แพลนเนอร์ คอนซัลแทนท์

WHAUP ตอกย้ำเดินหน้าสยายปีกลงทุนพลังงานหมุนเวียน หนุนพอร์ตผลิตไฟฟ้าปี67 แตะ 1,000 MW

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๐:๕๙ อแมนด้า ชาร์ลีน ออบดัม VICHY LIFTACTIV BRAND PARTNER ตัวแทนประเทศไทย ร่วมงาน 'V.I.C VICHY INTEGRATIVE CENTER' อีเว้นท์สุดยิ่งใหญ่ในรอบ 5 ปี ของแบรนด์ VICHY (วิชี่) อวดลุคเซ็กซี่สุดฮอต สวย ปัง
๒๖ เม.ย. ไทยพีบีเอสผนึกกำลัง สสส. ผลิต และเผยแพร่เนื้อหาส่งเสริมสุขภาวะเด็ก เยาวชน และครอบครัว
๒๖ เม.ย. NPS ร่วมสืบสานประเพณีสงกรานต์ชุมชนในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้า ประจำปี 2567
๒๖ เม.ย. แพทย์แผนไทย มทร.ธัญบุรี แนะฤดูร้อนควรทานพืชผักที่มีฤทธิ์เย็นช่วยลดความร้อนในร่างกาย
๒๖ เม.ย. แพรนด้า จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2566
๒๖ เม.ย. RBRU Herb Shot ขยายศักยภาพทางธุรกิจ รุกตลาดอินเดีย
๒๖ เม.ย. ไฮเออร์ ประเทศไทย เดินเกมรุกไตรมาส 2 เปิดตัวตู้เย็นรุ่นใหม่ Multi-door HRF-MD679 ตั้งเป้าปี 67 ดันยอดขายตู้เย็นโต
๒๖ เม.ย. เอ็น.ซี.ซี.ฯ ประกาศจัดงาน PET EXPO THAILAND 2024 ระดมสินค้า บริการ ลดหนักจัดเต็ม รับกระแส Petsumer ดันตลาดสัตว์เลี้ยงโตแรง
๒๖ เม.ย. ธอส. ขานรับนโยบายรัฐบาล ลดอัตราดอกเบี้ย MRR 0.25% ต่อปี พร้อมส่งเสริมวินัยการออม ด้วย เงินฝากออมทรัพย์เก็บออม ดอกเบี้ยสูงถึง 1.95%
๒๖ เม.ย. ManageEngine ลดความซับซ้อน ช่วยองค์กรจัดการต้นทุนบนคลาวด์ทั่วมัลติคลาวด์ได้ง่ายขึ้น พร้อมรองรับแพลตฟอร์ม Google Cloud