นายธัชพล วงษ์รักษา รองผู้อำนวยการฝ่ายบริหารโครงการ อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ ประเทศไทย เผยว่า อุตสาหกรรมความงามในประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียน กำลังมีกระแสการเติบโตไปในทิศทางบวก เห็นได้จากสัญญาณฟื้นตัวหลังช่วงล็อกดาวน์ที่ผู้บริโภคออกมาใช้ชีวิตกันตามปกติมากขึ้น ประกอบกับเทรนด์ดูแลสุขภาพผิวได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นในระยะหลัง ทำให้สินค้าความงามทุกกลุ่มต่างเป็นที่ต้องการในตลาด ทั้งกลุ่มที่ใช้ในการผลิตไปจนถึงผลิตภัณฑ์สำเร็จรูป
เช่นเดียวกับฝั่งเครือข่ายธุรกิจและผู้ประกอบการความงามที่ต่างมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง จากการจัดงานแสดงสินค้า Cosmoprof CBE ASEAN 2022 ที่ผ่านมา มีผู้ประกอบการเข้าร่วมแสดงสินค้า 253 รายจาก 13 ประเทศ พร้อม 5 พาวีเลี่ยนนานาชาติ รวมถึงมีผู้เข้าชมงาน 8,216 คนจาก 60 ประเทศ
"Cosmoprof CBE ASEAN คืออีเว้นต์แสดงสินค้าความงามเพื่อธุรกิจที่เป็นหมุดหมายใหญ่ระดับโลก ซึ่งทุกปีเราจะได้เห็นผู้ประกอบชั้นนำจากนานาประเทศ มารวมตัวจัดแสดงเทรนด์และนวัตกรรมความงาม อาทิ กลุ่มเครื่องสำอาง สกินแคร์ แฮร์แคร์ ผลิตภัณฑ์น้ำหอม รวมถึงวัตถุดิบและเทคโนโลยีการผลิตต่าง ๆ ที่สำคัญ พื้นที่นี้ยังเป็นโอกาสดีของผู้ประกอบการไทยในการแลกเปลี่ยนความรู้ ประสบการณ์ บนเวทีสัมมนาที่มีเนื้อหาสดใหม่ หรือการร่วมเจรจาทำการค้ากับผู้ซื้อที่มีศักยภาพเพื่อการเติบโตที่มั่นคงในธุรกิจ"
สำหรับงานในปีนี้ "Cosmoprof CBE ASEAN 2023" จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 14-16 กันยายน 2566 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ (QSNCC) ซึ่งครอบคลุมพื้นที่จัดแสดงมากกว่า 17,000 ตารางเมตร เพื่อรองรับกับผู้ร่วมจัดแสดงสินค้าและแบรนด์ความงามมากกว่า 1,000 รายจาก 20 ประเทศทั่วโลก และสินค้ามากกว่า 10,000 รายการ หรือคิดเป็นจำนวนเพิ่มขึ้น 38% จากปี 2565 พร้อมด้วยพาวีเลี่ยนหลัก 6 ประเทศ นำโดย จีน ญี่ปุ่น อิตาลี เกาหลี เป็นต้น ที่เข้ามาร่วมสร้างสรรค์โอกาสใหม่ ๆ ให้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง และสร้างแรงขับเคลื่อนให้ตลาดความงามเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ถูกยกระดับอย่างเป็นรูปธรรม โดยคาดว่าจะมีผู้เข้าชมงานมากกว่า 12,000 คนจาก 60 ประเทศ หรือเพิ่มขึ้น 23% จากปี 2565 โดยเน้นไปที่กลุ่มผู้ซื้อชั้นนำจากเอเชีย ยุโรปและอาเซียน
ภายในงาน Cosmoprof CBE ASEAN 2023 มีไฮไลต์สำคัญที่ช่วยเพิ่มความสามารถในการพัฒนาธุรกิจอยู่มากมาย อาทิ แพลตฟอร์ม 'Match&Meet' โปรแกรมจับคู่ที่ถูกจัดเตรียมไว้สำหรับอำนวยความสะดวก ในการสร้างเครือข่ายนัดหมายการเจรจาธุรกิจระหว่างผู้จัดแสดงสินค้าและผู้ซื้อ เพื่อให้สองฝ่ายสามารถนัดหมายเจรจาธุรกิจกันได้อย่างง่ายดาย โดยคาดว่าในงานจะมีผู้ซื้อในแพลตฟอร์มกว่า 500 รายจากทั้งประเทศไทย รวมไปถึงกลุ่มประเทศอาเซียน ยุโรป และสหรัฐอเมริกา เข้าใช้บริการในแพลตฟอร์มดังกล่าว
รวมถึง สัมมนา 'CosmoTalks' ที่เข้ามาเติมเต็มความรู้ความเข้าใจในอุตสาหกรรมความงามสำหรับนักธุรกิจ ให้ทราบถึงแนวโน้มและข้อมูลเชิงลึกในอุตสาหกรรมภายใต้หัวข้อต่าง ๆ ที่น่าสนใจ อาทิ เทรนด์ความงาม, การวิเคราะห์ตลาดความงามในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้, อุตสาหกรรมความงามทางการแพทย์ที่กำลังเติบโต, การค้าปลีกและการตลาดดิจิทัลสู่ความยั่งยืน และโซลูชันซัพพลายเชนสำหรับผู้ผลิต นอกจากนี้ภายในงานยังมีจุดสาธิตการแสดงสาธิตสินค้า 'CosmoOnstage' โดยกลุ่มอินฟลูเอนเซอร์ ช่างแต่งหน้า ช่างทำเล็บ ช่างทำผม กลุ่มผู้เชี่ยวชาญจากโรงเรียนวิชาชีพและสมาคมต่าง ๆ ซึ่งเวทีนี้ยังเป็นศูนย์กลางจุดแรงบันดาลใจ สร้างไอเดียริเริ่มใหม่ ๆ ผ่านกิจกรรมพิเศษที่มีแค่ที่งาน Cosmoprof CBE ASEAN 2023 เท่านั้น ไม่ว่าจะเป็น
WORLD MASSAGE MEETING การร่วมมือครั้งสำคัญของผู้เชี่ยวชาญด้านการนวดแบบองค์รวม โดยทั้ง 4 ท่าน ที่จะมาแสดงเทคนิคเคล็ดลับต่าง ๆ พร้อมศาสตร์การนวดแบบผสมผสานระหว่างตะวันออกและตะวันตกให้ผู้ที่สนใจเข้าชมNAIL COMPETITION การแข่งขันด้านการทำเล็บที่จัดโดย WATC (WE ARE THE COMPANY) โดยมีผู้สนับสนุนอย่างเป็นทางการจากนิตยสาร NAILHOLIC ของประเทศเกาหลีใต้ ที่เปิดโอกาสให้ช่างทำเล็บมืออาชีพผู้มีความสามารถ ได้แสดงทักษะความคิดสร้างสรรค์กันในเวทีใหญ่ระดับภูมิภาคEYELASHES DEMONSTRATION เวทีสาธิตเรื่องขนตาจากมืออาชีพในอุตสาหกรรมกับโอกาสในการเรียนรู้เทคนิคล่าสุดในการต่อขนตาจากผู้เชี่ยวชาญทั้งไทยและต่างประเทศ
นายธัชพล เสริมต่อว่า อุตสาหกรรมความงามในประเทศไทย มีจุดแข็งสำคัญในฐานะแหล่งวัตถุดิบของเครื่องสำอางธรรมชาติที่กำลังเป็นที่นิยมอย่างมากทั่วโลก และมีมูลค่าตลาดสูงถึง 2.3 แสนล้านบาท รวมถึงเป็นฮับการผลิต OEM ที่มีชื่อเสียงระดับโลก ภายในงานจึงมีพื้นที่พิเศษสำหรับผู้ผลิตหรือบริษัทแบรนด์คนไทย สำหรับการสนับสนุนให้ผู้เข้าชมหรือผู้ซื้อจากต่างประเทศ ได้เข้าถึงและสัมผัสกับคุณค่า เอกลักษณ์ รวมไปถึงประสบการณ์ความงามต้นตำรับไทยแท้ ในโซน 'BEAUTY MADE IN THAILAND' โดยเฉพาะ
"Cosmoprof CBE ASEAN 2023 เป็นอีเว้นต์ครั้งสำคัญที่เราได้รับการสนับสนุนจากทั้งภาครัฐและสมาคมการค้า นำโดย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (F.T.I.) สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม(สสว.) สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (TCEB) และ สมาคมผู้ผลิตเครื่องสำอางไทย (TCMA) ทำให้งานมีจุดแข็งต่าง ๆ มาใช้ เพื่อให้ผู้จัดจากต่างประเทศสามารถนำเสนอตัวตนได้เต็มความต้องการ อาทิ ผู้ให้บริการชั้นนำด้านบรรจุภัณฑ์ยั่งยืนจากประเทศจีน, K-Beauty ผู้จุดเทรนด์กระแสความงามที่แปลกใหม่จากประเทศเกาหลีใต้, ผู้นำด้านผลิตภัณฑ์ที่หรูหราและคุณภาพสูงจากประเทศอิตาลี รวมถึงผู้จัดชั้นนำอื่น ๆ อีกมากมาย อาทิ ญี่ปุ่น สเปน มาเลเซีย ไต้หวัน สหรัฐอเมริกา เวียดนาม ฯลฯ
"โดยอินฟอร์มาฯ มั่นใจว่างานแสดงสินค้าเพื่อธุรกิจความงามตลอด 3 วันนี้ จะสร้างเม็ดเงินสะพัดให้กับอุตสาหกรรมความงามได้มากถึง 1,000 ล้านบาท" นายธัชพล ทิ้งท้าย
ติดตามข่าวสารและรายละเอียดงานเพิ่มเติมได้ที่ https://www.cosmoprofcbeasean.com/
ที่มา: โฟร์ฮันเดรท
