เดอะ คอฟฟี่ คลับ (The Coffee Club) เดินหน้าต่อยอดความสำเร็จการเป็น Neighborhood Cafe ของไทยต่อเนื่อง ชูกลยุทธ์การขยายฐานลูกค้าและพัฒนาประสบการณ์ร้านให้ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่โดยเฉพาะกลุ่มเป้าหมายลูกค้าคนไทยให้มากขึ้น ล่าสุดปรับโฉมสาขาสามย่านมิตรทาวน์ ภายใต้คอนเซปต์ Learning Cafe เติมเต็มพื้นที่ Co-Living & Education Space พร้อมเปิดตัว 7 เมนูสุขภาพใหม่ภายใต้ชื่อ "SUPERFRUIT BOOSTER & SUMMER POKE BOWL" ตอบรับกระแสรักสุขภาพและเทรนด์การทำงานนอกสถานที่ที่เติบโตต่อเนื่อง ควบคู่ไปกับแผนรีโนเวทและขยายสาขาในทำเลศักยภาพทั่วประเทศ ตอกย้ำภาพลักษณ์แบรนด์ที่เป็นมากกว่าคาเฟ่ แต่เป็นพื้นที่สร้างช่วงเวลาดี ๆ ให้กับทุกวัน
นางนงชนก สถานานนท์ ผู้จัดการทั่วไป เดอะ คอฟฟี่ คลับ ภายใต้การดำเนินงานของ บริษัท เอ็มเอฟ คาเฟ่ แอนด์ เรสเตอรองต์ จำกัด กล่าวว่า "จากภาพรวมการดำเนินธุรกิจของเดอะ คอฟฟี่ คลับ และความสำเร็จในช่วงไตรมาสที่ 1 ปี 2568 ที่ผ่านมา สะท้อนให้เห็นถึงการดำเนินงานที่ตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมาย โดยเฉพาะลูกค้าคนไทยที่มีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น จากกลยุทธ์ที่เข้าใจพฤติกรรมผู้บริโภคยุคใหม่ที่ต้องการความหลากหลายและความสะดวกสบาย ทั้งการเปิดตัวเมนูใหม่และแคมเปญส่งเสริมการขายอย่างต่อเนื่อง การขยายฐานสมาชิกผ่านแอปพลิเคชันและ Loyalty Program ที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงปัจจัยหลักอย่างการขยายสาขาในทำเลศักยภาพ"
จากความสำเร็จดังกล่าว เดอะ คอฟฟี่ คลับ ได้เดินหน้าโมเดล Sustain & Learning Cafe ในทำเลศักยภาพที่สาขาสามย่านมิตรทาวน์ ซึ่งเป็นย่าน Co-Living & Education Hub ใจกลางเมืองที่มีกลุ่มนักศึกษาและคนทำงานรุ่นใหม่เป็นกลุ่มหลัก ด้วยการปรับโฉมร้านครั้งใหญ่ เพื่อให้ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่ที่ให้ความสำคัญกับพื้นที่ที่สามารถใช้งานได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการทำงาน ประชุมกลุ่ม อ่านหนังสือ หรือพักผ่อนในบรรยากาศสบาย ๆ โดยการปรับโฉมครั้งนี้ได้ออกแบบพื้นที่ให้รองรับการใช้ชีวิตหลากหลาย ตั้งแต่ Working & Reading Zone ที่มี Wi-Fi และปลั๊กไฟทุกมุม เพื่อให้รองรับการนั่งทำงานหรืออ่านหนังสือได้ตลอดวัน และ Dining Zone สำหรับการพักผ่อนและรับประทานอาหารในบรรยากาศอบอุ่นเป็นกันเอง
นอกจากนี้ยังเพิ่มพื้นที่ Co-Living ที่เปิดโอกาสให้ลูกค้าใช้เป็นพื้นที่นัดหมายกลุ่มย่อย หรือประชุมงานแบบไม่เป็นทางการได้อย่างสะดวก พร้อมตกแต่งในโทนสีสดใส ทันสมัย ผสมผสานงานดีไซน์กลิ่นอายโมเดิร์นที่สะท้อนตัวตนของกลุ่ม Gen Z และ First Jobber ได้อย่างชัดเจน โดยเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ไม้ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย สบายตา และน้ำหนักเบา สามารถเคลื่อนย้ายปรับเปลี่ยนได้ง่าย พร้อมจัดวางโต๊ะ-เก้าอี้แบบยืดหยุ่น รองรับการใช้งานที่หลากหลาย พร้อมกันนี้ยังมีมุม Bar Connect เป็นพื้นที่นั่งแบบสตูบาร์สูงติดกับเคาน์เตอร์ครัวกลางร้าน ให้ลูกค้าสามารถนั่งดื่มเครื่องดื่มโปรด อีกทั้งมุมนี้ยังออกแบบให้เป็นมุมสำหรับถ่ายภาพลงโซเชียลได้ ช่วยเสริมภาพลักษณ์แบรนด์ให้ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่อย่างแท้จริง โดยตั้งเป้าให้สาขานี้เป็นแลนด์มาร์กคาเฟ่ของนิวเจน เพื่อสร้างยอดขายและขยายฐานสมาชิกใหม่ ๆ ให้มีสัดส่วนลูกค้าคนไทย 40% ต่างชาติ 60% ตามแผนที่วางไว้
พร้อมกันนี้ยังได้เปิดตัวเมนูสุขภาพใหม่ 7 เมนู ตอบรับกระแสเฮลท์ตี้ที่ยังเติบโตอย่างต่อเนื่อง ประกอบด้วยเมนู SUPERFRUIT BOOSTER สมูทตี้จากผลไม้คุณประโยชน์สูง 4 เมนู ประกอบด้วย ดราก้อนคิส (Dragon Kiss) สมูทตี้แก้วมังกร ลิ้นจี่พร้อมโปรตีนอัลมอนด์ กัววา ปาร์ตี้ (Guava Party) สมูทตี้ฝรั่ง บ๊วย น้ำผึ้ง และกรีกโยเกิร์ต เวคมีออเรนจ์ (Wake Me Orange) สมูทตี้กาแฟส้ม พร้อมโปรตีนอัลมอนต์ และ มะยงชิดเมจิก (Mayongchid Magic) สมูทตี้มะยงชิด บลูสไปรูลินา พร้อมโปรตีนอัลมอนด์
อีกทั้งยังมีเมนูสุขภาพแนวเฮลท์ตี้โบวล์อย่าง SUMMER POKE BOWL อีก 3 เมนู ประกอบด้วย โบวล์สลัดผัก และไก่เสิร์ฟพร้อมน้ำสลัดชิลลี่มาโยวาซาบิ (Veggie Poke Bowl with Chicken) โบวล์ควินัว กุ้งสไปซี่ และผักสดเสิร์ฟพร้อมน้ำสลัดชิลลี่มาโยวาซาบิ (Quinoa Poke Bowl with Chilli Mayo Shrimp) และโบวล์ควินัวและแซลมอนแอตแลนติกเสิร์ฟพร้อมน้ำสลัดงาวาซาบิ (Quinoa Poke Bowl Atlantic Salmon Bowl)
โดยทั้ง 3 เมนู สามารถเลือกปรับเบสเป็น ผักเรดโอ๊คและกรีนโอ๊ค หรือ ควินัว รวมถึงเนื้อสัตว์สามารถเลือกรับเป็น แซลมอนแอตแลนติก กุ้งซอสพริก หรือ ไก่ ในขณะที่น้ำสลัดก็มีให้เลือกได้ตามชอบทั้ง น้ำสลัดชิลลี่มาโยวาซาบิ หรือน้ำสลัดงาญี่ปุ่น เริ่มวางจำหน่ายแล้วตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 31 กรกฎาคม 2568 ครอบคลุมทุกช่องทาง ทั้งรับประทานที่ร้านในสาขาที่ร่วมรายการ และช่องทางเดลิเวอรีผ่านแอปพลิเคชัน
"ในขณะที่ช่วงครึ่งปีหลัง 2568 เดอะ คอฟฟี่ คลับ ยังเดินหน้าปรับภาพลักษณ์และยกระดับสาขาเดิม ด้วยแผนรีโนเวทกว่า 10 สาขาทั่วประเทศ ทั้งในกรุงเทพฯ และหัวเมืองท่องเที่ยวสำคัญ เพื่อเพิ่มศักยภาพในการรองรับกลุ่มลูกค้าที่หลากหลาย พร้อมจัดโซนพื้นที่และการตกแต่งให้ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ยุคใหม่มากขึ้น จากการดำเนินงานที่กล่าวข้างต้น เดอะ คอฟฟี่ คลับ เชื่อมั่นว่า จะได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้บริโภคโดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ ๆ ที่จะมาช่วยขับเคลื่อนการเติบโตในภาพรวมให้เป็นไปตามเป้าหมาย ตอกย้ำภาพลักษณ์ 'Neighborhood Cafe' ที่เป็นมากกว่าคาเฟ่
แต่เป็นพื้นที่เติมเต็มช่วงเวลาดี ๆ ให้เกิดขึ้นได้ทุกวัน" นางนงชนก กล่าวสรุป
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อฝ่ายประชาสัมพันธ์ เดอะ คอฟฟี่ คลับ (The Coffee Club) โทรศัพท์ 02-365-6999 เฟซบุ๊กแฟนเพจ https://www.facebook.com/thecoffeeclubthailand หรือเว็บไซต์ https://thecoffeeclub.co.th/
