TATG โชว์ผลงานปี 67 ปั๊มรายได้ 2,701 ล้านบาท - กำไรโตกว่า 46% เสริมแกร่งสายการผลิต รับดีมานด์ปี 68 มองอุตสาหกรรมยานยนต์ฟื้นตัว

ศุกร์ ๒๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๘ ๑๕:๓๙
บมจ. ไทย ออโต ทูลส์ แอนด์ ดาย (TATG) โชว์งบปี 2567 กวาดกำไรสุทธิ 70 ล้านบาท เติบโตจากปีก่อนมากกว่า 46% สะท้อนการบริหารจัดการอย่างดีเยี่ยม ส่วนรายได้อยู่ที่ 2,701 ล้านบาท ทำผลงานได้ดีแม้ปริมาณการผลิตรถยนต์และยอดการผลิตจริงลดลง ด้านผู้บริหาร มั่นใจ ปี 68 พร้อมเดินหน้า เสริมแกร่งสายงานการผลิต ติดตั้งเครื่องจักรและเทคโนโลยีการผลิตใหม่ๆ มุ่งเน้นคุณภาพของสินค้า เตรียมความพร้อมรองรับดีมานด์จากอุตสาหกรรมยานยนต์ฟื้นตัวในปีนี้ ตั้งเป้าหมายรายได้ปี 68 โตไม่ต่ำกว่า 10% จากปีก่อน พร้อมรักษาความสามารถในการทำกำไรต่อเนื่อง
TATG โชว์ผลงานปี 67 ปั๊มรายได้ 2,701 ล้านบาท - กำไรโตกว่า 46% เสริมแกร่งสายการผลิต รับดีมานด์ปี 68 มองอุตสาหกรรมยานยนต์ฟื้นตัว

ดร.พยุง ศักดาสาวิตร ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทย ออโต ทูลส์ แอนด์ ดาย จำกัด (มหาชน) หรือ TATG ผู้ออกแบบและผลิตเครื่องมือสำหรับอุตสาหกรรมรถยนต์ (Tooling) ครอบคลุมถึงการออกแบบและผลิตแม่พิมพ์สำหรับปั๊มขึ้นรูปโลหะ (Stamping Dies) อุปกรณ์จับยึดเพื่อการตรวจสอบ (Checking Fixtures) อุปกรณ์จับยึดเพื่อการประกอบ (Assembly Jigs) และผลิตชิ้นส่วนรถยนต์แบบปั๊มขึ้นรูปโลหะ (Automotive Press Parts) แบบ One Stop Service เปิดเผยผลการดำเนินงานของ TATG ในงวดปี 2567 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 70.22 ล้านบาท เติบโตจากปีก่อน 22.13 ล้านบาท หรือคิดเป็น 46.02% ส่วนรายได้รวม 2,701.58 ล้านบาท

โดยรายได้หลักของบริษัทฯ เป็นรายได้ที่มาจากสัญญาที่ทำกับลูกค้าลดลง จากธุรกิจผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ ซึ่งมีจำนวน 384.02 ล้านบาท คิดเป็นการปรับลดลงร้อยละ 14.84 จะเห็นว่ารายได้ของบริษัทฯ ลดลงน้อยกว่าภาพรวมการผลิตรถยนต์ในประเทศไทย ซึ่งลดลงร้อยละ 19.95 เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจในประเทศที่ยังชะลอตัว ส่วนรายได้ธุรกิจออกแบบและผลิตเครื่องมือมีรายได้เพิ่มขึ้นจำนวน 119.07 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 61.64 เกิดจากการมีคำสั่งซื้อของกลุ่มยานยนต์ที่เพิ่มมากขึ้น

"ภาพรวมปี 2567 สะท้อนความแข็งแกร่งของบริษัทฯ แม้รายได้รวมลดลง แต่มีความสามารถในการทำกำไรที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากบริษัทฯ มีการบริหารจัดการที่ดี ครอบคลุมถึงการควบคุมต้นทุนขาย ต้นทุนบริการ ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ" ดร.พยุง กล่าว

สำหรับก้าวต่อไปของ TATG ในปี 2568 บริษัทฯ ยังคงเดินหน้ามุ่งสู่ความเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมแม่พิมพ์โลหะและชิ้นส่วนยานยนต์ ของภูมิภาคเอเชีย โดยแบ่งสายการดำเนินงานออกเป็น 2 ธุรกิจหลัก ได้แก่ ธุรกิจออกแบบและผลิตเครื่องมือสำหรับอุตสาหกรรมรถยนต์ (Tooling) 10% และธุรกิจผลิตชิ้นส่วนรถยนต์แบบปั๊มขึ้นรูปโลหะ (Automotive Press Parts) 80% และอื่นๆ 10% ภายหลังจาก TATG ได้เข้าไปเป็นสมาชิกของตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ บริษัทฯ ได้เร่งเสริมแกร่งสายงานการผลิต จัดซื้อเครื่องจักรและนำเทคโนโลยีการผลิตใหม่ๆ เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าที่เพิ่มมากขึ้น อาทิ การใช้หุ่นยนต์ในการผลิต (Robot) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต และเน้นคุณภาพของสินค้า การซื้อเครื่องจักรระบบอัตโนมัติขั้นสูง (CNC) เข้ามาเพิ่มเติม เพื่อรองรับการผลิตเครื่องมือที่มีความซับซ้อน สามารถรองรับความต้องการของลูกค้าได้เป็นอย่างดี ครอบคลุมทั้งอุตสาหกรรมการผลิตรถยนต์และรถจักรยานยนต์ ด้วยการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ช่วยลดต้นทุนในการผลิต ทำให้มีการเติบโตของรายได้และมีผลการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้น เพิ่มความสามารถในการทำกำไร และเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาด ซึ่งคาดว่าจะสามารถชดเชยผลกระทบระยะสั้นต่ออัตราส่วนทางการเงินได้

ด้านที่ประชุมบอร์ดมีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นเป็นเงินสด 0.07 บาทต่อหุ้น โดยกำหนดวันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิรับเงินปันผล (Record Date) ในวันที่ 8 พ.ค. 2568 และกำหนดวันที่จ่ายปันผล ภายในวันที่ 28 พ.ค. 2568

สำหรับภาพรวมอุตสาหกรรมยานยนต์ปี 2568 ประเมินว่ายังคงต้องเผชิญหน้ากับความท้าทาย จากภาวะเศรษฐกิจและการปรับตัวลดลงของยอดขายทั้งรถยนต์สันดาป ไฮบริด และรถไฟฟ้า (EV) แต่ตลาดรถยนต์ EV ในประเทศยังมีโอกาสเติบโต โดยคาดว่าอุปสงค์จะฟื้นตัวแรงขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี จากมาตรการสนับสนุนของภาครัฐ การปรับลดราคา แคมเปญส่งเสริมการขาย และการขยายเครือข่ายสถานีชาร์จที่ครอบคลุมมากขึ้น ช่วยเร่งการเปลี่ยนผ่านของอุตสาหกรรมไปสู่ยุครถยนต์พลังงานสะอาด โดย TATG ผู้นำด้านการผลิตแม่พิมพ์โลหะและชิ้นส่วนยานยนต์ครอบคลุมทุกประเภท รวมถึง EV พร้อมเดินหน้าธุรกิจเต็มกำลัง จากการมีเครื่องจักรและเทคโนโลยีใหม่เข้ามาเสริมศักยภาพการผลิตให้ล้ำสมัย รองรับความต้องการของตลาดที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

"จากปัจจัยบวกในด้านการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และอุตสาหกรรมยานยนต์ที่คาดว่าจะปรับตัวดีขึ้น ทั้งยอดผลิต ยอดขายในประเทศ และยอดส่งออก จึงตั้งเป้ารายได้ปี 2568 TATG จะเติบโตไม่ต่ำกว่า 10% ควบคู่รักษาความสามารถในการทำกำไรที่ดี พร้อมเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนอนาคตของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว " ดร.พยุง กล่าวทิ้งท้าย

ที่มา: IR PLUS

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๘ เม.ย. ARDA จับมือ ฟาร์ม เอ็กซ์โป และพันธมิตร เปิดศึก AGRITHON by ARDA Season 2 เฟ้นหาสุดยอดไอเดียปลุกพลังนวัตกรรมเกษตรไทย ชิงทุนวิจัยรวมกว่า 100
๑๘ เม.ย. กรุงศรี ฉลอง 80 ปี ดูหนัง 80 บาท ที่ Major Cineplex เมื่อชำระด้วยบัตรกรุงศรี เดบิตและบัตร Krungsri Boarding
๑๘ เม.ย. แบรนด์ซุปไก่สกัด รณรงค์ขับขี่ปลอดภัยในโครงการ สมองล้าอย่าขับ พักดื่มแบรนด์ จับมือ ตำรวจทางหลวง และ ตำรวจจราจร
๑๘ เม.ย. ซัมซุงจัดใหญ่! เป็นเจ้าของ ตู้เย็น Side by Side รุ่นใหม่ล่าสุด พร้อมรับสิทธิพิเศษแบบจุใจ ได้แล้ววันนี้
๑๘ เม.ย. ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดปรับลดประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 2568 คาดกนง.มีมติลดดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมเดือนเมษายนนี้
๑๘ เม.ย. EXIM BANK ร่วมกับกระทรวงการคลังและกระทรวงพาณิชย์ ออกมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการไทย โดยเฉพาะ SMEs รับมือนโยบายภาษีแบบตอบโต้ของสหรัฐฯ
๑๘ เม.ย. ปักหมุด! เตรียมจัดงาน PET Expo Thailand 2025 จัดยิ่งใหญ่ครบรอบ 25 ปี
๑๘ เม.ย. ลดคลายร้อน ช้อปแลคตาซอย 1,000 ลด 100 พร้อมชวนร่วมสนุกถ่ายภาพคู่แลคตาซอย ลุ้น 10 รางวัล
๑๘ เม.ย. DITP ประชุมผู้จัดแสดงสินค้า เตรียมความพร้อมสู่เวที THAIFEX - ANUGA ASIA 2025
๑๘ เม.ย. โรงแรมเครือดุสิตธานี เปิดตัวโปรพิเศษต้อนรับซัมเมอร์ 'A Night on Us' เติมเต็มวันพักผ่อนอย่างมีความสุขกับโรงแรมและรีสอร์ทในเครือดุสิตธานีทั่วโลก