กรมวิทย์ฯบริการ ร่วมกับมหาวิทยาลัยมหาสารคาม ยกระดับฟาร์มไข่ผำอินทรีย์สู่มาตรฐาน GAP และ PGS นำร่อง 4 จังหวัดภาคอีสาน

จันทร์ ๑๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๘ ๑๗:๔๕
กรมวิทยาศาสตร์บริการ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ร่วมกับมหาวิทยาลัยมหาสารคาม (มมส.) ขับเคลื่อนการพัฒนาฟาร์มไข่ผำอินทรีย์ต้นแบบให้ได้มาตรฐาน Good Agriculture Practices (GAP) และ Participatory Guarantee System (PGS) และพัฒนาสู่ฟาร์มไข่ผำให้สอดคล้องเป็นไปตามมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ โดยนำร่องใน 4 จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้แก่ มหาสารคาม ร้อยยเอ็ด กาฬสินธุ์และ ขอนแก่น เพื่อยกระดับคุณภาพการผลิตและสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจให้กับเกษตรกรไทย ระหว่างวันที่ 3-5 กุมภาพันธ์ 2568
กรมวิทย์ฯบริการ ร่วมกับมหาวิทยาลัยมหาสารคาม ยกระดับฟาร์มไข่ผำอินทรีย์สู่มาตรฐาน GAP และ PGS นำร่อง 4 จังหวัดภาคอีสาน

ดร.กนิษฐ์ ตะปะสา ผู้อำนวยการสถาบันห้องปฏิบัติการอ้างอิงแห่งชาติ (สอช.) วศ. เปิดเผยว่า ไข่ผำ (Wolffia) หรือที่รู้จักกันในชื่อ "คาเวียร์เขียว (Green Caviar)" เป็นพืชเศรษฐกิจใหม่ที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง โดยเฉพาะโปรตีน ซึ่งบางสายพันธุ์มีปริมาณสูงถึง 48.6% ทั้งยังได้รับการผลักดันให้เป็นพืชยุทธศาสตร์ในหมวดอาหารแห่งอนาคต (Future Food) ภายใต้นโยบายของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ อย่างไรก็ตาม การเพาะเลี้ยงไข่ผำในแหล่งน้ำธรรมชาติบางแห่ง ซึ่งอาจมีความเสี่ยงจากปัญหาการปนเปื้อนจากสารเคมี โลหะหนัก และจุลินทรีย์ที่เป็นอันตรายและส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยของผู้บริโภค เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว

วศ. ได้ร่วมมือกับ มมส. ในการพัฒนาและยกระดับฟาร์มไข่ผำอินทรีย์ต้นแบบ โดยเน้นการบูรณาการองค์ความรู้จากภาครัฐและเอกชน พร้อมส่งเสริมให้เกษตรกรและกลุ่มวิสาหกิจชุมชนที่มีศักยภาพสามารถผลิตไข่ผำให้ได้มาตรฐาน GAP และ PGS ซึ่งจะช่วยยกระดับมาตรฐานการผลิตให้มีความปลอดภัยและเป็นที่ยอมรับในตลาดทั้งในและต่างประเทศ

คณะนักวิจัย วศ. ได้เข้าพบ ดร.ศุภชัย สุทธิเจริญ รองคณบดีคณะเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยมหาสารคาม เพื่อหารือแนวทางความร่วมมือในการพัฒนาฟาร์มต้นแบบ พร้อมทั้งลงพื้นที่สำรวจข้อมูลและเยี่ยมชมฟาร์มไข่ผำของกลุ่มเกษตรกรและกลุ่มวิสาหกิจชุมชนในสองพื้นที่สำคัญ ได้แก่ ศูนย์การเรียนรู้ปราชญ์ชาวบ้าน บ้านเชียงงาม อำเภอยางตลาด จังหวัดกาฬสินธุ์ ซึ่งใช้วิธีเพาะเลี้ยงไข่ผำในบ่อดินโดยใช้แหล่งน้ำธรรมชาติจากเขื่อนลำปาว และวิสาหกิจชุมชนผู้ผลิตและแปรรูปพืชสวนและพืชน้ำสำราญโรจน์ อำเภอแกดำ จังหวัดมหาสารคาม ที่ใช้ระบบบ่อปูนซีเมนต์ซึ่งใช้น้ำจากแหล่งน้ำบาดาลในการเพาะเลี้ยง การลงพื้นที่ดังกล่าวช่วยให้สามารถประเมินศักยภาพของระบบการเพาะเลี้ยงแต่ละรูปแบบ และหาแนวทางในการพัฒนาฟาร์มต้นแบบให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ความร่วมมือครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการส่งเสริมการเพาะเลี้ยงไข่ผำอินทรีย์ที่ได้มาตรฐาน สร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภค และเพิ่มขีดความสามารถของเกษตรกรไทยในการแข่งขันในตลาดอาหารแห่งอนาคต ต่อยอดสู่ความยั่งยืนในภาคเกษตรกรรมของประเทศ

ที่มา: กรมวิทยาศาสตร์บริการ

กรมวิทย์ฯบริการ ร่วมกับมหาวิทยาลัยมหาสารคาม ยกระดับฟาร์มไข่ผำอินทรีย์สู่มาตรฐาน GAP และ PGS นำร่อง 4 จังหวัดภาคอีสาน

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๘:๓๓ COM7 เดินหน้าเต็มสปีด EV7 ส่งมอบแท็กซี่ไฟฟ้าล็อตแรก ดันเมกะเทรนด์ EV สู่หัวใจเมือง
๑๘:๓๖ GCAP ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ไฟเขียวผ่านฉลุยทุกวาระ พร้อมเดินหน้าแผนธุรกิจขยายสู่กลยุทธ์ Non Lending
๑๘:๔๔ PYLON จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผู้ถือหุ้นไฟเขียวจ่ายปันผล 0.04 บาท/หุ้น
๑๘:๓๙ LDC จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2568 มุ่งเป็นคลินิกทันตกรรมพรีเมียม ในราคาที่เข้าถึงง่าย
๑๘:๑๒ ผู้ถือหุ้น TATG ไฟเขียวจ่ายปันผล 0.07 บาท/หุ้น ลงทุนเครื่องจักรใหม่เสริมแกร่งสายการผลิต พิชิตเป้ารายได้ 3,000
๑๘:๕๗ ADVICE จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นรูปแบบ Hybrid ประจำปี 2568 ผถห.ไฟเขียวทุกวาระ เคาะแจกปันผล 0.175 บ./หุ้น
๑๘:๓๖ LE ร่วมงานสถาปนิก'68 โชว์นวัตกรรมแสงสว่างอัจฉริยะ เสริมภาพผู้นำ Lighting Solutions Provider
๑๘:๔๖ SELIC จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ปี 2568 ผู้ถือหุ้นเห็นชอบทุกวาระ อนุมัติจ่ายปันผล 0.038 บาท/หุ้น เดินหน้า 3 ธุรกิจ
๑๘:๔๙ STA เปิดบ้านต้อนรับภาครัฐ โชว์มาตรฐานรับซื้อยางโปร่งใส เป็นธรรม หนุนรัฐต้านยางเถื่อน
๑๘:๓๕ กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน จับมือเอกชน ปั้นช่างเชื่อมโกอินเตอร์ รายได้ทะลุ 70,000 บาทต่อเดือน