สำหรับในสัปดาห์นี้ กรุงศรี โกลบอลมาร์เก็ตส์ คาดว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะตรึงดอกเบี้ยไว้ที่ 4.25-4.50% ในการประชุมวันที่ 29-30 กรกฎาคม แม้จะถูกรัฐบาลทรัมป์วิจารณ์อย่างหนัก ขณะที่ตลาดจะติดตามข้อมูลจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนก.ค.ของสหรัฐฯ ทางด้านธนาคารกลางญี่ปุ่น(บีโอเจ)มีแนวโน้มคงนโยบายในการประชุมวันที่ 31 กรกฎาคม แม้ข้อตกลงการค้ากับสหรัฐฯช่วยลดระดับความไม่แน่นอนสำหรับเศรษฐกิจ แต่ความไม่แน่นอนทางการเมืองในญี่ปุ่นอาจจำกัดการแข็งค่าของเยน ขณะที่หนึ่งในแคนดิเดตนายกฯญี่ปุ่นท่านถัดไปมีอุดมการณ์สอดคล้องกับแนวคิด Abenomics ซึ่งมุ่งเน้นนโยบายการเงินและการคลังที่ผ่อนคลาย นอกจากนี้ การบรรลุดีลการค้าระหว่างสหรัฐฯกับคู่ค้าสำคัญก่อนเส้นตาย 1 สิงหาคม ยังช่วยหนุนค่าเงินดอลลาร์ อนึ่ง สหรัฐฯจะเก็บภาษี 15% กับสินค้าจากสหภาพยุโรป และมีแนวโน้มจะขยายกรอบเวลาระงับอัตราภาษีศุลกากรระดับสูงกับจีนไปอีก 90 วัน
สำหรับปัจจัยในประเทศ กระทรวงพาณิชย์รายงานมูลค่าส่งออกเดือนมิถุนายนของไทยเติบโต 15.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่ครึ่งปีแรกการส่งออกขยายตัว 15.0% แต่คาดว่าจะชะลอตัวลงในช่วงครึ่งหลังของปีจากภาษีการค้าสหรัฐฯ ทางด้านอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทยแตะจุดต่ำสุดนับตั้งแต่วิกฤติโควิด ขณะที่ตลาดประเมินว่าทางการอาจลดดอกเบี้ยนโยบายเชิงรุกมากขึ้นภายใต้ว่าที่ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยท่านใหม่