"ทั้งนี้ การที่เด็กทารกที่ได้รับนมจากแม่คนอื่น อาจได้รับสารอาหารที่ไม่เหมาะสมกับวัยพัฒนาการของลูกหรือ เกิดภาวะแพ้โปรตีนในนมแม่ ย่อยไม่ดี ท้องอืด ท้องเสีย เพราะน้ำนมของแม่แต่ละคนเหมาะกับลูกของตัวเองเท่านั้น เพราะมีสารต้านทานโรคเฉพาะบุคคล มีเอนไซม์ที่เข้ากับระบบย่อยของทารกแต่ละคน และปรับเปลี่ยนตามพัฒนาการของลูกน้อย ดังนั้น เพื่อความปลอดภัย กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข เตือนประชาชนถึงอันตรายจากการซื้อขาย "นมแม่" ผ่านช่องทางออนไลน์ และแนะนำให้ผู้ที่ต้องการบริจาคนมแม่หรือผู้ที่ต้องการนมแม่สำหรับบุตรหลาน หากมีความจำเป็นต้องให้นมจากแม่คนอื่น ให้ใช้บริการ "ธนาคารน้ำนมแม่" จากโรงพยาบาลรัฐหรือมหาวิทยาลัย ซึ่งมีระบบการทำงานที่ได้มาตรฐานและปลอดภัย โดยมีการตรวจเลือด มีการพาสเจอร์ไรซ์น้ำนม และมีการควบคุมอุณหภูมิและวันหมดอายุ หรือ รับคำแนะนำจากบุคลากรสาธารณสุขเพื่อให้สามารถให้นมแม่ได้อย่างถูกวิธี ต่อเนื่อง และปลอดภัยสูงสุดสำหรับลูกน้อย กรมอนามัยขอเป็นกำลังใจให้คุณแม่สามารถเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียวในช่วง 6 เดือนแรก และนมแม่ร่วมกับอาหารตามวัยเหมาะสมถึง 2 ปีหรือนานกว่า ตามข้อเสนอแนะขององค์การอนามัยโลก (WHO) และองค์การยูนิเซฟ ซึ่งเป็นการลงทุนด้วยต้นทุนน้อยแต่ประโยชน์ที่ได้กลับมาสูงสุด ให้เด็กมีสุขภาวะ และเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพของประเทศและโลกต่อไป" อธิบดีกรมอนามัย กล่าว
