ด้วยจำนวนผู้ใช้งานกว่า 50 ล้านคนต่อเดือนในปัจจุบัน TikTok ได้พัฒนาจากแพลตฟอร์มเพื่อความบันเทิง สู่การเป็น ระบบนิเวศที่ครบวงจร (holistic ecosystem) ที่ไม่เพียงสนับสนุนแบรนด์ MSMEs OTOP และพันธมิตรผ่านอีคอมเมิร์ซเท่านั้น แต่ยังรวมถึงผู้ใช้งาน ครีเอเตอร์ ชุมชน และหน่วยงานกำกับดูแล ผ่านการยกระดับความปลอดภัย การเสริมสร้างความรู้ด้านดิจิทัล ตลอดจนโครงการที่มุ่งต่อต้านกลโกงและส่งเสริมสุขภาวะที่ดี
จนถึง ณ ปัจจุบัน โครงการต่าง ๆ ของ TikTok ได้พัฒนาและยกระดับทักษะความรู้ดิจิทัลให้กับคนไทยไปแล้วกว่า 380,000 คน ขณะที่โครงการต่าง ๆ ที่ขับเคลื่อนผ่านความร่วมมือทางยุทธศาสตร์กับภาครัฐ สร้างยอดขายให้กับธุรกิจ MSMEs ไทยเพิ่มขึ้น 375% ซึ่งการเติบโตนี้มีรากฐานมาจากการลงทุนครั้งสำคัญในศูนย์ข้อมูลและโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล พร้อมด้วย การลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) กับกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (MDES) เพื่อพัฒนาทักษะคนไทยในทุกปีผ่านโครงการการเรียนรู้ตลอดชีวิต
นางชนิดา คล้ายพันธ์ Director of Public Policy for Southeast Asia TikTok กล่าวว่า "วิสัยทัศน์และพันธกิจสำคัญในการร่วมขับเคลื่อนและพัฒนาประเทศไทยไปสู่ความก้าวหน้าระยะยาวของเรา ตั้งอยู่บนสามเสาหลักที่เป็นยุทธศาสตร์สำคัญ ได้แก่ Smart People Trust & Well-being และ Smart Economy โดยเรากำลังลงทุนในพัฒนาทักษะดิจิทัลและความปลอดภัยเพื่อสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจที่จับต้องได้ และสร้างความมั่นใจในสุขภาวะดิจิทัลสำหรับชุมชนของเรา ซึ่งเป็นการเน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นของเราในการเป็นพันธมิตรทางเทคโนโลยีที่มีความรับผิดชอบและมีส่วนร่วมอย่างมีความหมายต่อวาระแห่งชาติของประเทศไทย"
คุณชญาวดี ชัยอนันต์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายองค์กรสัมพันธ์ และโฆษกของธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า "ธนาคารแห่งประเทศไทยมีความมุ่งมั่นอย่างยิ่งในการคุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน และรับมือกับภัยคุกคามที่เพิ่มสูงขึ้นจากกลโกงทางการเงินออนไลน์และการหลอกลวงลงทุน โดยร่วมมือกับ TikTok ผ่านแคมเปญ #คนไทยรู้ทัน ซีซั่น 2 และผนึกกำลังกับหน่วยงานภาครัฐอีก 11 แห่ง เพื่อสร้างความตระหนักรู้และให้ความรู้แก่ประชาชนเกี่ยวกับกลโกงออนไลน์ รูปแบบการหลอกลวงลงทุน ตลอดจนแนวปฏิบัติการใช้อีคอมเมิร์ซอย่างปลอดภัย ขอขอบคุณ TikTok ที่เป็นพันธมิตรที่ดีเสมอมา โดยมุ่งมั่นในการรักษาความปลอดภัยของแพลตฟอร์ม และทุ่มเททรัพยากรอย่างเต็มที่เพื่อสร้างความไว้วางใจ ซึ่งส่งผลโดยตรงให้สาระความรู้ทางการเงินของเราเข้าถึงคนไทยนับล้านได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเรารู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับรางวัล Social Impact Partner of the Year สะท้อนถึงเจตนารมณ์ร่วมกันในการสร้างเศรษฐกิจดิจิทัลที่ปลอดภัยยิ่งขึ้น"
Smart People and Education: พัฒนาและยกระดับทักษะดิจิทัล เสริมความรู้เท่าทันดิจิทัลและพัฒนาการศึกษา
ภายใต้เสาหลัก Smart People and Education ความมุ่งมั่นของ TikTok ด้านการศึกษามุ่งเน้นไปที่การสร้างความพร้อมสำหรับ การเป็นพลเมืองดิจิทัล (digital citizenship) และ การเรียนรู้ตลอดชีวิต (lifelong learning) สำหรับทุกกลุ่มวัย
- การต่อต้านกลโกงออนไลน์: ผ่านการขับเคลื่อนแคมเปญ #Thaisaware หรือ #คนไทยรู้ทัน ซีซั่น 2 เพื่อให้ความรู้เท่าทันกลโกงต่าง ๆ โดยได้ร่วมมือกับ 12 หน่วยงานภาครัฐและองค์กรภาคประชาสังคม เพื่อสร้างการตระหนักรู้เกี่ยวกับกลโกงออนไลน์และการหลอกลวงด้านการลงทุน ภารกิจพัฒนาสังคมที่มีความสำคัญนี้ได้สร้างผลกระทบมหาศาล โดยมียอดวิดีโอที่เกี่ยวข้องกว่า 3.1 ล้านวิดีโอ และยอดชมสูงถึง 17,000 ล้านครั้ง ตั้งแต่ปี 2567 ซึ่งแสดงถึงประสิทธิภาพของความร่วมมือกับหน่วยงานกำกับดูแลและชุมชน
- การสร้างความตระหนักรู้ทางไซเบอร์สำหรับเยาวชน: โครงการอย่าง Saturday School: BMA Online Learning Hub มีนักเรียนระดับมัธยมศึกษากว่า 5,000 คน ที่สำเร็จหลักสูตรความรู้เท่าทันดิจิทัล (digital literacy) รวมถึงการอบรมเชิงลึกเกี่ยวกับภัยไซเบอร์ (cyberbullying) และความปลอดภัยออนไลน์ ซึ่งจัดขึ้น ณ สำนักงาน TikTok สำหรับนักเรียนดีเด่น 50 คน ซึ่งจะถูกนำขึ้นเป็นการเรียนรู้ออนไลน์ต่อไป
- การยกระดับทักษะสำหรับแรงงานในอนาคต: TikTok ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) กับ 6 มหาวิทยาลัยในสังกัดภาครัฐ ราชภัฏ และราชมงคล ในการบรรจุหลักสูตร "พลเมืองดิจิทัลและการรู้เท่าทันสื่อดิจิทัล" (digital citizenship and media literacy) ให้มีการเรียนการสอนเป็นครั้งแรกในประเทศไทย
- ทักษะดิจิทัลเพื่อชุมชน: โครงการ Digital Community Centers For All ที่ร่วมมือกับ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (MDES) กำลังพัฒนาและส่งมอบหลักสูตรอีคอมเมิร์ซฉบับสมบูรณ์ ซึ่งเข้าถึงผู้คนแล้วกว่า 380,000 คน ผ่าน TikTok LIVE ที่ให้ความรู้ และกำลังขยายผลไปยังศูนย์ฯ กว่า 1,500 แห่งทั่วประเทศ
Smart Economy: การส่งเสริมครีเอเตอร์และธุรกิจ MSMEs ไทย
ภายใต้เสาหลัก Smart Economy นั้น TikTok Shop ได้กลายเป็นกลไกขับเคลื่อนที่ทรงพลังสำหรับธุรกิจ MSMEs ของไทยผ่านช่องทางสร้างอาชีพใหม่ให้กับครีเอเตอร์ (Creator) ผู้ขาย (Seller) และ ครีเอเตอร์ติดตระกร้า (Affiliates)
- การสร้างมูลค่าเศรษฐกิจระดับฐานราก: ด้วยความพยายามอย่างต่อเนื่องและความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ แพลตฟอร์มสามารถสร้างยอดขายที่เพิ่มขึ้นถึง 375% ให้กับผู้ประกอบการ MSMEs ท้องถิ่น ซึ่งรวมถึงความร่วมมือโครงการ OTOP กับกระทรวงมหาดไทยที่ประสบความสำเร็จตลอด 3 ปี ในการสนับสนุนผู้ประกอบการ OTOP กว่า 2,000 ราย
- การเสริมพลังเศรษฐกิจครีเอเตอร์ (Creator Economy): แพลตฟอร์มสนับสนุนทั้งเจ้าของผลิตภัณฑ์และบุคคลทั่วไปที่ไม่มีผลิตภัณฑ์เป็นของตนเอง ตัวอย่างเช่น เทศกาลไลฟ์ของคุณเจนนี่ ครีเอเตอร์ติดตะกร้าที่ประสบความสำเร็จในการสร้างรายได้จากค่าคอมมิชชั่น โดยอาศัยทักษะการขายและการตลาดระหว่างการไลฟ์สตรีม ช่วยให้แบรนด์ไทยเป็นที่รู้จักและสร้างยอดขาย แพลตฟอร์มยังคงมุ่งมั่นสร้างการเติบโตอย่างมีความรับผิดชอบโดยยึดมั่นในมาตรฐานคุณภาพของผลิตภัณฑ์ การจดทะเบียนภาษี และเนื้อหาที่เข้มงวด
- การส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์: โครงการ Splash ซึ่งร่วมมือกับ THACCA ได้รวบรวมครีเอเตอร์ที่มียอดผู้ติดตามสูงรวมกันกว่า 56 คนทั่วอาเซียน เพื่อจัดกิจกรรม LIVE นำเสนอวัฒนธรรมในรูปแบบที่สร้างสรรค์ของไทย เป็นการสนับสนุนระบบนิเวศของครีเอเตอร์ในภาพรวมทั้งหมด
ความมุ่งมั่นในการสร้างอิมแพ็คระดับชาติอย่างมีความรับผิดชอบ
การเติบโตของ TikTok ได้พิสูจน์แล้วว่ามีส่วนสำคัญต่อเศรษฐกิจดิจิทัลไทยที่วัดผลได้จริง โดยเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนการจ้างงานในท้องถิ่น และสร้างอาชีพใหม่ ๆ ให้กับทั้งช่างฝีมือ ผู้ขาย ครีเอเตอร์ และครีเอเตอร์ติดตระกร้าที่ช่วยโปรโมตสินค้าหรือบริการในทุกภูมิภาค
TikTok มีจุดยืนที่โดดเด่นในการเร่งผลักดันการเปลี่ยนผ่านด้านดิจิทัลของผู้ประกอบการไทย ควบคู่ไปกับการลงทุนอย่างต่อเนื่องด้านความปลอดภัย และการทำงานอย่างใกล้ชิดกับหน่วยงานกำกับดูแลภาครัฐ เพื่อสร้างความมั่นใจว่าจะเกิดการเติบโตที่ครอบคลุมและยั่งยืนสำหรับคนไทยทุกคน
ก้าวต่อไป: เพื่ออนาคตดิจิทัลที่ยั่งยืนร่วมกัน
โดยสรุป TikTok มีความมุ่งมันที่จะผลักดันวาระการพัฒนาด้านต่าง ๆ ในประเทศไทยด้วยการยึดมั่นในเสาหลัก Smart People and Education (การสร้างคนคุณภาพ) Trust & Well-being (ความน่าเชื่อถือและสุขภาวะที่ดี) และ Smart Economy (เศรษฐกิจอัจฉริยะ) และผ่านความร่วมมืออย่างต่อเนื่องกับหน่วยงานภาครัฐและชุมชน แพลตฟอร์มจึงทุ่มเทเพื่อสร้างสรรค์การมีส่วนร่วมทางดิจิทัลให้เป็นพื้นที่ที่ปลอดภัย เป็นแหล่งเรียนรู้ และสร้างประโยชน์ทางเศรษฐกิจได้จริง ผลักดันให้ประเทศไทยก้าวสู่การเป็นผู้นำในยุคดิจิทัลของภูมิภาค ที่มีความแข็งแกร่งและครอบคลุม