KTAM แนะลงทุนกองทุนตราสารหนี้ระยะสั้น เพิ่มทางเลือกการลงทุนจากความไม่แน่นอนของนโยบายการเงิน

พฤหัส ๒๐ มิถุนายน ๒๐๒๔ ๑๔:๐๐
นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ถึงแม้ในปัจจุบันธนาคารแห่งประเทศไทยยังส่งสัญญาณการคงดอกเบี้ยไว้ที่ 2.5% ตลอดทั้งปี 2567 แต่ก็ยังคงมีโอกาสปรับใช้นโยบายดอกเบี้ยในทิศทางที่ผ่อนคลายมากขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปีหากเศรษฐกิจไม่เป็นอย่างที่คาด หรือส่วนต่างดอกเบี้ยระหว่างประเทศปรับตัวกว้างขึ้นจนส่งผลกับค่าเงิน ซึ่งปัจจัยดังกล่าวจะทำให้การลงทุนในตราสารหนี้กลับมามีความน่าสนใจจากระดับดอกเบี้ย (Running Yield) ที่เพิ่มสูงขึ้นมากในรอบหลายปี และมีโอกาสจะทำกำไรจากส่วนต่างราคาหากดอกเบี้ยเข้าสู่วงจรขาลงอย่างแท้จริง อย่างไรก็ตาม ตลาดก็ยังคงเผชิญกับความผันผวนเป็นช่วงๆ จากปัจจัยความไม่แน่นอนของนโยบายการเงินของสหรัฐฯ ความเสี่ยงด้านเครดิตที่เพิ่มขึ้นตามภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอลง และ Event Risk ที่อาจเกิดขึ้น เช่น ความขัดแย้งระหว่างประเทศ และการเปลี่ยนแปลงจากการเลือกตั้งในหลายประเทศ เป็นต้น
KTAM แนะลงทุนกองทุนตราสารหนี้ระยะสั้น เพิ่มทางเลือกการลงทุนจากความไม่แน่นอนของนโยบายการเงิน

สำหรับกองทุนตราสารหนี้ระยะสั้น เหมาะกับนักลงทุนที่ต้องการลดความเสี่ยงจากการลงทุนในสินทรัพย์ประเภทอื่นๆ และมีเป้าหมายในการลงทุนระยะเวลาไม่เกิน 1 ปี โดยคาดหวังผลตอบแทนที่สูงกว่าเงินฝากธนาคาร และมีความเสี่ยงที่ต่ำกว่าหลักทรัพย์ทางการเงินอื่น ๆ โดยกองทุนตราสารหนี้ระยะสั้นจะเน้นลงทุนสินทรัพย์ที่มีสภาพคล่องสูงและให้ผลตอบแทนที่มีความผันผวนต่ำ อาทิเช่น ตราสารหนี้ของรัฐบาล เงินฝาก/ตราสารหนี้ของธนาคารพาณิชย์หรือบริษัทเอกชนที่มีคุณภาพสูง เป็นต้น ดังนั้นนักลงทุนที่ไม่สามารถรับความผันผวนของกองทุนตราสารหนี้ทั่วไปได้ อาจพิจารณาลงทุนในกองทุนตราสารหนี้ระยะสั้นเพื่อเป็นทางเลือกในการลงทุนที่น่าสนใจ โดยแนะนำ 3 กองทุน ประกอบด้วย

กองทุนเปิดกรุงไทย ธนทรัพย์ พลัส (KTPLUS) (ความเสี่ยงระดับ 4) เน้นลงทุนในตราสารหนี้ เงินฝาก หรือตราสารหนี้ที่มีคุณภาพและให้ผลตอบแทนที่เหมาะสมกับความเสี่ยงทั้งในและต่างประเทศ ทั้งนี้อาจพิจารณาลงทุนในต่างประเทศได้ไม่เกินร้อยละ 50 ของ NAV เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลงทุนระยะสั้นตั้งแต่ 1 เดือนขึ้นไป เพื่อโอกาสรับผลตอบแทนที่สูงกว่าเงินฝากและกองทุนตลาดเงิน

กองทุนเปิดกรุงไทยตราสารหนี้ระยะสั้นพลัส (KTSTPLUS) (ความเสี่ยงระดับ 4) เน้นลงทุนในตราสารหนี้ เงินฝากหรือตราสารเทียบเท่าเงินฝาก และ/หรือตราสารทางการเงินซึ่งมีอันดับความน่าเชื่อถือในระดับที่สามารถลงทุนได้ (Investment Grade) โดยเฉลี่ยอายุตราสารไม่เกิน 1 ปี ทั้งนี้อาจพิจารณาลงทุนในต่างประเทศได้ไม่เกินร้อยละ 50 ของ NAV โดยกองทุนมุ่งเน้นลงทุนเพื่อให้ได้ผลตอบแทนที่มากกว่าเงินฝากในระยะ 3 เดือน - 1 ปี ดังนั้นกองทุนนี้จึงเหมาะกับผู้ที่ต้องการลงทุนตั้งแต่ 3 เดือนขึ้นไป และกองทุนเปิดกรุงไทยตราสารหนี้ระยะสั้น (KT-ST) (ความเสี่ยงระดับ 4) เน้นลงทุนในตราสารหนี้ เงินฝาก หรือตราสารอื่นๆ ที่มีคุณภาพ โดยเฉลี่ยอายุไม่เกิน 1 ปี ทั้งนี้อาจพิจารณาลงทุนในต่างประเทศได้ไม่เกินร้อยละ 40 ของ NAV

ผู้ที่สนใจสามารถสอบถามข้อมูลและขอรับหนังสือชี้ชวนได้ทุกวันทำการได้ที่ บลจ.กรุงไทย โทร. 0-2686-6100 กด 9 หรือธนาคารกรุงไทยและผู้สนับสนุนการขายหรือรับซื้อคืนหน่วยลงทุน (ถ้ามี) หรือศึกษารายละเอียดได้ที่ www.ktam.co.th สนใจเปิดบัญชีผ่านแอปพลิเคชั่น KTAM Smart Trade ได้ที่ https://bit.ly/KTSTSignIn

ปัจจัยความเสี่ยงของกองทุนที่สำคัญ : ความเสี่ยงทางตลาด ความเสี่ยงจากการขาดสภาพคล่องของหลักทรัพย์ ความเสี่ยงจากความสามารถในการชำระหนี้ของผู้ออกตราสาร ความเสี่ยงจากการดำเนินงานของผู้ออกตราสาร ความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน ความเสี่ยงของประเทศที่ลงทุน ความเสี่ยงจากข้อจำกัดการนำเงินลงทุนกลับประเทศ ความเสี่ยงจากการทำสัญญาซื้อขายล่วงหน้าเพื่อป้องกันความเสี่ยง ความเสี่ยงในเรื่องคู่สัญญาในการทำสัญญาป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน

คำเตือน กองทุนมีความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน ทั้งนี้ กองทุนมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงโดยดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน (ยกเว้น KT-ST มีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน) ในกรณีที่กองทุนไม่ได้มีนโยบายป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน ผู้ลงทุนอาจจะขาดทุนหรือจะได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน หรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้ / ผู้ลงทุนต้องทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน

ที่มา: บลจ.กรุงไทย

KTAM แนะลงทุนกองทุนตราสารหนี้ระยะสั้น เพิ่มทางเลือกการลงทุนจากความไม่แน่นอนของนโยบายการเงิน

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๑ มี.ค. สาขาภาษาจีนสื่อสารธุรกิจ SPU จับมือ K Food Guru สร้างโอกาสใหม่ให้นักศึกษา เสริมทักษะธุรกิจอาหารยุคดิจิทัล
๒๑ มี.ค. บริษัทวิจัยตลาดระบุ Kaspersky โดดเด่นในตลาดความปลอดภัยไซเบอร์ของ OT
๒๑ มี.ค. MediaTek เปิดตัวแพลตฟอร์ม Genio 720 และ Genio 520 IoT สำหรับแอปพลิเคชัน Generative AI
๒๑ มี.ค. Enlit Asia 2025 เปิดตัวอย่างเป็นทางการในกรุงเทพมหานคร ปูทางสู่การเปลี่ยนผ่านพลังงานของอาเซียน
๒๑ มี.ค. AnyMind Group เปิดตัวความสามารถใหม่ในการสร้างกราฟแบบไดนามิกสำหรับ AnyAI เพื่อยกระดับการวิเคราะห์ข้อมูล
๒๑ มี.ค. ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ร่วมงาน IEEE PES GTD Asia 2025 นำโซลูชั่นช่วยชาติลดคาร์บอนปลายปีนี้
๒๑ มี.ค. พันธุ์ไทยอะไรก็เป็นไปได้ ยกขบวนรถตุ๊กตุ๊ก โปรโมท ขนมครกยกล้อ ทั่วกรุง พร้อมการันตีความอร่อยจากเจ้าของร้านย่านดัง
๒๑ มี.ค. ORI เดินหน้าขับเคลื่อนแผนธุรกิจปี'68 ครอบคลุมทั้งบ้าน-คอนโด-ธุรกิจบริการ-โรงแรม-คลังสินค้า พร้อมเสนอขายหุ้นกู้ล็อตใหม่ 2 รุ่น ชูดอกเบี้ย 4.85% - 5.15% ต่อปี ระหว่างวันที่ 1-3
๒๑ มี.ค. โซลูชันด้านความหอม ที่จะปลุกความทรงจำดีๆของคุณอีกครั้งเลือกน้ำหอมปรับอากาศภายในบ้าน Maison Berger Paris
๒๑ มี.ค. ทีเอ็มบีธนชาต สานต่อพลังแห่ง การให้ มอบรายได้จากการจำหน่ายสลากกาชาด ประจำปี 2567 กว่า 9 ล้านบาท แก่สภากาชาดไทย