สำหรับข้อสังเกตว่าสำนักงานเขตฯ ควรใช้กฎหมายบังคับ แต่กลับมีการไกล่เกลี่ยนั้น เนื่องจากผู้บุกรุกมีลักษณะอยู่อาศัยมาก่อนที่จะแบ่งหักโอนเป็นที่สาธารณประโยชน์ สำนักงานเขตฯ จึงใช้มาตรการสร้างความเข้าใจและเปิดโอกาสให้คู่กรณีชี้แจงข้อเท็จจริงตามกฎหมายและวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง โดยดำเนินการจากเบาไปหาหนัก ก่อนใช้มาตรการบังคับทางปกครองที่เข้มงวดขึ้น ส่วนที่ระบุการดำเนินการตามกฎหมายอาจใช้เวลามากกว่า 10 ปีนั้น ไม่ได้เป็นระยะเวลาการดำเนินการตามขั้นตอนของสำนักงานเขตฯ แต่อาจเป็นระยะเวลาดำเนินงานในกระบวนการของผู้บังคับใช้กฎหมายอื่น ๆ
ทั้งนี้ สำนักงานเขตฯ ขอยืนยันว่า ไม่ได้ละเลยการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย เนื่องจากอยู่ระหว่างการดำเนินการทางปกครอง โดยเมื่อวันที่ 24 ก.ค. 68 สำนักงานเขตฯ ได้มีหนังสือเลขที่ กท 5603/2801 ขอความอนุเคราะห์สำนักพระคลังข้างที่ ในฐานะเจ้าของที่ดินผู้ให้เช่า เพื่อประชุมหารือแนวทางแก้ไขร่วมกันในวันที่ 30 ก.ค. 68 แต่เนื่องจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดภารกิจจึงยังไม่สามารถจัดประชุมได้ อย่างไรก็ตาม สำนักงานเขตฯ จะนัดประชุมอีกครั้ง และหากการไกล่เกลี่ยไม่สำเร็จจะดำเนินการแจ้งความดำเนินคดีกับผู้บุกรุกตามกฎหมายต่อไป