"นภินทร" ปลื้ม ญี่ปุ่นขึ้นทะเบียน GI "สับปะรดห้วยมุ่น" ผลไม้ไทยรายการแรกเดินหน้าขยายตลาดส่งออกผักผลไม้ไทยสู่ตลาดญี่ปุ่น

พุธ ๑๓ พฤศจิกายน ๒๐๒๔ ๐๘:๒๐
นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์หารือนายโยอิจิ วาตานาเบะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตร ป่าไม้ และประมงของญี่ปุ่น พร้อมรับมอบประกาศขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) สับปะรดห้วยมุ่น ผลไม้ไทยรายการแรกที่ได้รับ GI ในญี่ปุ่นและได้เยี่ยมชมตลาดค้าส่งสินค้า ผักผลไม้ ดอกไม้ และอาหารทะเลที่ใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น
นภินทร ปลื้ม ญี่ปุ่นขึ้นทะเบียน GI สับปะรดห้วยมุ่น ผลไม้ไทยรายการแรกเดินหน้าขยายตลาดส่งออกผักผลไม้ไทยสู่ตลาดญี่ปุ่น

นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า "เป็นที่น่ายินดีที่ญี่ปุ่นประกาศรับขึ้นทะเบียน GI สับปะรดห้วยมุ่นเป็นตัวที่ 3 ต่อจากกาแฟดอยช้างและกาแฟดอยตุงภายใต้ความร่วมมือแลกเปลี่ยนการขึ้นทะเบียน GI 3 + 3 ซึ่งเป็นเครื่องการันตีคุณภาพของสินค้าดังกล่าวได้เป็นอย่างดี ด้วยสับปะรดห้วยมุ่นเป็นสับปะรดพันธุ์ปัตตาเวียที่มีชื่อเสียง มีจุดเด่นในเรื่องของเนื้อสีน้ำผึ้งหนานุ่ม รสชาติหวานหอม และยังมีคุณค่าทางโภชนาการสูง ทำให้สับปะรดห้วยมุ่นเป็นที่ต้องการของผู้บริโภคญี่ปุ่นและเป็นอีกหนึ่งสินค้าที่มีศักยภาพในการส่งออก โดยไทยมีผู้ประกอบการกว่า 850 รายมีกำลังการผลิตกว่า 180,000 ตันต่อปี คิดเป็นมูลค่าการตลาดรวมกว่า 1,200 ล้านบาท จึงได้มอบหมายให้กรมทรัพย์สินทางปัญญาเร่งเดินหน้าสานต่อความร่วมมือในระยะที่ 2 เพื่อขยายตลาด GI ไทย ในญี่ปุ่นพร้อมทั้งได้หารือกับทางญี่ปุ่นเพื่อพัฒนาระบบการคุ้มครองสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ร่วมกันต่อไป"

ตลาดสินค้าสับปะรดในญี่ปุ่นมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง ผู้บริโภคชาวญี่ปุ่นนิยมรับประทานสับปะรดสดที่มีรสชาติ หวานฉ่ำ มีปริมาณการบริโภคของคนในประเทศ ปีละไม่ต่ำกว่า 180,000 ตันรวมถึงสินค้าสับปะรดแปรรูป เช่น น้ำสับปะรด สับปะรดกระป๋อง และสับปะรดอบแห้ง แต่เนื่องจากสภาพภูมิอากาศในประเทศญี่ปุ่นไม่เหมาะกับการปลูกสับปะรด จึงมีการนำเข้าจากประเทศต่างๆ จำนวนมากโดยไทยเป็นหนึ่งในประเทศคู่ค้าสำคัญที่ส่งออกสับปะรดมากเป็นอันดับ 4 รองจากฟิลิปปินส์ คอสตาริกาและอินโดนีเซีย ทั้งนี้มีความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจ ไทย - ญี่ปุ่น (JTEPA) ที่ใช้เจรจาสิทธิประโยชน์ทางการค้าเพิ่มเติมให้กับสินค้าเกษตรรวมถึงสับปะรดจากไทยนายนภินทร กล่าวเพิ่มเติมว่า "ในครั้งนี้ได้มีโอกาสไปเยี่ยมชมตลาดขายส่งโอตะ (OTAWholesale Market) ซึ่งเป็นตลาดขายส่งผักผลไม้ ดอกไม้ และอาหารทะเลที่ใหญ่ที่สุดของประเทศญี่ปุ่นมีเงินหมุนเวียนในการซื้อขายกว่า 500 ล้านบาทต่อวัน เพื่อศึกษาการบริหารจัดการพื้นที่ กระบวนการประมูลสินค้าเกษตร และระบบการค้าส่งและโลจิสติกส์ และนำมาพัฒนาการทำตลาดกลางสินค้าเกษตรที่เป็นธรรมกับเกษตรกรโดยเฉพาะอย่างยิ่งเกษตรกรรายย่อย และผู้ค้าปลีกค้าส่งในไทย อีกทั้งยังเป็นการสำรวจช่องทางขยายตลาดผักผลไม้ไทยสู่ญี่ปุ่นได้มากยิ่งขึ้น"

ที่มา: กรมทรัพย์สินทางปัญญา

นภินทร ปลื้ม ญี่ปุ่นขึ้นทะเบียน GI สับปะรดห้วยมุ่น ผลไม้ไทยรายการแรกเดินหน้าขยายตลาดส่งออกผักผลไม้ไทยสู่ตลาดญี่ปุ่น

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๘:๓๓ COM7 เดินหน้าเต็มสปีด EV7 ส่งมอบแท็กซี่ไฟฟ้าล็อตแรก ดันเมกะเทรนด์ EV สู่หัวใจเมือง
๑๘:๓๖ GCAP ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ไฟเขียวผ่านฉลุยทุกวาระ พร้อมเดินหน้าแผนธุรกิจขยายสู่กลยุทธ์ Non Lending
๑๘:๔๔ PYLON จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผู้ถือหุ้นไฟเขียวจ่ายปันผล 0.04 บาท/หุ้น
๑๘:๓๙ LDC จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2568 มุ่งเป็นคลินิกทันตกรรมพรีเมียม ในราคาที่เข้าถึงง่าย
๑๘:๑๒ ผู้ถือหุ้น TATG ไฟเขียวจ่ายปันผล 0.07 บาท/หุ้น ลงทุนเครื่องจักรใหม่เสริมแกร่งสายการผลิต พิชิตเป้ารายได้ 3,000
๑๘:๕๗ ADVICE จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นรูปแบบ Hybrid ประจำปี 2568 ผถห.ไฟเขียวทุกวาระ เคาะแจกปันผล 0.175 บ./หุ้น
๑๘:๓๖ LE ร่วมงานสถาปนิก'68 โชว์นวัตกรรมแสงสว่างอัจฉริยะ เสริมภาพผู้นำ Lighting Solutions Provider
๑๘:๔๖ SELIC จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ปี 2568 ผู้ถือหุ้นเห็นชอบทุกวาระ อนุมัติจ่ายปันผล 0.038 บาท/หุ้น เดินหน้า 3 ธุรกิจ
๑๘:๔๙ STA เปิดบ้านต้อนรับภาครัฐ โชว์มาตรฐานรับซื้อยางโปร่งใส เป็นธรรม หนุนรัฐต้านยางเถื่อน
๑๘:๓๕ กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน จับมือเอกชน ปั้นช่างเชื่อมโกอินเตอร์ รายได้ทะลุ 70,000 บาทต่อเดือน