สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) โดย สถาบันวิจัยเกษตรอินทรีย์ยุคใหม่ สจล. (KMITL Research Institute of Modern Organic Agriculture : RIMOA) ประสบความสำเร็จ ครั้งสำคัญ เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ "จุลินทรีย์ - ชีวภัณฑ์ออร์แกนิก" หยุดการใช้สารเคมีในการเกษตร เพื่อโลกที่ยั่งยืน (Green Shift: นวัตกรรมสู่ออร์แกนิก by รศ. ดร. เกษม สร้อยทอง) พลิกฟื้นการทำเกษตรอินทรีย์ยุคใหม่ เป็นทางเลือกให้กับผู้สนใจทำการเกษตร และเกษตรกร สามารถปลูกพืชที่ปลอดสารเคมี ได้ผลิตภัณฑ์มีคุณภาพสูง ทนทาน ตอบโจทย์ความปลอดภัยด้านสิ่งแวดล้อม ตอกย้ำวิสัยทัศน์ของสถาบันในการเป็นผู้นำนวัตกรรมระดับโลก และการเป็น Green University เพื่อคนไทยและมวลมนุษยชาติ และขับเคลื่อนประเทศไปสู่การเป็นออร์แกนิกเต็มรูปแบบ เพื่อโลกที่ยั่งยืน
รองศาสตราจารย์ ดร.คมสัน มาลีสี อธิการบดี สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) กล่าวว่า การเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ "จุลินทรีย์ - ชีวภัณฑ์ออร์แกนิก" ล่าสุด ในครั้งนี้ เป็นก้าวสำคัญที่ช่วยให้เกษตรกรสามารถเปลี่ยนการทำเกษตรให้เป็นแบบออร์แกนิกได้ง่ายขึ้นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยสถาบันมุ่งมั่นที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างสรรค์อนาคตที่ยั่งยืนสำหรับทุกคน และเป็นการย้ำอีกครั้งถึงวิสัยทัศน์ของสถาบันในการเป็นผู้นำนวัตกรรมระดับโลกเพื่อคนไทยและมนุษยชาติ เพื่อขับเคลื่อนประเทศสู่การเป็นออร์แกนิกเต็มรูปแบบ ในการนี้ต้องให้เครดิตกับสถาบันวิจัยเกษตรอินทรีย์ยุคใหม่ สจล. (KMITL Research Institute of Modern Organic Agriculture : RIMOA) ที่ประสบความสำเร็จคิดค้นนวัตกรรม 'จุลินทรีย์ - ชีวภัณฑ์ออร์แกนิก' กระทั่งพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ ซึ่งออกแบบมาเพื่อช่วยเกษตรกรเปลี่ยนการทำเกษตรแบบดั้งเดิมให้เป็นการเกษตรแบบออร์แกนิก
ผลิตภัณฑ์ชีวภัณฑ์นี้ได้รับการทดสอบและพิสูจน์แล้วว่าสามารถช่วยหยุดการใช้สารเคมีในการทำเกษตรและเพิ่มคุณภาพและความทนทานให้กับพืชผลได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยังทำให้ เกษตรกร ผู้บริโภค ผู้อาศัยในบริเวณใกล้เคียงได้รับความปลอดภัยจากสารเคมีซึ่งเป็นสาเหตุของโรคภัยต่างๆที่แฝงตัวเข้ามาในชีวิตประจำวันของคนไทยทุกคน
รองศาสตราจารย์ ดร.เกษม สร้อยทอง ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยเกษตรอินทรีย์ยุคใหม่ สจล. หรือ ดร.เกษม สร้อยทอง Guru เกษตรอินทรีย์ยุคใหม่ ผู้มีประสบการณ์ในการทำพืชออร์แกนิก โดยใช้เทคนิค นวัตกรรมงานวิจัยชีวภัณฑ์ที่มีผลงานตีพิมพ์รองรับ และใช้ผลยืนยันทางวิทยาศาสตร์ในการรับรองมาตรฐานดังกล่าว กล่าวถึง ความสำเร็จในการสร้างผลิตภัณฑ์ชีวภัณฑ์สำหรับการทำเกษตรอินทรีย์ยุคใหม่ "โฟร์คิงส์ และชุดชีวภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง" ซึ่งสามารถทำให้ดินมีธาตุอาหารครบถ้วนในรูปที่พืชดูดไปใช้ได้ โดยมี ธาตุอาหารหลัก เช่น ไนโตรเจน( N) ฟอสฟอรัส ( P ) โปตัสเซี่ยม (K) แคลเซี่ยม ( Ca) กำมะถัน (S) แม็กนีเชี่ยม ( Mg ) ในปริมาณที่สูงอย่างมีนัยสำคัญ และ ธาตุอาหารรอง เช่น ธาตุทองแดง (Cu) โบรอน ( B) โมลิปดินั่ม (Mo) ธาตุเหล็ก (Fe) ธาตุสังกะสี ( Zn) ธาตุคลอรีน ( Cl ) ธาตุมังกานีส (Mn) อย่างครบถ้วน ซึ่งโดยทั่วไป กรรมวิธีอินทรีย์ธรรมดาจะไม่สามารถสร้างปริมาณธาตุอาหารหลักได้เท่านี้ แต่ด้วยนวัตกรรม จุลินทรีย์ ของผลิตภัณฑ์โฟร์คิงส์ สามารถทำให้เรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นจริงได้ ซึ่งขอเปิดตัว ผลิตภัณฑ์ดังกล่าว จำนวน 4 สูตรซึ่งมีแร่ธาตุหลัก NPK ที่แตกต่างกัน ตามความเหมาะสมในการเจริญเติบโตของพืชในช่วงอายุต่างๆ โดยรศ. ดร.เกษม สร้อยทองได้ทำการสาธิตผสมผลิตภัณฑ์โฟร์คิงส์กับดินจากสถานที่ตัวอย่าง พร้อมวัดค่าธาตุอาหารต่างๆให้ชมในงานอย่างชัดเจนอีกด้วย
ทั้งนี้ เพื่อให้ผลิตภัณฑ์ "จุลินทรีย์ - ชีวภัณฑ์ออร์แกนิก" มีการนำไปใช้อย่างแพร่หลาย ได้ผลดีเชิงพาณิชย์ จึงได้ร่วมมือกับ บริษัท เค-วัน ลาดกระบัง จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนที่ใช้นวัตกรรมของสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ภายใต้บริษัท KMIT Holdings จำกัด เป็นผู้จัดจำหน่ายเพื่อต่อยอดให้กับสังคมต่อไป
รองศาสตราจารย์ ดร.สุดาพร สาวม่วง กรรมการผู้จัดการ จากบริษัท เค-วันลาดกระบัง จำกัด กล่าวว่า สำหรับผลิตภัณฑ์ปุ๋ยอินทรีย์ตราโฟร์คิงส์ และ สารเสริมประสิทธิภาพพืช เป็นผลงานวิจัยของนักวิจัยสถาบัน ซึ่งผู้ที่สนใจ เกษตรกร ที่มีแนวคิดในการทำเกษตรอินทรีย์ยุคใหม่ เพื่อเป็นอาชีพทางเลือก หรือเพื่อเสริมศักยภาพให้กับการทำเกษตรอินทรีย์ ที่สามารถตอบโจทย์ การทำเกษตรที่ปลอดภัย ปุ๋ยเหมาะสมกับดินนำไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน และมีตลาดรองรับ ซึ่งสามารถที่จะติดต่อผ่านช่องทางจำหน่าย โดย บริษัท เค-วัน ลาดกระบัง จำกัด จะทำการจัดส่งผลิตภัณฑ์ปุ๋ยอินทรีย์ตราโฟร์คิงส์ ถึงมือเกษตรกรทุกพื้นที่ ไม่มีขั้นต่ำการสั่ง ในราคาที่สามารถจับต้องได้
ผู้สนใจ เกษตรกร สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์ ผ่านทางช่องทาง Social media ของทางบริษัท เค-วัน Facebook K-ONE Ladkrabang co.ltd., Line @K_ONE โทร.063-049-0955
ที่มา: เออาร์ไอพี