ข้อตกลงครั้งนี้นับเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญในกลยุทธ์การเติบโตของเวียตเจ็ทในฐานะกลุ่มธุรกิจการบินข้ามชาติ และสะท้อนถึงความร่วมมือทางเศรษฐกิจที่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นระหว่างเวียดนาม ฝรั่งเศส และทวีปยุโรป
การสั่งซื้อล็อตใหม่นี้เกิดขึ้นต่อเนื่องจากการยืนยันคำสั่งซื้อเครื่องบินลำตัวกว้าง A330neo จำนวน 20 ลำเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ส่งผลให้เวียตเจ็ทมีคำสั่งซื้อเครื่องบินรุ่นนี้รวม 40 ลำ
นางเหวียน ถิ เฟือง เถา ประธานสายการบินเวียตเจ็ท กล่าวว่า "เรามีความมุ่งมั่นที่จะผลักดันเวียดนามให้เป็นศูนย์กลางการบินแห่งภูมิภาค ทั้งในด้านการขนส่งผู้โดยสาร บริการด้านเทคนิค โลจิสติกส์ การฝึกอบรม งานวิจัย และโครงสร้างพื้นฐานการบิน ข้อตกลงกับแอร์บัสในวันนี้ไม่ใช่แค่เพียงสัญญาทางธุรกิจ แต่คือจุดเริ่มต้นของการเดินทางครั้งใหม่ของเวียตเจ็ทสู่ระดับโลก เพื่อการเติบโตที่ยั่งยืน เชื่อมต่อโลกอย่างไร้ขีดจำกัด พร้อมสร้างระบบนิเวศการบินแห่งอนาคต"
"ข้อตกลงนี้เกิดขึ้นหลังเวียตเจ็ทยืนยันสั่งซื้อ A330neo เมื่อไม่นานมานี้ A321neo และ A330neo ถือเป็นคู่หูที่สมบูรณ์แบบในการขยายเครือข่ายเส้นทางของเวียตเจ็ทอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งสองรุ่นยังใช้เทคโนโลยีร่วมกัน ซึ่งช่วยลดต้นทุนและเพิ่มความยืดหยุ่นในการปฏิบัติการ" นาย Benoit de Saint-Exupery รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายขายธุรกิจเครื่องบินพาณิชย์ แอร์บัส กล่าว
เครื่องบิน A321neo เป็นรุ่นใหญ่ที่สุดในตระกูล A320neo ซึ่งเป็นเครื่องบินยอดนิยมของแอร์บัส มาพร้อมห้องโดยสารทางเดินเดี่ยวที่กว้างที่สุดในโลก มอบความสะดวกสบายสูงสุด พร้อมติดตั้งเครื่องยนต์รุ่นใหม่และปลายปีก Sharklets ช่วยลดเสียงรบกวนลงถึงร้อยละ 50 และลดการใช้เชื้อเพลิงรวมถึงการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลงได้มากกว่าร้อยละ 20 เมื่อเทียบกับรุ่นก่อน
เครื่องบินรุ่นนี้ยังรองรับการใช้เชื้อเพลิงการบินแบบยั่งยืน (SAF) ได้สูงสุดถึงร้อยละ 50 และตั้งเป้าจะรองรับ SAF ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ภายในปี 2573
ในวันเดียวกัน เวียตเจ็ทยังลงนามสั่งซื้อเครื่องยนต์ Rolls-Royce Trent 7000 เพิ่มอีก 40 เครื่อง ส่งผลให้ยอดรวมคำสั่งซื้อเครื่องยนต์รุ่นนี้อยู่ที่ 80 เครื่อง นับตั้งแต่เปิดตัวครั้งแรกในงาน Singapore Airshow 2024
เครื่องยนต์ Trent 7000 เป็นเครื่องยนต์เฉพาะสำหรับ A330neo และเป็นสมาชิกใหม่ล่าสุดในตระกูล Trent ของ Rolls-Royce ด้วยชั่วโมงบินสะสมกว่า 3 ล้านชั่วโมง เน้นย้ำความน่าเชื่อถือและประสิทธิภาพสูงสุด ทั้งนี้ เครื่องยนต์ทั้งหมดจะอยู่ภายใต้โปรแกรมดูแลรักษา TotalCare(R) พร้อมระบบติดตามสุขภาพแบบเรียลไทม์ เพื่อเพิ่มความพร้อมใช้งานและประสิทธิภาพการบินในระยะยาว
ปัจจุบัน เวียตเจ็ทมีฝูงบินที่ทันสมัยกว่า 120 ลำ และยังมีคำสั่งซื้อเครื่องบินอีกกว่า 400 ลำในอนาคต ขณะที่จำนวนผู้โดยสารยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง เวียตเจ็ทยังคงเดินหน้าขยายเส้นทางบินทั่วโลก ควบคู่กับการยกระดับฝูงบินผ่านความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ในระดับนานาชาติ