นางสาวบุปผา เรืองสุด อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน เปิดเผยว่า การฝึกทักษะด้านอาชีพให้แก่ทหารก่อนปลดประจำการ เป็นอีกภารกิจที่กรมดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ปีละกว่า 1,000 นาย ป้อนเข้าสู่ตลาดแรงงาน ซึ่งทหารกลุ่มนี้ถือเป็นแรงงานที่มีคุณภาพ เพราะได้รับการฝึกความมีระบียบ วินัย และความอดทน ที่รับจากการฝึกตามกฎระเบียบของค่ายทหารมาเป็นอย่างดี การฝึกทักษะด้านอาชีพจึงเป็นการเพิ่มความรู้ความสามารถให้แก่ทหารหลังจากปลดประจำการแล้ว สามารถกลับไปทำงานปรพอบอาชีพอิสระตามภูมิลำเนา หรือเข้าสู่การทำงานในสถานประกอบกิจการได้ ดังนั้น การลงพื้นที่ที่จังหวัดนครราชสีมาในครั้งนี้ เป็นการย้ำถึงความมุ่งมั่นและความร่วมมือระหว่างกองพลทหารกับกรมพัฒนาฝีมือแรงงานที่ร่วมกันพัฒนาทักษะให้แก่ทหารก่อนปลดประจำการ ซึ่งมีการฝึกเกือบทุกจังหวัด
นางสาวบุปผา กล่าวต่อไปว่า ในวันนี้ (5 เม.ย. 66) ได้รับมอบหมายจากปลัดกระทรวงแรงงาน นายบุญชอบ สุทธมนัสวงษ์ ให้ลงพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา เพื่อร่วมในพิธีบันทึกข้อตกลงความร่วมมือว่าด้วยการส่งเสริมการพัฒนาฝีมือแรงงาน ทักษะอาชีพให้แก่แรงงานทุกระดับ ระหว่างสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 5 นครราชสีมา มีนายปราบพล โล่ห์วีระ กับกองพลพัฒนาที่ 2 ค่ายสุรธรรมพิทักษ์ มีพล.ต.ไพรวัลย์ จุ้ยเจริญ ผู้บัญชาการกองพลพัฒนาที่ 2 เพื่อร่วมกันพัฒนาทักษะฝีมือแรงงานให้แก่ทหารกองประจำการก่อนปลดเป็นกองหนุน มีความรู้ความสามารถสอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงานในระดับภูมิภาคและระดับประเทศ โดยบูรณาการการใช้ทรัพยากรร่วมกันทั้งวิทยากรฝึกอบรม บุคลากร เครื่องมืออุปกรณ์ อาคารสถานที่ และปัจจัยอื่นๆที่เกี่ยวข้องให้เกิดประโยชน์สูงสุด นอกจากนี้ได้มอบวุฒิบัตรให้แก่ผู้ผ่านการฝึกอบรมอีกด้วย
โดยในปีงบประมาณ พ.ศ.2566 ได้ร่วมกันฝึกอบรมให้แก่ทหารกองประจำการก่อนปลดเป็นกองหนุน จำนวน 219 นาย ใน 5 สาขาอาชีพ ประกอบด้วย ช่างเชื่อมไฟฟ้า ช่างบำรุงรักษาเครื่องปรับอากาศขนาดเล็ก ช่างเดินสายไฟฟ้าภายในอาคาร ช่างซ่อมรถจักรยานยนต์ และช่างซ่อมเครื่องยนต์เล็ก เพื่อการเกษตร หลังจากปลดประจำการแล้วคาดหวังว่าจะนำความรู้ไปประกอบอาชีพและมีรายได้ดูแลครอบครัวต่อไป
"ทหารกองประจำการ เป็นบุคลากรและแรงงานที่สถานประกอบกิจการมีความต้องการ เนื่องจากผ่านการฝึกความมีระเบียบ วินัย และความอดทน ที่ใช้ระยะเวลาในการฝึกนานนับปี การฝึกระยะสั้นด้านอาชีพที่กรมฯฝึกอบรมให้นั้น จึงเป็นการเติมเต็มทักษะเฉพาะทาง ให้มีความพร้อมในการทำงาน ไม่ว่าจะนำความรู้ไปประกอบอาชีพอิสระหรือทำงานในสถานประกอบกิจการก็ตาม สิ่งที่มุ่งหวังคือการมีอาชีพและมีรายได้ที่มั่นคงสามารถดูแลตนเองและครอบครัว เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจขอประเทศไปในทิศทางที่ดีขึ้น" นางสาวบุปผา กล่าวทิ้งท้าย
ที่มา: กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน
