ฮิตาชิ เอนเนอร์ยี่ พลังขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านพลังงานของประเทศไทย สู่ Net Zero

ฮิตาชิ เอนเนอร์ยี่ (Hitachi Energy) ชี้ดิจิทัลคือขุมพลังหลักในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาดของประเทศไทย มองว่า Digitalization คือกุญแจสำคัญที่เชื่อมโยง 'พลังงานหมุนเวียน' ให้เข้ากับ 'ความมั่นคงของระบบไฟฟ้า' เพื่อสนับสนุนเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) โดยบริษัทพร้อมยกระดับโครงสร้างพื้นฐานด้านไฟฟ้าของประเทศด้วยนวัตกรรมครอบคลุมนโยบายด้านพลังงานของประเทศแบบครบวงจร เพื่อพลังงานสะอาดของไทยที่มีเสถียรภาพ ประสิทธิภาพ และความยั่งยืน บรรลุเป้าหมายด้านความยั่งยืนของประเทศได้รวดเร็วยิ่งขึ้น

Tuesday 25 November 2025 16:18
ฮิตาชิ เอนเนอร์ยี่ พลังขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านพลังงานของประเทศไทย สู่ Net Zero

ประเทศไทยกับวิสัยทัศน์สู่ Net Zero

ประเทศไทยมุ่งไปสู่ทิศทางของพลังงานคาร์บอนต่ำและความยั่งยืน ผ่านยุทธศาสตร์ Energy Transition ที่ตั้งเป้าหมายเพื่อให้บรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ภายใน พ.ศ. 2593 และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายใน พ.ศ. 2608 ด้วยการขับเคลื่อนโดยเพิ่มสัดส่วนพลังงานหมุนเวียน การส่งเสริมยานยนต์ไฟฟ้า การยกระดับโครงสร้างพื้นฐานเป็นสมาร์ทกริดและการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพโดยล่าสุดเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา กระทรวงพลังงานได้เปิดตัวนโยบาย 'Quick Big Win' เพื่อกำหนดมาตรการสำคัญในการขับเคลื่อนนโยบายสิ่งแวดล้อมและการวางแผนพลังงาน โดยเร่งจัดทำแผน PDP ฉบับใหม่ภายใน 4 เดือนให้สอดคล้องกับเป้าหมาย Net Zero ภายในปี พ.ศ. 2593

ในเวลาเดียวกัน ไทยกำลังพัฒนาให้เป็น 'Digital Hub' แห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงการรองรับการพัฒนาด้าน AI กระทั่งการใช้งาน และบริการดิจิทัลที่เติบโตขึ้น ขณะที่นโยบายด้าน EV และอุตสาหกรรมอัตโนมัติยังคงมีความต่อเนื่อง ทำให้เกิดความต้องการพลังงานสะอาดและเสถียรยิ่งขึ้น นอกจากนี้ล่าสุดรัฐบาลยังสนับสนุนนโยบายโครงการโซล่าฟาร์มชุมชน 1,500 เมกะวัตต์ เพื่อปลดล็อกพลังงานแสงอาทิตย์สู่ฐานรากเศรษฐกิจ เพื่อให้การบรรลุ Net Zero รวดเร็วยิ่งขึ้น ดังนั้นเทคโนโลยีสำหรับการบริหารจัดการพลังงาน 'ระดับมหภาค' จึงกลายเป็นกุญแจสำคัญ เพื่อให้ระบบพลังงานของไทยสามารถผสานความยั่งยืนและความมั่นคงได้อย่างสมดุลบนเส้นทางสู่ Net Zero

เทคโนโลยีดิจิทัลช่วยให้พลังงานหมุนเวียนมีความเสถียรและมีประสิทธิภาพ

ด้วยระบบอัตโนมัติและการวิเคราะห์ข้อมูลแบบเรียลไทม์จะทำให้การจัดการแหล่งผลิตพลังงานที่กระจายอยู่ตามพื้นที่ต่างๆ ให้เป็นไปอย่างแม่นยำ เช่น Grid Automation ช่วยในการวิเคราะห์และปรับสมดุลโหลดไฟฟ้าทันทีที่เกิดความผันผวนในแบบเรียลไทม์ รวมไปถึง การใช้ประโยชน์จาก AI & Data Analytics ช่วยในการบริหารอุปสงค์ และอุปทาน (Demand-Supply) ได้อย่างอัจฉริยะ ดังนั้น ดิจิทัลจึงกลายเป็น 'สะพานเชื่อม' ระหว่าง Renewables (พลังงานสะอาด) กับ Reliability (ความมั่นคงของระบบไฟฟ้า) ซึ่งเป็นหัวใจของการเปลี่ยนผ่านพลังงานในยุคใหม่ของประเทศไทยเพื่อบรรลุเป้าหมายของประเทศอย่างแท้จริง

ฮิตาชิ เอนเนอร์ยี่ เตรียมจัดทัพโซลูชันแห่งอนาคตของประเทศที่พร้อมแล้วในวันนี้

ด้วยประสบการณ์ระดับโลกในเทคโนโลยีพลังงานและโครงข่ายไฟฟ้า ฮิตาชิ เอนเนอร์ยี่ จึงมีโซลูชันและนวัตกรรมครบวงจร เพื่อสร้างระบบไฟฟ้าที่มั่นคง ยั่งยืน และมีความเป็นดิจิทัลที่พร้อมใช้งานสำหรับอนาคตของประเทศไทยตามนโยบาย Energy Transition ซึ่งโซลูชันเหล่านี้มีความสำคัญมาก เนื่องจากระบบไฟฟ้าต้องรองรับการเติบโตของพลังงานหมุนเวียน และการขยายตัวของดาต้าเซ็นเตอร์ยักษ์ใหญ่จากต่างประเทศ ดังนั้นการมีเทคโนโลยีในการจัดการพลังงานที่มีความน่าเชื่อถือ จึงเป็นหัวใจสำคัญที่จะช่วยให้ประเทศก้าวไปสู่การใช้งานพลังงานหมุนเวียนที่มีเสถียรภาพได้อย่างต่อเนื่อง

กลุ่มโซลูชันหลักๆ ได้แก่

Grid-enSure(TM) เทคโนโลยีล้ำหน้าที่ออกแบบมาเพื่อยกระดับความเสถียร ยืดหยุ่น และประสิทธิภาพของระบบโครงข่ายไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน ทำให้สามารถแปลง ควบคุม และบริหารจัดการทิศทางการจ่ายพลังงานภายในกริดได้อย่างรวดเร็ว แม่นยำ และปลอดภัย ช่วยให้ผู้ให้บริการระบบไฟฟ้าสามารถตอบสนองต่อความผันผวนของพลังงานหมุนเวียนได้แบบเรียลไทม์ เพิ่มความมั่นคงให้กับโครงข่ายไฟฟ้า พร้อมรองรับความต้องการพลังงานในอนาคตได้อย่างยั่งยืนโดยประกอบด้วยเทคโนโลยีหลัก ได้แก่

  • STATCOM (Static Synchronous Compensator) ระบบควบคุมแรงดันไฟฟ้าและคุณภาพพลังงานแบบเรียลไทม์ เพื่อรักษาเสถียรภาพของกริด
  • HVDC (High-Voltage Direct Current) ระบบส่งกำลังไฟฟ้าแรงสูงในรูปแบบกระแสตรง ที่สามารถส่งพลังงานได้ไกลขึ้นด้วยการสูญเสียน้อยลง
  • SFC (Static Frequency Converters) อุปกรณ์แปลงความถี่ไฟฟ้า ช่วยให้ระบบที่มีมาตรฐานต่างกันสามารถเชื่อมโยงและทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • BESS (Battery Energy Storage System) ระบบกักเก็บพลังงานอัจฉริยะ ช่วยให้พลังงานต่อเนื่องแม้ในช่วงเวลาที่ผลิตพลังงานได้น้อย ช่วยบริหารจัดการความผันผวนของพลังงานหมุนเวียนได้อย่างลงตัว

EconiQ(TM) มาตรฐานใหม่แห่งกลุ่มอุปกรณ์ไฟฟ้าแรงดันสูง (High Voltage Equipment) ถูกออกแบบภายใต้แนวคิดลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดยไม่ใช้ก๊าซ SF? แต่ยังคงประสิทธิภาพ ความน่าเชื่อถือ และความปลอดภัยเทียบเท่าอุปกรณ์แบบดั้งเดิม ครอบคลุมตั้งแต่ สวิตช์เกียร์ เบรกเกอร์ สามารถขยายขอบเขตการใช้งานได้ถึงระดับแรงดันสูงพิเศษ (Extra-High Voltage) แต่ยังให้ขนาดที่กะทัดรัดและความยืดหยุ่นของการติดตั้ง เช่นเดียวกับอุปกรณ์แบบดั้งเดิม โดยไม่ลดทอนประสิทธิภาพการทำงานหรือความปลอดภัยของระบบ นับว่าเป็นเทคโนโลยีสำหรับไฟฟ้าแรงดันสูงรุ่นใหม่ที่ช่วยลด Carbon Footprint รองรับเป้าหมาย Net Zero และสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับอุตสาหกรรมพลังงานที่ยั่งยืนทั่วโลก

Grid-eXpand(TM) สถานีไฟฟ้าแรงสูงแบบสำเร็จรูป ที่สามารถประกอบ ติดตั้ง และเชื่อมเข้ากับระบบไฟฟ้าได้อย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องสร้างสถานีขนาดใหญ่ใหม่ทั้งหมด เป็นนวัตกรรมโซลูชันแบบโมดูลาร์ และพร้อมใช้งานได้ในทันที (Modular & Prefabricated) สำหรับการเชื่อมต่อโครงข่ายไฟฟ้า (Grid Connection) ซึ่งออกแบบมาเพื่อให้สามารถขยายกริดได้อย่างรวดเร็ว ทั้งยังใช้งานครอบคลุมทุกความต้องการ เช่น การเชื่อมต่อกับโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนที่กระจายตัวและเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โรงงาน โซล่าฟาร์มชุมชน ดาต้าเซ็นเตอร์ เป็นต้น Grid-eXpand(TM) จึงเป็นเทคโนโลยีด้านพลังงานที่ช่วยให้ระบบไฟฟ้าพร้อมสำหรับการขยายตัวได้อย่างมีประสิทธิภาพ

TXpert(TM) Hub เป็นแพลตฟอร์มอัจฉริยะ ช่วยเปลี่ยนหม้อแปลงไฟฟ้าธรรมดาให้เป็นดิจิทัล ไม่ว่าจะเป็นหม้อแปลงไฟฟ้าที่ใช้งานอยู่แล้ว โดยซูลูชันจะมีการติดตั้งเซนเซอร์และเก็บข้อมูล เช่น อุณหภูมิ กระแสไฟ และคุณภาพไฟฟ้า เพื่อช่วยในการวิเคราะห์แนวโน้มเพื่อแจ้งเตือนทันทีเมื่อมีความเสี่ยง นอกจากนี้ยังออกแบบให้เชื่อมต่อกับอุปกรณ์หลากหลาย พร้อมผสานรวมกับความปลอดภัยด้านไซเบอร์ ทำให้ผู้ดูแลระบบไฟฟ้ารู้สถานะหม้อแปลงในแบบเรียลไทม์ ลดความเสี่ยง และวางแผนบำรุงรักษาได้แม่นยำขึ้น

PLC IoT Controller คืออุปกรณ์ควบคุมอัจฉริยะที่รวมความสามารถของ PLC (Programmable Logic Controller) ซึ่งใช้ในงานควบคุมเครื่องจักรและระบบอัตโนมัติในโรงงาน เข้ากับเทคโนโลยี IoT (Internet of Things) เพื่อให้สามารถเชื่อมต่อ ส่งข้อมูล และวิเคราะห์การทำงานแบบเรียลไทม์ผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตได้ อุปกรณ์นี้ช่วยให้โรงงานหรือระบบพลังงานสามารถตรวจสอบสถานะเครื่องจักร คาดการณ์การซ่อมบำรุง (Predictive Maintenance) และควบคุมระบบจากระยะไกลได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ถือเป็นสมองหลักของ "โรงงานอัจฉริยะ" และ "โครงข่ายพลังงานดิจิทัล" ในยุคอุตสาหกรรม 4.0

Service โซลูชันบริการหลังการขายที่ครอบคลุมทุกช่วงอายุของสินทรัพย์ ตั้งแต่การวางแผน การออกแบบ การติดตั้ง การทดสอบ และการบำรุงรักษา ไปจนถึงการยืดอายุการใช้งานและการจัดการเมื่อสิ้นสุดอายุอย่างเป็นระบบ ด้วยการผสานเทคโนโลยี IoT ทำให้สามารถวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกได้แบบแบบเรียลไทม์ ทำให้สามารถคาดการณ์ความเสี่ยงล่วงหน้า และวางแผนซ่อมบำรุงเชิงป้องกัน (Predictive Maintenance) เพื่อป้องกันการหยุดชะงักของระบบไฟฟ้าที่ส่งผลต่อความต่อเนื่องนอกจากนี้ยังครอบคลุมถึง การอัปเกรดและรีโทรฟิต (Upgrade & Retrofit) เพื่อให้สินทรัพย์เดิมสามารถรองรับเทคโนโลยีใหม่ได้โดยไม่ต้องลงทุนใหม่ทั้งหมด ซึ่งเป็นการช่วยลดทั้งค่าใช้จ่าย

พบกับ เทคโนโลยีเพื่อการเปลี่ยนผ่านพลังงานสู่ความยั่งยืน จาก Hitachi Energy ได้ที่งาน IEEE PES GTD Asia 2025 ระหว่างวันที่ 27-29 พฤศจิกายน 2568 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ บูธ C1 บูธแรกหน้าทางเข้า Hall 2-4 ชั้น G พบกับนวัตกรรมระดับโลกตั้งแต่ Grid-enSure(TM), Grid-eXpand(TM), TXpert(TM) Hub, EconiQ(TM) รวมถึงโซลูชันบริการหลังการขาย ที่จะยกระดับระบบไฟฟ้าของประเทศไทยให้เสถียร ปลอดภัย และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมโชว์เคสเทคโนโลยีดิจิทัลพลังงานสุดล้ำที่กำหนดอนาคตของ Energy Transition อย่างแท้จริง

ฮิตาชิ เอนเนอร์ยี่ พลังขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านพลังงานของประเทศไทย สู่ Net Zero
ฮิตาชิ เอนเนอร์ยี่ พลังขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านพลังงานของประเทศไทย สู่ Net Zero
ฮิตาชิ เอนเนอร์ยี่ พลังขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านพลังงานของประเทศไทย สู่ Net Zero
ฮิตาชิ เอนเนอร์ยี่ พลังขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านพลังงานของประเทศไทย สู่ Net Zero
ฮิตาชิ เอนเนอร์ยี่ พลังขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านพลังงานของประเทศไทย สู่ Net Zero
ฮิตาชิ เอนเนอร์ยี่ พลังขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านพลังงานของประเทศไทย สู่ Net Zero