เนสท์เล่ไอศกรีม เปิดตัวกลุ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ในช่องทางร้านอาหาร มอบความอร่อยหลังมื้ออาหารให้กับผู้บริโภคชาวไทย

จากข้อมูลของศูนย์วิจัยกสิกรไทย ธุรกิจร้านอาหารและร้านเครื่องดื่มปี 2568 คาดว่าจะขยายตัว 4.6% และมูลค่าตลาดจะสูงถึง 657,000 ล้านบาท เนสท์เล่ ไอศกรีม มองเห็นโอกาสสำคัญในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่จะมาช่วยเติมเต็มประสบการณ์การรับประทานอาหารของผู้บริโภคชาวไทย ที่มักจะชื่นชอบตบท้ายมื้ออาหารคาวด้วยของหวาน

"ในฐานะหนึ่งในผู้เล่นรายใหญ่ในอุตสาหกรรมไอศกรีมในประเทศไทย เนสท์เล่ ไอศกรีมเข้าใจผู้บริโภคไทยเป็นอย่างดีและรู้ว่ามื้ออาหารไม่ได้จบลงที่ของคาวเพียงอย่างเดียว" นางสาวมณฑา คงเครือพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารธุรกิจไอศกรีม บริษัท เนสท์เล่ (ไทย) จำกัด กล่าว "ผู้บริโภคชาวไทยชอบตบท้ายมื้ออาหารด้วยของหวาน ดังนั้นการที่เรามีผลิตภัณฑ์ในช่องทางร้านอาหารด้วยจะเปิดโอกาสให้เราสามารถนำเสนอไอศกรีมที่ทั้งอร่อยและคุณภาพดี จากแบรนด์ที่ผู้บริโภคชื่นชอบและคุ้นเคย มาเสิร์ฟให้ผู้บริโภคได้ปิดท้ายมื้ออร่อยในร้านอาหาร เติมเต็มประสบการณ์ความอร่อยให้ครบจบในร้านเดียว ในขณะเดียวกัน ร้านอาหารที่เป็นคู่ค้าของเราก็จะได้ประโยชน์ในเรื่องความสะดวกในการบริการ ด้วยไอศกรีมรูปแบบถ้วยที่สะดวกต่อการเสิร์ฟและขนาดเหมาะสมต่อการรับประทานปิดท้ายมื้ออาหาร"

"นอกจากนี้ ไอศกรีมของเรายังมีให้เลือกหลากหลายรสชาติ ถูกใจผู้บริโภคทุกวัย ดังนั้นมั่นใจได้ว่าตอบโจทย์ทุกความชอบ ไม่ว่าจะเป็นรสชาติที่คุ้นเคย ทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพ อีกหนึ่งปัจจัยสร้างความสำเร็จของเราก็คือการที่เนสท์เล่ ไอศกรีม เป็นแบรนด์ที่แข็งแกร่งและเป็นที่รู้จัก ผู้บริโภคให้ความไว้วางใจ ดึงดูดผู้บริโภคได้ด้วยความเป็นเนสท์เล่ ไอศกรีม"

ไอศกรีมเนสท์เล่สำหรับช่องทางร้านอาหารมีให้เลือกถึง 7 รสชาติยอดนิยมที่ผู้บริโภคชาวไทยชื่นชอบ ได้แก่ ไมโล คิทแคท โอริโอ เนสทีชาไทย ลาฟรุ๊ตต้า โยเกิร์ตสตรอว์เบอร์รี เนสท์เล่ กะทิ และ เนสท์เล่ ช็อกชิพ ผลิตภัณฑ์กลุ่มนี้มาพร้อมกับโลโก้เนสท์เล่ ไอศกรีม สีทอง ที่ทำให้เกิดความแตกต่างจากผลิตภัณฑ์เนสท์เล่ ไอศกรีมรูปแบบอื่น ๆ และสื่อถึงความเป็นผู้นำอุตสาหกรรมไอศกรีมของเนสท์เล่ ไอศกรีมอีกด้วย

เพื่อตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลาย ผลิตภัณฑ์กลุ่มนี้มีให้เลือกทั้งแบบที่เหมาะกับคนใส่ใจสุขภาพ เช่น รสลาฟรุ๊ตต้า โยเกิร์ต สตรอว์เบอร์รีที่มอบความสดชื่นแบบเบา ๆ เพียง 80 กิโลแคลอรี่ต่อถ้วย หรือไมโล รสชาติอร่อยเข้มข้น ให้พลังงานไม่เกิน 120 กิโลแคลอรี่ต่อถ้วย สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของเนสท์เล่ในด้านการส่งเสริมการกินอยู่อย่างสมดุล เลือกประเภทอาหารที่เหมาะสม ในปริมาณที่เหมาะสม นอกจากนี้ กลุ่มผลิตภัณฑ์นี้ยังสะท้อนความใส่ใจเรื่องความยั่งยืนของเนสท์เล่ โดยใช้บรรจุภัณฑ์ที่ทำมาจากกระดาษที่ออกแบบมาให้นำไปรีไซเคิลได้ แสดงถึงความมุ่งมั่นเรื่องความยั่งยืนด้านบรรจุภัณฑ์

ผลิตภัณฑ์เนสท์เล่ ไอศกรีมสำหรับช่องทางร้านอาหาร เริ่มจำหน่ายแล้วที่ร้านอาหารต่าง ๆ ในกรุงเทพฯ โดยมีแผนขยายไปยังจังหวัดอื่น ๆ ในอนาคตอันใกล้นี้

ที่มา: เอบีเอ็ม คอนเนค