นอกจากนี้ โครงการเปิดตัวใหม่ ทำยอดขายดีในทุกโครงการและประสบความสำเร็จจากการ Sold Out!! ถึง 20 โครงการ มูลค่ารวม 15,000 ล้านบาท ได้รับการตอบรับที่ดีในทุกเซกเมนต์ ทั้งคอนโดมิเนียมแบรนด์คอนโด มี ที่ปิดการขายไปถึง 6 โครงการ ขณะที่แนวราบได้รับการตอบรับที่ดีทุกโปรดักส์ ทั้งทาวน์โฮมโครงการ สิริ เพลส บางนา - เทพารักษ์ บ้านและทาวน์โฮมแบรนด์ อณาสิริ บ้านเดี่ยวแบรนด์คณาสิริ ฮาบิเทีย ไพร์ม และเศรษฐสิริ รวมทั้งโครงการระดับลักซ์ชัวรี ที่สามารถ Sold Out! บูก้าน พระราม 9 - เหม่งจ๋าย ในวันแรกที่เปิดจอง และแบรนด์ใหม่ "ELSE" (เอลซ์) เจาะกลุ่มลูกค้าใหม่ เอ็กซ์คลูซีฟ เรสซิเดนซ์ จำนวนยูนิตน้อย Private สูง ที่ได้รับการตอบรับที่ดีมาก จนปิดการขายไปถึง 2 โครงการในระยะเวลาที่รวดเร็ว ได้แก่ "เอลซ์ ชัยพฤกษ์ - แจ้งวัฒนะ" ที่ Sold Out ก่อนเปิดตัวโครงการ และล่าสุด "เอลซ์ กรุงเทพกรีฑา"
สำหรับแผนธุรกิจในช่วงไตรมาส 3 แสนสิริจะรุกเปิดตัวโครงการใหม่ประมาณ 13 โครงการ มูลค่ารวมเกือบ 16,000 ล้านบาท ไฮไลต์การเปิดตัวคอนโดมิเนียมถึง 8 โครงการใหม่ มูลค่ารวมเกือบ 10,000 ล้านบาท ประกอบด้วยทั้งโครงการบนสุดยอดทำเลศักยภาพในย่าน CBD บนทำเลสุขุมวิท, การรุกพัฒนาโครงการใน Strategic Location หัวเมืองใหญ่และเมืองท่องเที่ยว ได้แก่ ภูเก็ต เชียงใหม่ รวมถึงตลาดฝั่ง EEC โซนภาคตะวันออก ตั้งแต่ พัทยา บางแสน พร้อมทั้งลุยเปิดตัว Affordable Condo อย่างต่อเนื่อง และที่สำคัญ แสนสิริ เราให้ความสำคัญกับการบริหาร Portfolio ให้เหมาะสมรองรับการเติบโต ใช้เงินลงทุนอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้บริษัทมีผลประกอบการที่โตอย่างต่อเนื่องและสอดคล้องกับสภาวะเศรษฐกิจ ตอกย้ำ 40 ปี แบรนด์อสังหาฯ อันดับหนึ่ง ผ่านการออกแบบที่โดดเด่น รักษามาตรฐานด้านคุณภาพของสินค้าและการบริการ
ในปี 2567 แสนสิริวางแผนเปิดตัวรวม 46 โครงการ มูลค่ารวม 61,000 ล้านบาท แบ่งเป็นแนวราบ 26 โครงการ มูลค่ารวม 35,000 ล้านบาท และแนวสูง 20 โครงการ มูลค่ารวม 26,000 ล้านบาท เน้นขยายการลงทุนไปยังหัวเมืองท่องเที่ยวและทำเลศักยภาพที่มีความต้องการสูง ซึ่งการเปิดโครงการใหม่ทั้งหมดในปี 2567 นี้ เป็นการสนับสนุนให้บริษัทสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง โดยเป้ายอดขายรวม 52,000 ล้านบาท และยอดโอนที่ 43,000 ล้านบาท
ที่มา: แสนสิริ