สำหรับความคืบหน้าการดูแลรักษาในขณะนี้ ทีมแพทย์ได้ดูแลรักษาต่อจากภาวะหัวใจหยุดเต้นจนสามารถถอดเครื่องช่วยหายใจและหยุดยากระตุ้นการทำงานของหัวใจได้แล้ว อย่างไรก็ตาม พบว่าผู้ป่วยมีภาวะแทรกซ้อนจากสมองขาดออกซิเจน มีปัญหาเรื่องการมองเห็น การเคลื่อนไหว การดูดกลืน และความผิดปกติของการพูด โดยทีมกุมารแพทย์ กุมารแพทย์ประสาทวิทยา จักษุแพทย์และทีมสหสาขาวิชาชีพได้ให้การดูแลรักษาและปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจากโรงเรียนแพทย์ พร้อมประสานงานส่งตัวไปรักษาบำบัดด้วยออกซิเจนภายใต้ความกดบรรยากาศสูงที่โรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า ปัจจุบันผู้ป่วยเริ่มมองเห็นสีได้ในระยะใกล้ ส่วนด้านการเคลื่อนไหวเริ่มทรงตัวพยุงให้นั่งได้ ซึ่งทีมแพทย์ได้ประเมินอาการอย่างต่อเนื่องและดูแลอย่างใกล้ชิด
นอกจากนี้ โรงพยาบาลได้ประสานให้ข้อมูลการรักษาพยาบาลกับผู้ปกครองอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งให้คำแนะนำเรื่องเงินชดเชยตามกฎหมายมาตรา 41 และดูแลเรื่องค่าเดินทางไปตรวจรักษาเพิ่มเติม ค่ายาที่เบิกไม่ได้ และให้เงินช่วยเหลือผู้ปกครองที่ไม่สามารถทำงานได้ ขณะเดียวกันโรงพยาบาลได้ทบทวนมาตรฐานการดูแลคนไข้ และปรับปรุงให้ดีขึ้น เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก โดย สนพ. ได้หารือร่วมกับทีมทนายอนันต์ชัยและผู้ปกครองของผู้ป่วย เพื่อวางแผนแนวทางการรักษา โดยจะขอความเห็นการรักษาเพิ่มเติมจากทีมแพทย์ผู้เชียวชาญโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ เพื่อเพิ่มความมั่นใจและให้การรักษาฟื้นฟูผู้ป่วยให้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งได้แนะนำและจะดำเนินการเรื่องการขอเยียวยามาตรา 41 ตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2545 เพื่อเยียวยาผู้เสียหายจากการรับบริการสาธารณสุขให้กับผู้ปกครองเด็กต่อไป
ที่มา: กรุงเทพมหานคร