DTCENT ลุยเปิดศูนย์ฝึกอบรมขับขี่ปลอดภัยบนถนนดึง AI พัฒนาผลิตภัณฑ์โซลูชันให้บริการครบวงจรมั่นใจหนุนรายได้ปี 68 เติบโต 10-15% ตามนัด

บมจ.ดี.ที.ซี. เอ็นเตอร์ไพรส์ (DTCENT) รุกเปิดศูนย์ฝึกอบรมด้านความปลอดภัยบนถนน ด้วย 3 หลักสูตร Defensive Driving Course - Transport Safety Management - Psychophysical Driving Test จากวิทยากรมืออาชีพ ฟากบิ๊กบอส "ทศพล คุณะเพิ่มศิริ" มั่นใจหนุนรายได้ปี 68 เติบโต 10-15% ตามแผน พร้อมนำ AI พัฒนาผลิตภัณฑ์โซลูชันและให้บริการครบวงจร ตอบโจทย์ความต้องการลูกค้า

Monday 19 May 2025 11:46
DTCENT ลุยเปิดศูนย์ฝึกอบรมขับขี่ปลอดภัยบนถนนดึง AI พัฒนาผลิตภัณฑ์โซลูชันให้บริการครบวงจรมั่นใจหนุนรายได้ปี 68 เติบโต 10-15% ตามนัด

นายทศพล คุณะเพิ่มศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ดี.ที.ซี. เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) (DTCENT) ผู้นำในการให้บริการระบบ GPS Tracking อันดับ 1 ในประเทศไทย (อ้างอิงจากข้อมูลกรมการขนส่งทางบกในเดือนมกราคม 2568) เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้เปิดศูนย์ฝึกอบรมด้านความปลอดภัยบนถนน โดยให้บริการฝึกอบรม 3 หลักสูตร ประกอบด้วย 1.หลักสูตรการขับขี่เชิงป้องกันอุบัติเหตุ การขับขี่เชิงป้องกันเป็นแนวทางที่ช่วยให้การเดินทางบนถนนปลอดภัยยิ่งขึ้น Defensive Driving Course (DDC) 2.หลักสูตรบุคลากรจัดการด้านความปลอดภัยในการขนส่งทางถนน Transport Safety Management (TSM) 3.ประเมินความพร้อมทางร่างกายของผู้ขับขี่ Psychophysical Driving Test การทดสอบนี้ใช้เครื่องมือและอุปกรณ์มาตรฐานสากล ประเมินเชิงลึกถึงความสามารถพื้นฐานทางร่างกายของคนขับรถ ที่จำเป็นต่อการขับขี่อย่างปลอดภัย เพื่อให้มั่นใจว่า ผู้ขับขี่มีคุณสมบัติเหมาะสม หรือทราบข้อบกพร่องที่ควรต้องระมัดระวัง เพื่อการขับขี่อย่างปลอดภัย

"การเปิดศูนย์ฝึกอบรมด้านความปลอดภัยบนถนน เพื่อสร้างมาตรฐานใหม่ และพัฒนาทักษะให้กับพนักงานขับรถ ด้วย 3 หลักสูตร หลังจบหลักสูตรจะได้ Certificate รับรองมาตรฐานอีกด้วย เพื่อสนับสนุนความปลอดภัยบนท้องถนนและขับเคลื่อนอุตสาหกรรมขนส่งของประเทศไทยให้ก้าวหน้าอย่างยั่งยืน โดยมีหลายบริษัทที่สนใจเข้ารับการฝึกอบรมแล้ว ซึ่งสามารถรับรู้รายได้ทันที" นายทศพล กล่าว

สำหรับความร่วมมือกับ 2 พันธมิตรทางธุรกิจ ประกอบด้วย บริษัท ยาซากิ เอ็นเนอร์จี ซิสเท็ม คอร์ปอเรชั่น (YES) ร่วมกันศึกษาการทำตลาดด้าน OEM สำหรับอุปกรณ์ GPS Tracking และ Telematics ไปยังกลุ่มประเทศในอาเซียน ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้รับใบ Certificate IATF 16949 ระบบมาตรฐานการจัดการติดตั้งอุปกรณ์สำหรับผู้ผลิตยานยนต์เรียบร้อยแล้ว สามารถเริ่มงาน OEM สำหรับอุปกรณ์ GPS Tracking และ Telematics ได้ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ส่วนบริษัท บุญรอด ซัพพลายเชน จำกัด (BRS) ปัจจุบันมีการรับงานโครงการร่วมกัน โดยขยายการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการในรูปแบบใหม่ ด้าน Supply Chain

ส่วนแผนการดำเนินธุรกิจในปี 2568 บริษัทฯ มุ่งสู่การเป็นผู้นำเทคโนโลยี GPS & IoT เพื่อยกระดับความปลอดภัยและประสิทธิภาพการขนส่งครบวงจร โดยการนำ AI มาพัฒนาผลิตภัณฑ์และโซลูชันใหม่ๆ และการให้บริการอย่างครบวงจร ทั้ง GPS Tracking, Mobile DVR, IoT Solution, Solution Matching Platform เช่น งานพัฒนาโครงการเทศบาลนครรังสิตสู่เมืองอัจฉริยะ โดยใช้แอปพลิเคชันสำหรับเมืองอัจฉริยะ (Rangsit City App) ขณะเดียวกัน งานด้านระบบ BAMS (Business Activity Management System) ได้เปิดให้บริการบนเว็บไซต์และแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟนเรียบร้อยแล้ว มีจำนวนลูกค้าที่ใช้บริการ 42 บริษัท และการออกแบบพัฒนาสินค้าฮาร์ดแวร์ ระบบซอฟต์แวร์ ตลอดจนให้บริการซ่อมบำรุงหลังการขาย ตลอด 24 ชั่วโมง การเปิดศูนย์บริหารจัดการและบริการข้อมูลยานพาหนะ Vehicle Monitoring and Support Center ได้เปิดให้บริการงานมอนิเตอร์ให้กับลูกค้าแล้ว

นอกจากนี้ ยังเดินหน้าเปิดศูนย์ DTC SHOP ให้ครบ 20 สาขา ภายในปีนี้ โดยปัจจุบันเปิดให้บริการแล้ว 15 สาขา มั่นใจรายได้ปี 68 เติบโต 10-15% ตามแผนงานที่วางไว้

ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/2568 (สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2568) มีรายได้รวม 177.25 ล้านบาท และ มีกำไรสุทธิ 26.23 ล้านบาท