นายพอลล์ กาญจนพาสน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมเนจเม้นท์ จำกัด ผู้บริหารศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี กล่าวว่า ด้วยสภาวะโลกร้อนที่กำลังเกิดขึ้น ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ ระบบนิเวศและสิ่งแวดล้อมทั่วโลก ทำให้ภาคธุรกิจทั่วโลกหันมาให้ความสำคัญกับเรื่องสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ซึ่ง อิมแพ็ค เมืองทองธานี ในฐานะภาคธุรกิจ มีเป้าหมายเพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมทั้งทางตรง และทางอ้อม ไม่เพียงแต่มีแนวคิดในการสนับสนุนให้ลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก แต่ยังลงมือทำอย่างต่อเนื่องในหลาย ๆ โครงการ โดยที่ผ่านมามีหลายโครงการที่เกิดขึ้นภายในศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี อาทิ โครงการการลดการใช้พลังงานภายในพื้นที่จัดแสดงงาน โดยวางแผนดำเนินงานลดการใช้พลังงานต่อเนื่อง การติดตั้งระบบโซล่าเซลล์ตามอาคารต่าง ๆที่เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2565 หรือ โครงการลดการใช้พลาสติก ด้วยการรณรงค์ขอความร่วมมือผู้ใช้บริการภายในศูนย์ฯ พาร์ทเนอร์ ลดการใช้พลาสติก เปลี่ยนมาใช้ถุงผ้า ใช้ภาชนะบรรจุอาหารที่ย่อยสลายได้
รวมถึงโครงการคัดแยกขยะ ปรับเปลี่ยนถังขยะจากถังเดี่ยวมาเป็นถังขยะแยกประเภท และมีการจัดเก็บคัดแยกขยะอย่างเป็นระบบ เพื่อนำขยะแต่ละประเภทไปกำจัดอย่างถูกวิธี โดยปี2566 มีปริมาณขยะที่นำมารีไซเคิลได้กว่า 80,000 กิโลกรัม นอกจากนี้ยังนำขยะเศษอาหารมาแปรรูปเป็นปุ๋ยบำรุงดินด้วยเครื่อง Food Waste Composer ซึ่งปุ๋ยบำรุงดินที่ได้จากการแปรรูปนี้นำมาใช้ในแปลงผักและแปลงเพาะปลูกไม้ดอกไม้ประดับภายในศูนย์ฯ
ล่าสุด อิมแพ็ค เมืองทองธานี ร่วมกับ มูลนิธิเพื่อสิ่งแวดล้อมและสังคม(Environmental and Social Foundation) และหน่วยงานภาครัฐ อาทิ ศูนย์ปฏิบัติการอุทยานแห่งชาติทางทะเลที่ 2 จังหวัดภูเก็ต อุทยานแห่งชาติสิรินาถ อุทยานแห่งชาติเขาลำปี-หาดท้ายเหมือง องค์การบริหารส่วนตำบลโคกกลอย จังหวัดพังงา เข้าร่วมสนับสนุนโครงการ "กู้วิกฤตและอนุรักษ์พะยูน ครั้งที่2" ด้วยการปลูกหญ้าทะเลทดแทนจำนวนกว่า 900 ต้น บริเวณอ่าวบางขวัญ จังหวัดพังงา
"อิมแพ็ค เมืองทองธานี มีความมุ่งมั่นและตั้งใจในการร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ผ่านโครงการต่าง ๆที่ทำอย่างต่อเนื่อง โดยเริ่มจากการดำเนินการภายในศูนย์ฯ และค่อยๆขยายความตั้งใจไปสู่การสนับสนุนและสร้างกิจกรรมดี ๆ ด้านการอนุรักษ์และฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมที่กว้างขึ้น จนเกิดเป็นความร่วมมือในการสนับสนุนการปลูกหญ้าทะเลร่วมกับมูลนิธิเพื่อสิ่งแวดล้อมและสังคมในครั้งนี้ เพื่อร่วมเป็นส่วนเล็ก ๆในการอนุรักษ์และฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมของไทย"
ดร.อลงกต ชูแก้ว ผู้อำนวยการมูลนิธิเพื่อสิ่งแวดล้อมและสังคม(Environmental and Social Foundation) กล่าวว่า บริเวณพื้นที่อ่าวบางขวัญ จังหวัดพังงา เป็นพื้นที่ที่มีพะยูนอพยพมาอาศัยอยู่จำนวนหนึ่ง เนื่องจากพื้นที่นี้เคยเป็นแหล่งอาหารที่มีแหล่งหญ้าทะเลขึ้นเดิม ประกอบไปด้วยหญ้าทะเลไม่ต่ำกว่า 5-6 ชนิด แต่เสื่อมโทรมลง จนเกิดเป็นความร่วมมือครั้งนี้ขึ้น โดยหญ้าทะเลที่นำมาปลูกนี้เป็นหญ้าทะเลชนิดเดิมที่เคยเจริญเติบโตอยู่ในบริเวณนี้ ซึ่งกิจกรรมนี้เน้นการปลูกทดแทนต้นกล้าเดิมและป้องกันต้นกล้าที่นำมาปลูกใหม่ เพื่อให้พื้นที่นี้เป็นแหล่งอาหารของพะยูนต่อไปในอนาคต
ที่มา: อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมเนจเม้นท์