โครงการ CASSAVASTORE หรือโครงการการศึกษาข้อมูลฟีโนไทป์ จีโนไทป์ และสรีรวิทยาที่เกี่ยวข้องกับการเจริญพัฒนาของรากสะสมอาหารของมันสำปะหลัง (Manihot esculenta Crantz) เพื่อประโยชน์สำหรับงานปรับปรุงพันธุ์เพื่อเพิ่มผลผลิตมันสำปะหลังของประเทศไทย ได้รับการสนับสนุนงบประมาณรวมกว่า 62 ล้านบาท ดำเนินการโดย สวทช. และ สถาบัน Forschungszentrum Juelich สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี โดยในส่วนของงบประมาณสนับสนุนการวิจัยสถาบัน Julich โดยการดำเนินงานวิจัยของทีมนักวิจัยเยอรมันได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากรัฐบาลเยอรมัน จำนวนเงิน 803,356 ยูโร หรือประมาณ 32 ล้านบาท ส่วนงบประมาณสนับสนุนการวิจัยของทีมนักวิจัยไทยได้รับการสนับสนุนงบประมาณจาก สวทช. ประมาณ 30 ล้านบาท มีระยะเวลาดำเนินงาน 3 ปี ระหว่างปี 2560-2562
หน่วยงานหลักที่ร่วมดำเนินโครงการจากทั้งสองประเทศ ได้แก่ Forschungszentrum Juelich ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (ไบโอเทค) ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค) สวทช. มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) และศูนย์วิจัยพืชไร่ระยอง กรมวิชาการเกษตร
ดร.กอบกุล เหล่าเท้ง รองผู้อำนวยการไบโอเทค สวทช. กล่าวว่า "ผลสำเร็จของโครงการหลังจากสิ้นสุดระยะเวลาโครงการคือประเทศไทยได้ข้อมูลที่สำคัญของลักษณะทางฟีโนไทป์ จีโนไทป์ และสรีรวิทยา ของการเจริญพัฒนาของรากสะสมอาหารของมันสำปะหลังทั้งพันธุ์ไทยและพันธุ์จากต่างประเทศกว่า 600 พันธุ์/สายพันธุ์ ที่เก็บรวมรวมไว้ที่ศูนย์วิจัยพืชไร่ระยอง กรมวิชาการเกษตร ซึ่งข้อมูลเหล่านี้สำคัญต่อการวิจัยและพัฒนาพันธุ์มันสำปะหลังเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตในอนาคต"
Prof. Dr. Uwe Rascher ผู้แทนสถาบัน Institute of Bio- and Geosciences (IBG-2), Forschungszentrum Juelich กล่าวถึงความร่วมมือครั้งนี้ว่า "เรามีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับนักวิจัยไทยในการนำเทคโนโลยี Magnetic Resonance Imaging (MRI) จากสถาบัน Julich มาประยุกต์ใช้ในการวิเคราะห์ฟีโนไทป์และสรีรวิทยาร่วมกับการพัฒนา VDO box โดยเนคเทคเพื่อถ่ายภาพการเจริญพัฒนาของรากสะสมอาหารของมันสำปะหลังทั้ง 600 พันธุ์/สายพันธุ์ สามารถตรวจสอบปัจจัยและกระบวนการสำคัญที่มีผลในการเจริญเติบโตและการพัฒนารากสะสมอาหารของมันสำปะหลังได้อย่างแม่นยำ ซึ่งนับเป็นความก้าวหน้าครั้งสำคัญในงานวิจัยด้านการเกษตรไทยและภูมิภาค"
ด้าน ดร. ศิษเฎศ ทองสิมา ผู้อำนวยการ ธนาคารทรัพยากรชีวภาพแห่งชาติ (NBT) ไบโอเทค สวทช. เสริมว่า "ข้อมูลที่ได้จากโครงการนี้ ได้รับการจัดเก็บอย่างเป็นระบบไว้ที่ NBT และพร้อมเปิดให้เข้าถึงสำหรับนักวิจัยและผู้พัฒนาพันธุ์พืชทั่วโลกเร็วๆนี้ โดยตั้งเป้าให้เป็นแหล่งข้อมูลพันธุกรรมมันสำปะหลังที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก"
Dr. Tobias Wojciechowski นักวิจัยอาวุโสจาก สถาบัน IBG-2 at Forschungszentrum Juelich กล่าวว่า "ความร่วมมือระหว่างนักวิจัยไทยและเยอรมันในโครงการ CASSAVASTORE ไม่เพียงสร้างฐานข้อมูลฟีโนไทป์และจีโนไทป์ของมันสำปะหลังขนาดใหญ่ระดับโลกเท่านั้น แต่ยังแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของการวิจัยข้ามพรมแดนที่สามารถยกระดับการเกษตรของไทยให้ก้าวสู่การเป็นผู้นำในด้านการพัฒนาพันธุ์พืชอย่างยั่งยืน"
ฐานข้อมูลที่พัฒนาในโครงการนี้จะเป็นทรัพยากรสำคัญสำหรับนักวิจัย นักปรับปรุงพันธุ์ และผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมการเกษตรทั่วโลกในการขับเคลื่อนการผลิตมันสำปะหลังที่มีประสิทธิภาพ ทนทานต่อโรค และปรับตัวได้ในหลากหลายสภาพแวดล้อม เพื่อรองรับความมั่นคงทางอาหารของโลกในอนาคต
