วช. จับมือ 3 มหาวิทยาลัย จัดเวทีเสวนาและเผยแพร่งานวิจัยแก้ปัญหาช้างป่า

ศุกร์ ๒๙ พฤศจิกายน ๒๐๒๔ ๑๐:๔๐
พลเอกเฉลิมชัย สิทธิสาท องคมนตรีและประธานกรรมการมูลนิธิพัชรสุธาคชานุรักษ์ในพระบรมราชูปถัมภ์ ให้เกียรติเป็นประธานกล่าวเปิดกิจกรรมและบรรยายพิเศษ เรื่อง "การดำเนินงานโครงการพัชรสุธาคชานุรักษ์" ในกิจกรรม "เปิดเวทีเสวนาและเผยแพร่ผลงานวิจัยเพื่อการแก้ปัญหาช้างป่า" ซึ่งจัดโดย สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ร่วมกับ มหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี มหาวิทยาลัยมหิดล และมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ พร้อมนี้ ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ มอบหมายให้ นางสาวเสาวนีย์ มุ่งสุจริตการ รองผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ เป็นผู้แทนกล่าวการสนับสนุนทุนวิจัยและนวัตกรรม และนายมนต์สิทธิ์ ไพศาลธนวัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี กล่าวต้อนรับผู้เข้าร่วมกิจกรรม
วช. จับมือ 3 มหาวิทยาลัย จัดเวทีเสวนาและเผยแพร่งานวิจัยแก้ปัญหาช้างป่า

พลเอกเฉลิมชัย สิทธิสาท องคมนตรีและประธานกรรมการมูลนิธิพัชรสุธาคชานุรักษ์ในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวว่า มูลนิธิฯ ได้มีการดำเนินงานเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างคนกับช้างป่ามาอย่างต่อเนื่อง โดย กำหนดแผนการดำเนินงาน คือ การฟื้นฟูถิ่นที่อยู่อาศัยของช้างป่า การเฝ้าระวังป้องกันช้างป่า สกัดกั้นช้างป่า การดูแลประชาชน ความร่วมมือด้านการวิจัย ดังนั้นการมีระบบแจ้งเตือนภัยล่วงหน้าเพื่อบอกพิกัดที่ของช้างป่า ก่อนจะเข้าสร้างความเสียหายแก่ชุมชน เพื่อให้ชุดอาสาสมัครผลักดันช้างป่า สามารถผลักดันได้ทันต่อเหตุการณ์ ถือเป็นหนึ่งวิธีการเพื่อให้คนและช้างสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างปลอดภัย

นางสาวเสาวนีย์ มุ่งสุจริตการ รองผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ กล่าวว่า วช. ภายใต้ อว. เริ่มขับเคลื่อนโครงการวิจัยและนวัตกรรมเพื่อสนับสนุนโครงการพัชรสุธาคชานุรักษ์ตั้งแต่ปี 2565 เป็นต้นมา โดยสนับสนุนทุนวิจัยแก่มหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และมหาวิทยาลัยมหิดล ในการแก้ปัญหาการอยู่ร่วมกันระหว่างคนกับช้างป่าและการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติในพื้นที่รอยต่อ 5 จังหวัดภาคตะวันออก ดำเนินโครงการในด้านนิเวศวิทยา เรื่องการศึกษาถิ่นที่อยู่อาศัย โครงสร้างประชากร ปัจจัยที่ส่งผลต่อการเคลื่อนย้ายและออกนอกพื้นที่ของช้างป่าเพื่อหาแนวทางการบริหารจัดการการอยู่ร่วมกันระหว่างคนและช้างป่า เกิดเทคโนโลยีตรวจจับและแจ้งเตือนช้างป่าออกนอกพื้นที่ เพื่อให้ชุดอาสาสมัครสามารถเฝ้าระวังและผลักดันช้างกลับสู่พื้นที่อย่างถูกวิธี การจัดเวทีเสวนาด้วยความร่วมมือของมหาวิทยาลัยทั้ง 3 แห่งเพื่อถ่ายทอดและแลกเปลี่ยนข้อมูลในด้านวิจัยและนวัตกรรมในครั้งนี้เชื่อมโยงการทำงานระหว่างหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน ถือได้ว่าเป็นส่วนสำคัญในการผลักดันงานวิจัยและนวัตกรรมให้ประสบความสำเร็จในอนาคต

บนเวทีเสวนามีการอภิปรายผลการดำเนินงานวิจัย ดังนี้ 1. การศึกษาช้างป่าแบบบูรณาการเพื่อลดผลกระทบความขัดแย้งระหว่างคนและช้างป่าภาคตะวันออกอย่างยั่งยืนด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม โดย น.สพ.ดร. บริพัตร ศิริอรุณรัตน์ มหาวิทยาลัยมหิดล ศึกษาการติดตามช้างป่าด้วยเทคโนโลยี เพิ่มประสิทธิภาพในการเฝ้าระวังและแจ้งเตือนภัยช้างป่า 2. ปัจจัยที่มีผลต่อการออกมานอกพื้นที่ การกระจายประชากร และพื้นที่เสี่ยง เพื่อจัดการความขัดแย้งระหว่างคนกับช้างป่าบริเวณภาคตะวันออกของประเทศไทยอย่างยั่งยืน โดย รองศาสตราจารย์ ดร.รองลาภ สุขมาสรวง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิเคราะห์ปัจจัยแวดล้อมที่มีผลต่อการเลือกพื้นที่อาศัยของช้างป่า รวมถึงแนวทางการจัดการความขัดแย้งระหว่างคนกับช้างป่า 3. เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์เพื่อการตรวจจับและแจ้งเตือนภัยช้างป่าแบบอัตโนมัติเพื่อการเฝ้าระวังชุมชนเชิงบูรณาการ โดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์วิชาญ ทุมทอง มหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี การใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ร่วมกับกล้องโทรทัศน์วงจรปิด ในการตรวจจับและเฝ้าระวังช้างป่ากิจกรรมครั้งนี้ยังประกอบไปด้วย นิทรรศการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ต่อยอดจากงานวิจัย กิจกรรมเยี่ยมชมศูนย์คชานุรักษ์ ศูนย์เฝ้าระวังและผลักดันช้างป่าบ้านพยากำพุช และผลิตภัณฑ์ของกลุ่มชุมชนในจังหวัดฉะเชิงเทราและจังหวัดจันทบุรี เป็นต้น

ทั้งนี้ วช. มีความมุ่งหวังที่จะให้ทุนหนุนการวิจัยและนวัตกรรม เพื่อการพัฒนาทางเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อท้องถิ่น ในการนี้การพัฒนานวัตกรรมที่เกี่ยวข้องกับการจัดการช้างป่าและพื้นที่อนุรักษ์ ไม่เพียงแต่ช่วยลดปัญหาความขัดแย้งระหว่างช้างป่ากับมนุษย์ แต่ยังส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพในการเฝ้าระวังและติดตามพฤติกรรมของช้าง การศึกษาและพัฒนาพื้นที่อาศัยที่เหมาะสม และการบริหารจัดการพื้นที่ในลักษณะที่ยั่งยืน ผลงานวิจัยเหล่านี้จะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากช้างป่าและส่งเสริมความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในการแก้ไขปัญหาอย่างมีประสิทธิภาพ

ที่มา: สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ

วช. จับมือ 3 มหาวิทยาลัย จัดเวทีเสวนาและเผยแพร่งานวิจัยแก้ปัญหาช้างป่า

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๐๗ ก.พ. กทม. เข้มความปลอดภัยทางม้าลาย ติดตั้งสัญญาณไฟ-กล้อง AI ลดอุบัติเหตุทางถนน
๐๗ ก.พ. MOTHER พร้อมลั่นระฆังเทรดตลาด mai 11 ก.พ.นี้
๐๗ ก.พ. d4vd ส่งเพลงเศร้าๆ เหงาๆ One More Dance ครองใจ Gen Z อีกครั้ง เตรียมปล่อยอัลบั้มใหม่ และรอชมการแสดงใน Coachella เม.ย.
๐๗ ก.พ. SIAM VALENTINE 2O25 เทศกาลติดสติ๊กเกอร์หัวใจสุดยิ่งใหญ่กว่าแสนดวงกลางสยามสแควร์
๐๗ ก.พ. อลิอันซ์ เปิดเผยรายงาน Allianz Global Pension Report 2568 ชี้ระบบบำนาญทั่วโลกต้องมีการปฏิรูปอย่างจริงจัง
๐๗ ก.พ. โคคา-โคล่า ไทยน้ำทิพย์ จับมือ บอนชอน เสริมทัพความอร่อยแบบไม่อั้น ส่ง โค้ก ฟรีรีฟิล พร้อมเสิร์ฟความสดชื่นในกว่า 100
๐๗ ก.พ. จาก Generative AI สู่ Agentic AIเทรนด์เทคโนโลยีด้าน AI ที่ต้องจับตามอง
๐๗ ก.พ. เตือนคนรักสุขภาพ! ออกกำลังกายกลางแจ้งระวังฝุ่น PM2.5 และโอโซน ที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพระยะยาว
๐๗ ก.พ. กทม. เข้มตรวจใบอนุญาตฯ-สุขลักษณะโรงเชือดไก่ 8 รายใน ซ.ปรีดีพนมยงค์ 44
๐๗ ก.พ. บีทีเอส กรุ๊ปฯ คว้าผลการประเมินความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมระดับ A- จาก CDP ประจำปี 2567 ตอกย้ำความมุ่งมั่นต่อความโปร่งใสและการดำเนินการด้านสภาพภูมิอากาศ